ครั้งหนึ่งทุกคนคงคิดว่าโมเด็มที่มีความเร็ว ขนาด 28.8 Kbps ( กิโลบิทต่อวินาที) และ 33.6 Kbps คงจะเป็นโมเด็มที่มีความเร็ว สูงที่สุดที่จะใช้กับสายโทรศัพท์ และหากความต้องการ ความเร็วมากกว่านี้คงจะใช้ สายโทรศัพท์ธรรมดาไม่ได้อีกแล้ว แต่แล้วก็มีโมเด็มที่มีความเร็ว ถึง 56 Kbps ซึ่งสามารถใช้กับ สายโทรศัพท์เดิมที่มีอยู่และ ทำงานเหมือนกับโมเด็ม เครื่องเก่าทุกอย่างเพียงแต่ว่าเร็วขึ้น เทคโนโลยีที่ใช้ในโมเด็มที่มี ความเร็ว 56 Kbps (นับต่อ จากนี้จะกล่าวถึงโมเด็มที่มี ความเร็ว56 Kbps โดยใช้ คำว่า โมเด็ม 56 Kbps) มีความแตกต่างจากโมเด็มแบบ อนาล็อก (Amalog) ที่ใช้กันอยู่ พอสมควร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โมเด็ม 56 Kbps นี้ต้องใช้ การเชื่อมต่อแบบกึ่งดิจิตอล เพื่อให้ได้ความเร็วสูงขนาดนี้ ข้อมูลที่อยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ อยู่ในรูปแบบดิจิตอล นั่นคือ 0 หรือ 1 สายโทรศัพท์แบบปกติ รับส่งข้อมูลแบบอนาล็อก ส่วนโมเด็มทำหน้าที่เปลี่ยน ข้อมูลที่ถูกส่งออกมาจากเครื่องคอมพิวเตอร์จากดิจิตอลให้เป็นอนาล็อก และเปลี่ยนข้อมูล ที่ส่งมายังเครื่องคอมพิวเตอร์ จากอนาล็อกให้เป็นดิจิตอล สายโทรศัพท์แบบอนาล็อก เป็นปัจจัยหนึ่งที่จำกัด ความเร็วในการส่งข้อมูล เนื่องจากการรบกวนที่เกิดจากขึ้นจากสายโทรศัพท์เอง ทุกวันนี้เครือข่ายโทรศัพท์เป็นดิจิตอลมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งส่วนที่ต่อกับชุมสาย โทรศัพท์และบริษัทที่ให้บริการ อินเตอร์เน็ต สายโทรศัพท์ดิจิตอล ยังคงมีการรบกวนเกิดขึ้น แต่ว่าน้อยกว่าสายโทรศัพท์ แบบอนาล็อก หลายบริษัท จึงพยายามที่จะเปลี่ยนสาย โทรศัพท์ที่เป็นอนาล็อกให้เป็นดิจิตอลให้มากเท่าที่จะเป็นไปได้ บริษัทที่ให้บริการอินเตอร์เน็ต และยอมให้มีการใช้โมเด็ม 56 Kbps ได้จึงต้องมีการต่อสายโทรศัพท์ แบบดิจิตอลไปยังชุมสายโทรศัพท์ หากต้องการใช้โมเด็ม 56 Kbps จะต้องมี 1. โมเด็มที่มีความเร็ว 56 Kbps 2. บริษัทที่ให้บริการอินเตอร์เน็ต ที่ยอมให้ใช้โมเด็ม 56 Kbps 3. สายโทรศัพท์ที่สามารถใช้กับโมเด็ม 56 Kbps ได้ ข้อแรกนั้นคงไม่ลำบากหากมี สตางค์พอที่จะซื้อโมเด็ม 56 Kbps ได้ส่วนข้อที่สองจะตองตรวจสอบอีกที ไม่ทราบว่าบริษัทใดในเมืองไทย ที่ยอมให้ใช้โมเด็ม 56 Kbps ได้ ส่วนข้อที่สามนั้นคงเป็นปัญหา ใหญ่พอสมควร หากไม่สาย โทรศัพท์ท่สามารถรองรับความเร็วขนาด 56 Kbps ได้แล้ว ความเร็วในการรับส่งข้อมูล จะเท่ากับ 28.8 Kbps หรือ 33.6 Kbps เท่านั้น สิ่งสำคัญที่สุดที่ควรทราบก่อนที่จะซื้อโมเด็ม 56 Kbps คือ หลายบริษัทที่จำหน่ายโมเด็มชนิดนี้ใช้โปรโตคอลต่างกัน