Lop Buri - Singburi - Chainat - Uthaithani - Nakhon Sawan

Welcome to TAT Central Region 7

 
ตัวอย่างเส้นทางท่องเที่ยวจังหวัดสิงห์บุร
 
 


รายการที่ 1 เส้นทางท่องเที่ยวไหว้พระและล่องเรือชมวิถีชีวิตริมฝั่งแม่น้ำน้อย
จังหวัดสิงห์บุรี (1 วัน)


08.00 น. - ออกเดินทางจากกรุงเทพมหานคร ใช้เส้นทางสายเอเชีย (ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข
302) ผ่านพระนครศรีอยุธยา , อ่างทอง แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 309
ผ่านอำเภอไชโย จังหวัดอ่างทอง เข้าสู่วัดพิกุลทอง อำเภอท่าช้าง จังหวัดสิงห์บุรี
รวมระยะทางประมาณ 140 กิโลเมตร

09.30 น. - ถึงวัดพิกุลทอง นมัสการพระพุทธรูปนั่งปางประทานพร (หลวงพ่อใหญ่)

10.00 น. - ล่องเรือชมทัศนียภาพวิถีชีวิตริมฝั่งแม่น้ำน้อย (ท่าเรืออยู่ด้านหลังวัดพิกุลทอง)
- รับประทานอาหารกลางวัน

13.00 น. - ออกเดินทางไปชมอนุสาวรีย์วีรชนค่ายบางระจัน และวัดโพธิ์เก้าต้น ใช้เส้นทางสาย
สิงห์บุรี - สุพรรณบุรี (หมายเลข 3032) ระยะทางประมาณ 15 กิโลเมตร

14.00 น. - ออกเดินทางไปแหล่งเตาเผาแม่น้ำน้อย ภายในวัดพระปรางค์ อำเภอบางระจัน
ซึ่งเป็นแหล่งผลิตเครื่องปั้นดินเผาขนาดใหญ่ที่สุดในสมัยกรุงศรีอยุธยา จากค่ายบางระจัน
ใช้เส้นทางหมายเลข 3032 (กลับเข้ามาทางตัวเมืองสิงห์บุรี) ถึงสี่แยกเลี้ยวซ้ายเข้าสู่
ทางหลวงหมายเลข 3454 (สู่อำเภอบางระจัน) รวมระยะทางประมาณ 15 กิโลเมตร

15.30 น. - ออกเดินทางไปไปวัดพระนอนจักรสีห์วรวิหาร นมัสการพระพุทธไสยาสน์คู่เมือง
สิงห์บุรี เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่สมัยอยุธยา จากวัดพระปรางค์ใช้เส้นทางหลวง
หมายเลข 3454 (ย้อนกลับเข้าตัวเมืองสิงห์บุรี) ถึงสี่แยกเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวง
3303 และเลี้ยวขวาเข้าทางหลวง 3030 เข้าสู่ตัวเมืองสิงห์บุรี จากตัวเมืองถึง
วัดพระนอนจักรสีห์ ระยะทาง 4 กิโลเมตร
- สัมผัสวิถีชีวิตพื้นบ้านของชาวไทยภาคกลาง ด้วยการขี่เกวียนเทียมควาย

17.00 น. - เดินทางกลับกรุงเทพมหานคร


********************************************


รายการที่ 2 เส้นทางท่องเที่ยวจังหวัดสิงห์บุรี - ชัยนาท (1 วัน)

08.00 น. - ออกเดินทางจากกรุงเทพมหานคร ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 34 (สายเอเซีย)
ผ่านจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เข้าสู่จังหวัดสิงห์บุรี ระยะทางประมาณ 142 กิโลเมตร

09.00 น. - ถึงวัดพระนอนจักรสีห์วรวิหาร นมัสการพระพุทธไสยาสน์เก่าแก่สมัยกรุงศรีอยุธยา
ตำบลจักรสีห์ (ห่างจากตัวเมืองสิงห์บุรีไปตามเส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3032
สายสิงห์บุรี - สุพรรณบุรี ระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตร)

