สวนดอกไม้
มีเรื่องเล่าเป็นนิทานสอนหญิง สงสัยว่าน่าจะแต่งขึ้นโดยผู้ชาย
เอาไว้ขู่สาวเจ้า
เวลาคุณเธอเกิดความลังเลขึ้นเมื่อจะต้องเลือกที่จะรักใครสักคน
เรื่องนี้บางคนอาจจะพอคุ้นๆ แต่จะเล่าอีกครั้งจะเป็นไรไป
รับรองไม่เหมือนเดิม...
เรื่องมีอยู่ว่า เจ้าของสวนดอกไม้ระดับส่งออกต่างประเทศ
มีสวนดอกไม้ใหญ่โตสวยงาม
และก็มีเด็กสาวน่ารักคนหนึ่งแวะเวียนมาเยี่ยมที่ริมสวนดอกไม้เป็นประจำ
ด้วยความที่อยากได้ดอกไม้กลับไปไว้เชยชมที่บ้าน
เพราะรู้ว่ามีเด็กสาวหลายคน
เคยได้ดอกไม้สวยงามจากสวนนี้...
วันหนึ่งด้วยความใจดีของเจ้าของสวน หรือด้วยความทนลูกตื้อไม่ไหวก็ตามแต่
เค้าก็เลยอนุญาตให้สาวน้อยเข้าไปเดินชม
และเลือกนำดอกไม้กลับไปได้เพียงหนึ่งดอก
(อารายกานเนี่ย แค่ดอกเดียวเอง)
แถมยังมีข้อแม้ว่าเดินไปแล้วห้ามเดินย้อนกลับมาโดยเด็ดขาดนะ
เดี๋ยวถาดเพาะต้นอ่อน ที่อยู่ในสวนจะติดเชื้อเน่าตาย อะไรทำนองนั้น...
ด้วยความดีใจ เด็กสาวเข้าไปเดินเล่นชมสวนอย่างเพลิดเพลิน
ได้พบเห็นดอกไม้ต่างๆ
มากมายหลากสี หลายพันธุ์ บางดอกราคาถูก บ้างก็ราคาแพง
คิดจะเลือกดอกหนึ่ง
ก็เสียดายว่าจะเจอดอกที่ถูกใจกว่าข้างหน้า ชมไปชมมาเสียจนเพลิน
เดินไปถึงประตูทางออก ตกใจสุดขีด เอาเข้าให้แล้วไง...
ห้ามเดินย้อนกลับไปนี่นา
หันไปมองเจ้าของสวน ทำตาดุบอกห้ามย้อนกลับมาเด็ดขาด เธอเลยจำเป็น
ต้องก้มลงเลือกเด็ดดอกหญ้าที่อยู่ริมประตูทางออกไปได้เพียงดอกเดียว
ด้วยความที่สาวน้อยมัวแต่ลังเล
ทำให้เธอไม่ได้ในสิ่งที่ดีที่สุดที่เธอหวังไว้... เฮ้อ!
แต่ในชีวิตจริงๆแล้ว... ยังมีคำว่าโค้งสุดท้ายไว้ให้ลุ้น
เพราะอาจจะมีเด็กสาวคนอื่นๆ ก่อนหน้านี้
ที่ไม่ได้ระวังดูแลดอกไม้ที่เธอได้ไปอย่างดีพอ
เรียกว่ายังไม่ทันเอาไปปักแจกันที่บ้าน แกว่งเล่นซะหลุดมือไปเลย
หรือไม่ก็ลืมวางทิ้งไว้ไม่สนใจ เพราะมัวแต่เดินช็อบปิ้งหาชุดแขนกุดสุดสวย
ลองใส่ซะเพลิน...
บางทีเด็กสาวคนนี้อาจจะได้มีโอกาสดูแลดอกไม้ดอกนั้นแทนเด็กคนอื่นๆก็ได้
เพราะดอกไม้ดอกนั้นเองก็อาจจะหวังว่าจะได้เจอเจ้าของใหม่ที่ดูแลเค้าดีกว่านี้
อ้าว...พูดอย่างนี้ ก็ยุกันมั่วๆนี่นา อย่างนี้ไม่แย่งกันตายเหรอ...
อ้าว... (อีกครั้ง) ถ้าผมถามกลับไปบ้างว่า แล้วคุณๆ ได้ดูแลสิ่งที่คุณมีอยู่
หรือคนที่คุณเลือกเค้าไว้ดีพอรึยัง ถ้าวันหนึ่งคนที่คุณเลือกที่จะอยู่ด้วย
ต้องอยู่กับคุณด้วยความลำบากใจ ไม่มีความสุข
โดยที่คุณไม่ได้คิดสนใจที่จะแก้ปัญหา
วันหนึ่งเค้าอาจจะเป็นเพียงดอกไม้ที่เหี่ยวเฉาในแจกัน
หรืออาจจะเป็นดอกไม้ที่ปล่อยละอองเกสรพิษ
ที่ทำให้คุณเป็นภูมิแพ้จนโคม่าเข้าโรงพยาบาลไปเลยก็ได้...
จริงๆแล้วสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นในชีวิตคู่
บางครั้งอาจจะเกิดขึ้นเพื่อความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
หรือในบางครั้งอาจจะเกิดขึ้นเพียงเพื่อทดสอบความรักแท้ของคนสองคนก็ได้
ผลที่ออกมานั้น ไม่ว่าจะรักษารักนั้นไว้ได้อยู่ หรือต้องแยกจากกัน
ก็มีผิด...มีถูก...ตามมุมมองของแต่ละคนไป...
