พออยู่ พอกิน

เมืองไทยในกาลก่อนอุดมไปด้วยทรัพย์ในดินสินในน้ำ ผู้คนยังน้อย การทำมาหากินจึงสะดวก การดำเนินชีวิตเป็นไปอย่างเรียบง่าย

ครั้นถึงปัจจุบัน ขณะที่ความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรลดลง ผู้คนกลับเพิ่มขึ้น ผู้ที่ไม่ขยันขันแข็งไม่รู้จักขวนขวาย ก็จะครองชีวิตลำบากขึ้น และถึงแม้สำหรับผู้ที่ขยัน หากยังคงลุ่มหลงอยู่กับกระแสบริโภคนิยม ก็จะยิ่งทวีความฝืดเคืองยิ่งขึ้น

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงตระหนักถึงความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้มานานแล้ว และได้พระราชทานแนวความคิดในการแก้ไข ฟื้นฟู สู่ประชาราษฎร์อย่างต่อเนื่องตลอดมา โดยกระแสหลักได้ทรงมุ่งเน้นไปสู่ปรัชญาการดำรงชีวิตแบบไทย ให้นำแนวความคิดแบบพออยู่พอกิน ในวันเก่ามาประยุกต์ให้เข้ากับวิถีชีวิตที่ซับซ้อนในวันใหม่ รู้จักกิน รู้จักใช้ อยู่อย่างไม่ฟุ้งเฟ้อฟุ่มเฟือย รับผิดชอบการงานอย่างไม่เฉื่อยชา รู้รักสามัคคี เพื่อสร้างสรรค์สิ่งที่ดีให้ส่วนรวม

เราจะเป็นสังคมใหม่ที่มั่นคงด้วยพลังภายในบนรากฐานดั้งเดิมของเราได้ และก้าวมั่นทันโลกในศตวรรษใหม่สืบไปอย่างยั่งยืน

เลือกทำที่ถนัด

สภาพแวดล้อมที่สมบูรณ์ คือปัจจัยสำคัญที่เกื้อหนุนให้บรรพชนไทย ประกอบอาชีพเพาะปลูก และสั่งสมเป็นภูมิปัญญาถ่ายทอดมาสู่ลูกหลาน ทุกวันนี้เรามีความถนัดที่ซับซ้อนและหลากหลายขึ้นตามสาขาอาชีพ แต่เราก็ต้องไม่ลืมว่าเกษตรกรรม คือแนวทางหลักที่เหมาะสมที่สุด เราต้องช่วยกันผลักดันส่งเสริมยึดถือไว้ เพื่อเป็นจุดแข็งที่สำคัญและทางออกที่ยั่งยืนสืบไป

 

นิยมไทย

ยิ่งหลงใหลได้ปลื้มไปกับความเจริญของคนอื่นมากเพียงใด ก็จะยิ่งหลงลืมรากเหง้าของตนเองไปมากเพียงนั้น บ้านเรามีมรดกทางธรรมชาติ และอารยธรรมที่ล้ำค่า ด้วยมือที่ช่ำชองหัตถศิลป์สืบทอดกันมา ก้อนดินจึงเปลี่ยนเป็นเครื่องใช้ ใยไหมและปุยฝ้ายจึงแปรไปเป็นแพรพรรณอันงดงาม หากเราช่วยกันอุดหนุนสินค้าพื้นบ้าน มรดกเหล่านี้ก็จะสืบสานอยู่ต่อไปอีกนับนาน

 

กินอยู่เรียบง่าย

วัฒนธรรมการกินอยู่ของคนไทยตั้งแต่สมัยปู่ย่าตายาย แม้บางครั้งจะมีการเฉลิมฉลอง พรั่งพร้อมไปด้วยอาหารที่วิจิตรบรรจง ตามวาระแห่งขนบธรรมเนียมประเพณี ในยามปกติ เรามีความเป็นอยู่ที่เรียบง่าย ข้าวปลาอาหารของเรา คือผลผลิตตามฤดูกาลจากธรรมชาติที่หลากหลาย ซึ่งเป็นปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีวิตที่เรามีอยู่แล้วอย่างพอเพียง

 

ถอยหลังเพื่อก้าวหน้า

บางครั้งที่เราเผชิญปัญหาอาจจำเป็นต้องถอยกลับมาเพื่อหยุดคิดและไตร่ตรองให้รอบคอบ ค้นหาต้นสายปลายเหตุให้ชัดเจน เพื่อจะได้แสวงหาหนทางใหม่ที่ถูกต้องและเหมาะสม ตระเตรียมความรู้ เพิ่มพูนสติปัญญาให้เห็นหนทางก้าวหน้าที่แท้จริง เมื่อเราก้าวออกเดินอีกครั้งทุกย่างก้าวจะเต็มไปด้วยความมั่นคงและยั่งยืน

 

พึ่งพาตนเอง

การทำการเกษตรที่ดีควรมีแหล่งน้ำเป็นของตนเอง ดังทฤษฎีใหม่ขององค์พ่อหลวง ความจริงนั้นคนไทยเรามีความรู้ ความสามารถมากพอที่จะ พัฒนาเทคโนโลยีที่สอดคล้องกับความต้องการของเราเองได้ มีทรัพยากรสำหรับการผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคภายในประเทศอย่างเพียงพอ ดังนั้นเราจึงควรพึ่งพาสิ่งที่เรามีอยู่ ช่วยเหลือตัวเองให้มากเท่าที่จะเป็นไปได้ แม้เราจะเติบโตไม่รวดเร็ว แต่เราก็จะมั่นคงด้วยพลังภายในของเราเอง

 

รู้รักสามัคคี

สามัคคีคือพลัง เป็นแนวคิดที่ได้รับการปลูกฝังมาพร้อมกับสังคมไทย สะท้อนให้เห็นอยู่เสมอในงานบุญงานกุศลต่าง ๆ ว่าคนไทยไม่เคยทิ้งกัน ผู้ใหญ่ก็ช่วยเหลือผู้น้อย ผู้มีมากก็คอยเกื้อกูลผู้ขัดสน สังคมจึงอยู่ได้อย่างยืนยงมานับนาน วันนี้เราจะกลับไปฟื้นฟูความสมานสามัคคีที่มีค่าเหล่านั้น เพื่อผนึกกำลังกัน สร้างสังคมให้กลับแข็งแกร่งเป็นปึกแผ่นอีกครั้งภายใต้ร่มพระบรมโพธิสมภาร

 

ปฏิทิน ปี พ.ศ. 2543 หรือ ค.ศ. 2000 ของ

องค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย

ปัจจุบันคือ บริษัท ทศท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)

จัดทำโดย

ฝ่ายประชาสัมพันธ์ องค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย

ที่ปรึกษาด้านข้อมูล

รศ. ประคอง นิมมานเหมินท์

ออกแบบโดย

DB designs