ค ลิ นิ ก เ ด็ ก ดี (dek:D)


* หู น้ ำ ห น ว ก เ ฉี ย บ พ ลั น *



ear = หู


สาเหตุ

1. เกิดจากการเป็นหวัดบ่อยๆและเรื้อรัง
2. เกิดจากการทำอันตรายต่อแก้วหูโดยตรง
สาเหตุในข้อหนึ่ง มักเกิดขึ้นในเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 8 ปี ทั้งนี้เนื่องจากในอวัยวะของเรา โดยเฉพาะหูส่วนกลางทั้งสองข้าง (ซ้ายและขวา) จะมีท่อทางระบายติดกับช่องปาก ในกรณีที่เราเป็นหวัด ท่อทั้งสองจะบวมและเกิดการปิดกั้นขึ้น บางครั้งจึงทำให้เราหูอื้อเมื่อเป็นหวัด และถ้าปล่อยทิ้งไว้ ไม่รักษาก็จะมีการคั่งของน้ำในหูส่วนกลาง ทำให้เกิดการเพาะเชื้อโรคขึ้น และกลายเป็นน้ำหนอง เมื่อน้ำหนองมากขึ้น ก็จะดันแก้วหูให้แตก และกลายเป็นหูน้ำหนวก
ส่วนสาเหตุในข้อสอง มักเกิดจากการแคะขี้หู และไปถูกแก้วหู ทำให้แก้วหูแตก เชื้อโรคจากหูส่วนนอกก็จะคืบคลานเข้าไปในหูส่วนกลาง ทำให้เกิดหูน้ำหนวกได้เช่นกัน

การรักษา

ถ้าเป็นหูน้ำหนวกในระยะเฉียบพลัน สามารถรักษาให้หายขาดเป็นปรกติได้โดยการใช้ยากิน คือยาปฏิชีวนะ และยาขยายท่อทางระบาย การรักษาอาจจะต้องกินยา 2 ชนิดนี้ ประมาณ 3 สัปดาห์ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับอาการและความรุนแรง การรักษาควรจะเป็นไปอย่างต่อเนื่อง เพราะเมื่อหายแล้ว แก้วหูก็จะปิดดังเดิม การได้ยินก็จะกลับมาเป็นปรกติ ในกรณีที่ไม่รีบรักษา หรือรักษาไม่ต่อเนื่อง หูน้ำหนวกชนิดเฉียบพลันนี้ ก็จะกลายเป็นหูน้ำหนวกชนิดเรื้อรัง ซึ่งบางครั้ง อาจต้องรักษาโดยการผ่าตัด แต่การได้ยินก็จะยังคงถูกทำลายลงบางส่วน ทำให้การรับฟังได้ไม่ดีเท่าปรกติ
การรักษาหูน้ำหนวกชนิดเฉียบพลัน ไม่จำเป็นต้องใช้ยาหลอดหูเลย การใช้ยาหยอดหูบางครั้ง

การป้องกัน

เมื่อเป็นหวัด ควรรีบรักษา โดยเฉพาะในเด็ก และการแคะขี้หู ควรทำอย่างระมัดระวัง หูเป็นอวัยวะที่สำคัญมากของเรา




ที่มา : นิตยสาร สวนเด็ก ปีที่ 2 ฉบับที่ 16 เดือน มิถุนายน ปี 2533 : หน้า 23
เรื่อง : พญ. สุพิณ มหาพรรณ



ห น้ า แ ร ก | ^ น่ า รู้ ^ | อู ฐ | ค ลิ นิ ก เ ด็ ก ดี | ~ เ พ ลิ น นิ ท า น ~ ~