พวกหนุ่มๆเวลาได้ไปเจอสาวๆที่ถูกใจในสถานที่ต่างๆ
เพียงแค่ได้รู้ว่าสาวเจ้ามีแฟน หรือมีคนมาชอบอยู่แล้วเท่านั้น
กำลังใจหายไปกว่าครึ่ง รวมกับอีกครึ่งที่ไม่ค่อยจะมีอยู่แล้ว
ไม่กล้าคุยไม่กล้ามอง ก็เลยมีอันกลายเป็นพระเตมีย์ใบ้
ไม่ต้องได้รู้จักกัน...
เพื่อนผมคนหนึ่งเคยพูดทะลุกลางปล้อง กลางขวดเหล้าขึ้นมาอย่างมั่นใจว่า
จะไปกลัวอะไรกันนักกันหนา โถ
แต่งงานแล้วยังหย่าเลย เค้าแค่เป็นแฟนกัน
ถ้าชอบก็ลองจีบดูสิ ฮาตูม...เอากะมันสิ แถมเค้ายังเสริมอย่างมีหลักการว่า
บางทีผู้หญิงเค้าอาจจะไม่มีทางเลือกที่ดีกว่านี้ก็ได้
เราก็มีสิทธิ์ที่จะชอบเค้านี่หว่า ถ้าเค้ารักกันจริงๆ
ยังไงๆเค้าก็ไม่สนใจเราหรอก
แต่ถ้าเค้ากำลังรอใครสักคนที่ดูแลเค้าได้ดีกว่า...
บางที... คนๆนั้นอาจจะเป็นเราก็ได้นะว๊อย
อืมม...ฟังดูแล้วมีเหตุผล และดูเข้าที
แต่ใครจะเอาลูกกระพรวนไปผูกคอแมวล่ะครับ
พูดหน่ะง่ายกว่าทำเยอะ คนยุก็ยุกันไปฮากันไป
ก็เป็นคนดูนี่ครับ...ไม่ต้องเสียเลือดเสียเนื้ออยู่แล้ว...
แต่ในทางกลับกันถ้าคนๆนั้นเป็นอะไรที่คุ้มค่าที่จะเสี่ยง ผมคิดว่า
ตัวของคุณเอง ก็จะรู้เองว่าเค้าคุ้มค่า
และผมเชื่อว่าคุณก็จะกล้าลองเสี่ยงทำในสิ่งที่เพื่อนของผมบอก
ให้มันรู้กันไปเลย
ต่อให้ช้างมาฉุด ก็ไม่รอดมือเรา... ว่าเข้าไปนั้น...
มีเพื่อนคนสวยของผมอยู่คนหนึ่ง เธอเป็นเหมือนเด็กสาวที่ในที่สุด
วันหนึ่งก็ไม่ได้เลือกเด็ดดอกไม้จนสุดปลายสวน
และเลือกที่จะเด็ดดอกหญ้าหนึ่งดอก
และไม่ได้เปลี่ยนใจไปหาดอกอื่นข้างนอกสวน
เพราะเธอเชื่อว่าดอกไม้ทุกดอกมีค่า
และความสวยงามเหมือนๆกัน เธอเคยกับบอกผมว่า เชื่อฉันเถอะ...
จะเลือกอยู่กับใครสักคนมันก็เหมือนๆกัน บางทีมันอยู่ที่ตัวเราเอง
พูดจริงๆไม่โกหก...
จริงๆแล้วดอกหญ้าของเธออาจจะไม่เหมาะ และดูไม่มีค่าในที่ๆหนึ่ง
แต่ในสถานที่ที่แตกต่างกันออกไป ในที่ที่ดอกไม้สวยงาม
มีราคาแพงไม่มีประโยชน์
ดอกหญ้าที่เลี้ยงง่ายแพร่พันธุ์ได้อย่างรวดเร็วกลับกลายเป็นพืชที่ทำให้
เธอร่ำรวยมีความสุขได้ ใช่แล้วครับ สิ่งที่เธอพูดมาไม่ได้โกหกเลย...
เธอมีความสุขกับคนที่เธอรักเป็นอย่างมาก
และกำลังมีหลานออกมาให้ผมเป็นอุ้มหนึ่งคน
บางทีอาจจะถึงเวลาที่คุณต้องเลือกแล้วว่า คุณจะเลือกที่จะรักใคร
และมีความสุขที่จะอยู่กับคนไหน เพราะจริงๆ แล้วความสุขนั้น
ก็ขึ้นอยู่ที่ตัวของเราเอง... เหมือนกับที่ผมไปแอบไปจำมา
ซึ่งไม่รู้ถูกรึเปล่าว่า
Nothing could make good at... Thinking makes it so... ของ
William
Shakespeare
คนที่แต่งเรื่อง โรมิโอ แอนด์ จูเลียส อันโด่งดัง
ตามด้วยคำกล่าวของน้องสาวซนๆคนนึงที่ผมรู้จักว่า โอ๊ยย... ไม่กลัวหรอก
ตกรถไฟเที่ยวสุดท้าย ก็ยังมีรถไฟฟ้าอีกย่ะ
ฮาๆๆ ระวังตกรถไฟฟ้าต้องไปนั่งซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์นะยัยหนู...
ว่าแต่คุณๆเถอะเลือกที่จะเด็ดอะไรสักดอกรึยังค่ะ...