[Home] [เว็บบอร์ด] [สมุดเยี่ยม] [กิจกรรม] [สมาชิก] [Link]
>>>Music In TASNEEWAN SHCOOL<<<
music
พึ่งมีโฮมเพจครั้งแรกเลยอยากรุ้ว่าศิลปินไทยสากลคนไหนฮิตสุดๆๆก็อยากให้ช่วยตอบแบสอบถามด้วยนะ
เลือกได้แค่คำตอบเดียวเท่านั้น
บัวชมพู
SO COOL
d2b
โบกี้ดอจ
พีชเมคเกอร์

ตรงนี้ก็อยากจะให้ลองจัดลำดับเพลงไทยเดิมที่คุ้นหูกันมากที่สุดนะเรารอคำตอบจากผู้เยี่ยมชมทุกคนนะช่วยตอบกันมาด้วยจะได้เอาไปจัดอำดับอะ......
เลือกได้แค่คำตอบเดียวเท่านั้น
ลาวดวงเดือน
ค้างคาวกินกล้วย
ลาวดำเนินทราย
เขมรไทรโยค
ชวา

ถ้าคุณทำแบบสอบถามไปแสดงว่าคุณถุกหลอกการโวตรไม่มีผลอะไรเรย555+เพราะหน้านี้จะเกี่ยวกับข่าวคราววงการเพลง.....ถ้าคุณอ่านข้างล่างแล้วคุณก็จะได้รู้....นะจ้ะ
ข่าวคราวเพลงไทย
ตอนนี้กระแสโหมโรงกำลังฮิตใครไม่ได้ดูก็ถือว่าเชยนะเนี้ยถึงแม้ว่ามันจาออกโรงไปแล้ว(แต่เอ้ออกยังหว่า)เลยเอารูปมาลงให้ดูหงะ
Html Step4