ดังนั้นหากซื้อโมเด็ม 56 Kbps จากบริษัทหนึ่งอาจจะไม่สามารถติดต่อกับคนอื่นด้วยความเร็วสูงสุดที่มีโมเด็มที่มีความเร็วเท่ากัน แต่ซื้อจากบริษัทอื่น แต่ก็ยังสามารถติดต่อกันได้ด้วยความเร็วต่ำกว่า 56 Kbps นั้นคือ 28.8 Kbps หรือ 33.6 Kbps เหตุผลก็คือ ยังไม่มีมาตรฐาน (โดย ITU หรือ International Telecommunications Union) สำหรับโมเด็ม 56 Kbps และมาตรฐานยังคงไม่ออกมาจนกว่าจะถึงปี 1998 ในขณะนี้มีโปรโตคอลออกมาคือ X2 จาก U.S. Robotics หรือ K56flex จาก Rockwell และ Lucent และเป็นที่คาดกันว่าโปรโตคอลทั้งสองแบบคงไม่ใช้เป็นมาตรฐานแต่เป็นการรวมคุณสมบัติของโปรโตคอลทั้งสองแบบเข้าด้วยกันและ หากต้องการเปลี่ยนโมเด็มเป็นแบบ 56Kbps ควรเลือโปรโตคอลแบบที่ บริษัทที่ให้บริการอินเตอร์เน็ตใช้ ก่อนที่จะอัพเกรดโมเด็มไปเป็นโมเด็ม 56 Kbps บางคนอาจจะถามว่าทุกวันนี้ใช้โมเด็ม 28.8 Kbps หรือ 33.6 Kbps ก็ยังไม่เคยรับส่งข้อมูลได้ตามความเร็วสูงสุดของโมเด็มเลย แต่หลังจากเปลี่ยนมาใช้โมเด็ม 56 Kbps แน่นอนว่าจะต้องได้ความเร็วที่เพิ่มขึ้น เหตุผลสำคัญคือบางส่วนของสายโทรศัพท์มีการรับส่งข้อมูลแบบดิจิตอล ซึ่งจะทำให้การรับส่งข้อมูลเร็วกว่าใช้สายโทรศัพท์แบบอนาล็อกล้วนๆ เทคโนโลยีของโมเด็ม 56 Kbps ยังใหม่แต่ก็มีหลายโมเด็มหลายยี่ห้อที่มีความเร็วสูงถึง 56 Kbps หากยังรอได้เทคโนโลยีของโมเด็มก็คงจะถูกปรับปรุงให้ดีขึ้นและโมเด็ม 56 Kbps ก็คงจะมีปัญหาคล้ายกับโมเด็ม 28.8 Kbps และ 33.6 Kbps ในช่วงแรก ๆ แต่หากบางคนยังคงใช้โมเด็ม 9.6 Kbps หรือ 14.4 Kbps การเปลี่ยนมาใช้โมเด็ม 56 Kbps ก็คงจะดีกว่าการเปลี่ยนมาใช้โมเด็ม 28.8 Kbps หรือ 33.6 Kbps อย่างไรก็ตามควรจะถามบริษัทที่ให้บริการอินเตอร์เน็ตเสียก่อนว่าถ้าหากบริษัทนั้นจะเปลี่ยนโมเด็มมาใช้โมเด็ม 56 Kbps แล้วจะเลือกใช้โปรโตคอลแบบใด K56flex หรือ X2 นอกจากด้านความเร็วแล้ว โมเด็ม 56 Kbps มีข้อดีเหนือกว่าโมเด็ม 28.8 Kbps หรือ 33.6 Kbps คือ โมเด็ม 56 Kbps จะเป็นที่แพร่หลายมากกว่าโมด็มที่มีความเร็วต่ำกว่าในอนาคตอันใกล้ คู่แข่งที่สำคัญของโมเด็ม 56 Kbps คือ การต่อกับอินเตอร์เน็ตที่มีความเร็วสูงกว่า เช่น ISDN , Cable Modems , และ xDsls( ADL, SDSL และอื่น ๆ ) เทคโนโลยีเหล่านี้ให้ความเร็วในการรับ ส่งข้อมูลศุงกว่าโมเด็ม 56 Kbps และบางอย่างที่ให้ความมเร็วในการรับส่งข้อมูลสูงกว่ามาก อย่างไรก็ตามการใช้โมเด็ม 56 Kbps มีข้อดีเหนือกว่าเทคโนโลยีเหล่านี้ตรงที่ยังคงสามารถใช้กับส่ายโทรศัพท์ได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการติดตั้ง การเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตเพิ่มเติม แน่นอนว่าทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ไม่มีอะไรที่สมบูรณ์พรอ้มไปซะทุกอย่างและโมเด็ม 56 Kbps ก็มีข้อเสียทีอาจจะมีอุปสรรคในการทำงานของคุณก็ได้ ข้อเสียของโมเด็ม 56 Kbps มีสองอย่างคือ อย่างแรก ในการติดต่ออินเตอร์เน็ตระหว่าง บ้านหรือทีทำงานของคุณ กับบริษัทที่ให้บริการอินเตอร์เน็ตจะต้องมีการเปลี่ยนอนาล็อกเป็นดิจิตอลได้เพียงครั้งเดียว เท่านั้น ซึ่งถ้าคุณต้องการเปลี่ยนมากกว่าหนึ่งคุณก็ไม่สามารถใช้โมเด็ม 56 Kbps ให้มีการรับส่งข้อมูลด้วยความเร็วสูงสุดของมันได้แต่ความเร็วจะถูกจำกัดที่ความเร็วสูงสุด 33.6 Kbps เท่านั้น และข้อเสียอีกอย่างของโมเด็ม 56 Kbps ก็คือ ความเร็วในการดาวน์โหลด ( การรับข้อมูลจากเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องอื่น ยกตัวอย่างเช่น การดูเว็บเพจ หรือการรับจดหมายอิเล็กทรอนิกส์) สูงกว่าการอัพโหลด ( การสส่งข้อมูลไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นเช่นการส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ หรือ การส่งไฟล์ไปยังเว็บเพจ) ซึ่งความเร็วในการดาวน์โหลดนั้นจะสามารถใช้ความเร็วได้ตามความเร็วของโมเด็ม นั้นคือ 56 Kbps แต่สำหรับการอัพโหลดจะสามารถใช้ความเร็วได้เพียง 28.8 Kbps หรือ 33.6 Kbps เท่านั้น แต่ผู้ใช้อินเตอร์เน็ตส่วนใหญ่ก็ใช้การดาวน์โหลดมากกว่า การอัพโหลดอยู่แล้ว ซึ่งก็มีส่วนน้อยที่ต้องการอัพโหลดก็อาจใช้
ความสามารถของโมเด็ม 56 Kbps ได้ไม่ต็มที่นัก สาเหตุที่ความเร็วในการอัพโหลดจำกัดเนื่องจาก ในการดาวน์โหลดที่มีความเร็วในการรับส่งข้อมูลมากกว่า 56 Kbps ข้อมูลจะมีการเปลี่ยนสัญญาณดิจิตอลเป็นสัญญาณอนาล็อก ซึ่งการเปลี่ยนเช่นนี้จะให้ผลที่ถูกต้องสมบูรณ์ไม่มีข้อผิดพลาด ทำให้การส่งข้อมูลที่มีความเร็วสูงกว่า 56 Kbps นั่นสามารถเป็นไปได้ ในขณะที่การอัพโหลดนั้นเป็นการเปลี่ยนสัญญาณอนาล็อกเป็นสัญญาณดิจิตอล ซึ่งการเปลี่ยนเช่นนี้มีโอกาสที่ข้อมูลจะผิดพลาดได้เนื่องจากมีสัญญาณรบกวนเกิดขึ้น การเปลี่ยนโมเด็มที่ใช้อยู่นั้น จะต้องพิจารณาถึงองค์ประกอบหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นเครือข่ายโทรศัพท์ที่ใช้อยู่ในท้องถิ่นนั้น บริการของบริษัทที่ให้บริการอินเตอร์เน็ต และอื่น ๆ ซึ่งมิได้พิจารณาเพียงแต่ความเร็วของโมเด็มเท่านั้น อย่างไรก็ตาม โมเด็มที่มีความเร็ว 56 Kbps ก็ถือเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับคุณที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานต่อไป