10.00 น. - ออกเดินทางไปวัดพิกุลทอง (วัดหลวงพ่อแพ) นมัสการพระพุทธรูปปางประทานพรที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย(ห่างจากวัดพระนอนจักรสีห์ไปประมาณ 9 กิโลเมตร)

11.30 น. - ออกเดินทางไปสักการะอนุสาวรีย์วีรชนค่ายบางระจัน และเยี่ยมชมคูค่ายพม่า
ณ วัดโพธิ์เก้าต้น (ห่างจากตัวเมืองประมาณ 15 กิโลเมตร ไปตามเส้นทางสาย
สิงห์บุรี -สุพรรณบุรี หมายเลข 3032)

12.00 น. - รับประทานอาหารกลางวัน

13.00 น. - ออกเดินทางไปชมแหล่งเตาเผาแม่น้ำน้อย (เตาเผาเครื่องปั้นดินเผาโบราณ)
และชมการทำไหสี่หู เอกลักษณ์ของจังหวัดสิงห์บุรี ณ วัดพระปรางค์ ห่างจาก
ตลาดชันสูตรประมาณ 1 กิโลเมตร ไปตามเส้นทางสายสิงห์บุรี - บางระจัน - สรรค์บุรี ประมาณ 16 กิโลเมตร)

14.30 น. - ออกเดินทางไปจังหวัดชัยนาท ใช้เส้นทางสายอินทร์บุรี - ชัยนาท ประมาณ 25 กม.

15.30 น. - แวะชมกลุ่มหัตถกรรมจักสานผักตบชวา (บ้านอ้อย) ประมาณ 1 กิโลเมตร และ
แวะชมกลุ่มทำผลิตภัณฑ์แขมพูสมุนไพรบ้านท่าทราย อำเภอสรรพยา

16.30 น. - ออกเดินทางไปสวนนกชัยนาท ชมนกนานาชนิด ภายใต้กรงนกธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุด
ในเอเชีย (ใช้เส้นทางสายสรรพยาประมาณ 15 กิโลเมตร เลี้ยวขวาเข้าเส้นทางหลวง
หมายเลข 1 อยู่ทางด้านซ้ายมือ)

18.00 น. - เดินทางกลับกรุงเทพมหานครโดยสวัสดิภาพ

***********************************************

 
 

ตัวอย่างรายการท่องเที่ยว ขับรถวันเดียวเที่ยวไปชิมไป จังหวัดสิงห์บุรี / Main

 
 


ล่องเรือแม่น้ำน้อย ชมสวนผลไม้จังหวัดสิงห์บุรี

นางวิยะดา ศรีรางกูล ผู้อำนวยการสำนักงาน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภาคกลาง เขต 7 กล่าวว่า สำหรับกิจกรรมการท่องเที่ยวในโครงการเที่ยวทั่วไทย ไปได้ทุกเดือน ประจำเดือนพฤษภาคม 2545 ในหัวข้อ "อร่อยทุกไร่ ชิมไปทุกสวน" การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคกลาง เขต 7 ขอเชิญชวนท่องเที่ยวสัมผัสวิถีชีวิตไทย และชิมผลไม้จากสวนต่าง ๆ ในจังหวัดสิงห์บุรี อาทิ เส้นทางล่องเรือชมทัศนียภาพสองฝั่งแม่น้ำน้อย ซึ่งจะได้สัมผัสบรรยากาศแบบไทย ๆ บ้านสวน และความเป็นกันเองของชาวบ้านสองฝั่งแม่น้ำน้อย ที่เชิญชวนนักท่องเที่ยวแวะขึ้นชมสวนชมพู่ สวนมะปราง สวนมะไฟ สวนมะม่วง สวนกะท้อน ฯลฯ ตามบ้านต่าง ๆ ซึ่งปลูกกันแบบสวนผสมผสาน อีกทั้งสวนผลไม้ต่าง ๆ ในจังหวัดสิงห์บุรีอีกมากมาย และในช่วงเดือนพฤษภาคม - ต้นเดือนมิถุนายน จะมีการจัดงานวันกะท้อนหวาน ซึ่งจะจัดขึ้น ณ วัดพิกุลทอง อำเภอท่าช้าง จังหวัดสิงห์บุรี