Html Step4
เรื่องย่อจ้ะ
ณ ประเทศสยาม พุทธศักราช 2429 "ศร" (อนุชิต สพันธุ์พงษ์) เด็กหนุ่มผู้มีชะตาชีวิตลิขิตให้ผูกพันกับดนตรีไทยมาตั้งแต่เกิด ต้องผ่านอุปสรรคนานัปการกว่าจะได้รับการถ่ายทอดฝีไม้ลายมือในเชิงระนาดจาก "ครูสิน" บิดาซึ่งเป็นครูสอนดนตรีไทยที่มีชื่อเสียงแห่งอัมพวา โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากสูญเสียพี่ชายซึ่งเป็นนักระนาดหนุ่ม ที่ต้องพบจุดจบของชีวิต ด้วยน้ำมือของคู่ปรับผู้พ่ายแพ้ในการดวลระนาด ทำให้ครูสินหยุดการ สอนดนตรีไทยลง จนกระทั่งได้รับการเตือนสติจากหลวงพ่อ ทำให้ครูสินคิดได้ว่าไม่ควรปิดกั้นโอกาสและความสามารถของลูกชายคนเล็กที่มีพรสวรรค์ทางด้านระนาดตั้งแต่วัยเยาว์ จึงกลับมาสอนดนตรีไทยอีกครั้ง "ศร" ในวัยสิบกว่าขวบ จึงได้รับการถ่ายทอดฝีมือในทางระนาดจากบิดา โดยมี "ทิว" เพื่อนสนิทเพียงคนเดียวที่คอยช่วยเหลือ เป็นทั้งกำลังใจและผู้ฟังที่ดีมาตลอด
จนย่างเข้าเป็นหนุ่ม "ศร" กลายเป็นดาวเด่นโดยเฉพาะอย่างยิ่งฝีมือในเชิงระนาดที่ยากจักหาใครทัดเทียมในอัมพวา ผ่านการประชันขันแข่งเวทีแล้วเวทีเล่า เกิดลำพองในฝีมือของตน กระทั่งได้มีโอกาสเดินทางเข้าสู่บางกอก เมื่อบิดาได้พาไปชมการประชันทางด้านการแสดงระนาดของคณะครูแก้วซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของบิดา และที่นั่น"ศร" ได้เรียนรู้ถึงความพ่ายแพ้เป็นครั้งแรก เมื่อได้มีโอกาสขึ้นเล่นระนาดแทนนายขวด (บุ๋มบิ๋ม) ซึ่งเป็นมือระนาดเอกของคณะครูแก้วจนตกอยู่ในห้วงการประชันทางฝีไม้ลายมือกับ"ขุนอิน"(อาจารย์ณรงค์ฤทธิ์ โตสง่า) นักระนาดเอกผู้มีทางระนาดที่แข็งกร้าวดุดันและเป็น 1 ไม่เป็น 2 รองใคร จนพบกับความปราชัย
ศร" ครั้งหนึ่งซี่งเคยมั่นใจและลำพองในฝีมือระนาดของตนเอง ต้องเดินทางกลับบ้านด้วยหัวใจที่แตกสลาย เสียงระนาดอันดุดันหนักหน่วงของขุนอิน ยังคงดังกึกก้องเป็นเหมือนภาพหลอนที่ยังคงอยู่ในศรีษะของเขา หลังจากความภาคภูมิใจถูกทำลายไปจนหมดสิ้น แต่แล้วความสับสน ท้อแท้ สิ้นหวังกลับกลายเป็นความมุมานะที่จะฝึกฝนฝีมือจนสามารถคิดค้นเทคนิคการตีระนาดที่ไม่เหมือนใคร จนชื่อเสียงของศรร่ำลือไปจนถึงพระบรมมหาราชวัง จนได้รับการอุปถัมภ์ให้เป็นนักดนตรีประจำราชสำนักจากเจ้านายในวัง(สมภพ เบญจาธิกุล) ที่นั่นทำให้ "ศร" ได้พบกับแม่โชติ (อาระตี ตันมหาพราน)สตรีผู้สูงศักดิ์ในวังและได้กลายเป็นคู่ชีวิตในเวลาต่อมา
หนทางการเป็นนักระนาดเอกมือ1 ของแผ่นดินดูเหมือนยังคงห่างไกลจากจุดที่ศรยืนอยู่ ยังมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ศรจะต้องเรียนรู้ ตั้งแต่การฝึกสมาธิ,การควบคุมสติ และอารมณ์ที่พร้อมจะพลุ่งพล่านอยู่ตลอดเวลา ตราบใดที่ยังไม่สามารถสะบัดเสียงตีระนาดที่แสนจะบาดหูจากระนาดทางดุอย่างขุนอิน ยังมีบททดสอบอีกหลายประการที่การพิสูจน์ในความสามารถที่แท้จริงของศรโดยเฉพาะอย่างยิ่งปลายทางกับการประลองความสามารถทางระนาดกับมือ1 ของแผ่นดินอย่าง "ขุนอิน" (อาจารย์ณรงค์ฤทธิ์ โตสง่าแห่งวงบอยไทย)
ศ รเดินทางผ่านยุคทองของดนตรีไทย จากวัยหนุ่มสู่วัยชรา เขากลายมาเป็น "ท่านครู" (อดุลย์ ดุลยรัตน์) ครูดนตรีอาวุโส ผู้มีลูกศิษย์ลูกหามากมาย รวมทั้ง "เทิด" (ภูวฤทธิ์ พุ่มพวง) ลูกชายของทิว เพื่อนสนิทแต่วัยเยาว์ ซึ่งเดินทางมาขอฝากตัวเป็นศิษย์ และคอยอยู่ดูแลรับใช้ใกล้ชิด ในวัยที่ร่วงโรยนี้ ท่านครูยังคงเปิดรับต่อการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ รวมทั้งกระแสดนตรีตะวันตก ที่ลูกชายของท่านเอง (สุเมธ องอาจ) ได้เดินทางไปศึกษามาจากประเทศญี่ปุ่น แต่แล้ว ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ของบ้านเมือง ทั้งด้านการปกครองและวัฒนธรรม รวมทั้งสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่เกิดขึ้น ทำให้รัฐบาลมีนโยบายปรับปรุงประเทศ และพลเมืองให้มีความทันสมัย เป็นอารยะตามแบบชาติตะวันตก มีกฏระเบียบมากมายออกมา ควบคุมศิลปวัฒนธรรมแขนงต่าง ๆ รวมทั้งดนตรีไทย โดยมีนายทหารหนุ่ม (พงษ์พัฒน์ วชิระบรรจง) เป็นผู้ดูแลนโยบายนี้
สิ่ งที่เกิดขึ้นนี้ ก่อให้เกิดผลกระทบ และสร้างความปวดร้าวแก่นักดนตรีไทยทุกคน รวมทั้งท่านครู ซึ่งยังคงหาญกล้า ใช้เสียงเพลงของเขาต่อสู้ เพื่อพิสูจน์คุณค่าของดนตรีไทยที่เขารักดั่งชีวิต ดูเหมือนว่า "ชะตากรรม" จะนำให้บุรุษหนึ่งได้เดินทางผ่านยุคทองแห่งดนตรีไทย ค้นพบชัยชนะและความพ่ายแพ้ครั้งสำคัญจากวัยเยาว์สู่ช่วงบั้นปลายของวัยชรา จากจุดสูงสุดสู่จุดต่ำสุด เมื่อดนตรีไทยเริ่มถูกปิดกั้นจากทางรัฐบาลที่ต้องการให้ประเทศเป็นศิวิไลซ์ เป็นอารยะตามแบบตะวันตก
สิ่งที่เกิดขึ้นนี้สร้างความปวดร้าวให้กับคนดนตรีไทยทุกคนรวมทั้งศรแต่เขาก็ยังหาญกล้าใช้เสียงเพลงต่อสู้ เพื่อให้ดนตรีไทยที่เขารักดั่งชีวิตนั้นอยู่รอดจากการถูกทำลาย