แม่น้ำน้อย จังหวัดสิงห์บุรี เปรียบเสมือนเส้นเลือดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงผู้คนในจังหวัดสิงห์บุรีมาหลายชั่วอายุคน ได้ช่วยให้เกษตรกรสามารถเพาะปลูกได้ตลอดทั้งปี ตลอดสองฝั่งแม่น้ำน้อย ซึ่งไหลผ่านจังหวัดสิงห์บุรี ที่อำเภอบางระจัน และอำเภอท่าช้าง มีวัดและพระพุทธรูปเก่าแก่ให้ขึ้นกราบไหว้ อาทิ วัดพระปรางค์ วัดกลางท่าข้าม วัดใหม่จำปาทอง วัดวิหารขาว และวัดพิกุลทอง สำหรับวัดใหม่จำปาทอง ชาวบ้านมีความปลาบปลื้มเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากได้ใช้เป็นสถานที่รับเสด็จประพาสต้นของพระมหากษัตริย์ถึง 2 พระองค์ คือพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อ พ.ศ. 2440 และพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ในปี พ.ศ. 2459 และเมื่อ วันที่ 8 มิถุนายน 2543 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเสด็จเป็นองค์ประธานพิธีเปิดอาคารสำนักงานเหล่ากาชาด จังหวัดสิงห์บุรี และเสด็จประทับเรือพระที่นั่ง เรือมาดจำปาทอง เพื่อทอดพระเนตรการดำเนินชีวิตและวัฒนธรรมของราษฎรบริเวณแม่น้ำน้อย จากท่าน้ำวัดกลางท่าข้าม อำเภอบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี ถึงท่าน้ำวัดพิกุลทอง

นักท่องเที่ยวที่สนใจชมวิถีชีวิตสองฝั่งแม่น้ำน้อย ซึ่งสวยงามด้วยความเป็นเอกลักษณ์ของความเป็นไทยภาคกลาง สัมผัสกับธรรมชาติอันสงบร่มรื่นด้วยแมกไม้นานาพันธุ์ ขณะนี้ทางภาคเอกชนได้จัดเรือบริการไว้สองประเภท ดังนี้ "เรือสิงห์แม่น้ำน้อย" ขนาด 60 ที่นั่ง เรือออกจากท่าเรือสิงห์แม่น้ำน้อย - วัดพิกุลทอง ไป-กลับในราคา 3,000 บาท หรือราคาต่อที่นั่ง ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร 0-3659-1360 และ 0-1946-8368 และ "เรือตามรอยพระเทพ" เป็นเรือเล็กขนาดบรรจุไม่เกิน 10 ที่นั่ง คิดราคา 50 บาท / คน หรือราคาเหมาลำชั่งโมงละ 500 บาท ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร 0-3654-0329 และ 0-1949-5882 สำหรับสวนผลไม้ที่แนะนำให้ไปเที่ยวชมในช่วงนี้ คือ สวนมะไฟ ที่บ้านสวนกล้วย (บ้านนายจุน บุญเลิศ) ตั้งอยู่ที่ หมู่ 2-3 อำเภอท่าช้าง จังหวัดสิงห์บุรี ซึ่งกำลังมีลูกมะไฟออกเหลืองอร่ามน่ารับประทาน
ท่านผู้สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานเกษตรจังหวัดสิงห์บุรี โทร 0-3651-1642 สำนักงานเกษตรอำเภอท่าช้าง โทร 0-3659-5119 และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคกลาง เขต 7 โทร (036) 422768-9 ทุกวัน ในเวลาราชการ