ในหลวง....ที่สุดของหัวใจชาวไทย
เรื่องราวต่อไปนี้เป็นตอนหนึ่งในสี่สิบเรื่องของหนังสือ"ที่สุดของหัวใจ"
ที่เป็นความผูกพันของคนไทยกับในหลวงซึ่งประทับอยู่ในหัวใจของผู้ที่ได้มีโอกาศ
สัมผัสใกล้ชิดเบื้องพระยุคลบาท อ่านแล้วไม่ต้องสงสัยว่าเหตุใดคนไทยถึงรักในหลวง
ไดมากมายถึงเพียงนี้ด้วยรู้แล้วว่า ในหลวงพระองค์นี้ทรงรักประชาชนยิ่งกว่าพระองค์เอง
น้ำลดหรือยัง
หลายปีมาแล้วเมื่อครั้งน้ำท่วมภาคใต้ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ได้รับผลกระทบหนักที่สุด
เป็นช่วงเวลาที่การสื่อสารแห่งประเทศไทยได้นำเครื่องโทรพิพม์มาติดตั้งที่ห้องทรงงานใหม่ๆ
ข้าราชสำนักท่านหนึ่งกรุณาเล่าให้ฟังว่าแม้ดึกดื่นเที่ยงคืนแล้วพระบาทสมเด็ตพระเจ้าอยู่หัว
ก็ยังไม่เสด็จขึ้นห้องพระบรรทมแต่ทรงคอยคิดตามข่าวเรื่องอุทกภับที่หาดใหญ่อยู่อย่างใกล้ชิด
ด้วยทรางห่วงใยราษฏรขึงทรงส่งคำถามผ่านเครื่องโทรพิมพ์ด้วยพระองค์เองถามไปทางหาดใหญ่าว่า
"น้ำลดแล้วหรือยัง" โดยที่ไม่ทราบว่าผู้ส่งคำถามมานั้นคือพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
คำตอบที่มีผ่านมาทางเครื่องโทรพิมพ์เมื่อเวลาตีสองตีสามมีข้อความที่ตอบด้วยความไม่พอใจว่า
"ถามอะไรอยู่ได้ดึกดื่นป่านนี้แล้วคนเขาจะหลับจะนอน"
แต่ตอนท้ายของคำตอบก็ไม่ลืมที่จะบอกด้วยว่า "น้ำลดแล้ว"
ไม่ต้องกั้น
มีอยู่ครั้งหนึ่งเสด็จฯ ไปที่เซ็นทรัลวันที่มีประชุมรัฐสภาโลก
วันนั้นผมจำได้ผมติดอยู่บนท้องถนนฝนตกผมก็มีวิทยุเลยได้ยินรับสั่งมากับตำรวจมาเลย
"วันนี้ไม่ต้องกั้นรถ" ทรางเข้าใจความทุกของราษฏรอยู่ตลอดเวลา
วันนี้เป็นวันฝนตกรถติดกันอย่างมหาศาล ถ้าขืนต้องไปติดขบวนอีกสร้างความทุกข์ให้กับประชาชน
ทรงวิทยุบอกตำรวจว่า "ขบวนจะแล่นไปพร้อมกับรถของประชาชนไม่ต้องกั้นเคลื่อนที่ไปพร้อมกัน"
ลุงวาเด็ง
วันนี้ลงวาเด็งพาแววตาที่เป็นประกายมาเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวด้วยชุดเต็มยศครึ่งท่อน
คือสวมกางเกงตัวเดียวไม่สวมเสื้อ
ไม่มีที่ไหนในโลกอีกแล้วที่สามัฐชนคนธรรมดาไม่วาจะอยู่ในเสื้อผ้าอาภรณ์ใด ๆ
ก็มีสิทธิ์เท่าเทียมกันที่จะเข้าใกล้ชิดพระองคค์
บอกเล่าความทุกข์สุกับพระเจ้าแผ่นดินของเราได้อย่างเสมอภาคกันถ้วนหน้าเช่นนี้..........
ลงวาเด็งดีใจที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินมาถึงหน้าบ้าน
จึงเหลียวซ้ายแลขวาหลายครั้งผิดปกติในที่สุดก็ได้กราบบังคมทูลอย่างฉะฉานว่า
"พระเจ้าอยู่หัวเสด็จมาทั้งที่ไม่มีอะไรจะถวาย ผลไม้ในสวนเพื่งเก็บขายไปได้เงินมาสองหมื่นบาท
ก็นำเงินไปซื้อเครื่องปั๋มน้ำมาได้ 1 เครื่อง ถอดเอาขึ้นรถและขนไปเลยขอถวายพระเจ้าอยู่หัว"
ข้าวผัดไข่ดาว
วันหนึ่งเสด็จฯ เขาค้อเปิดอนุสาวรีย์
พอเปิดอนุสาวรีย์เสร็จพระองค์ท่านก็ขอกลับไปที่ตำหนักเพื่อจะทรงเปลี่ยนฉลองพระบาท
เพราะเดี๋ยวจะไปดูงานในป่าในดง..........เราก็ไม่ได้ทานข้าวไม่มีใครทานข้าวตอนนั้นบ่ายสองโมงแล้ว
ก่อนจะเปลี่ยนฉลองพระบาทสักยี่สิบนาทีน่าจะพุ้ยข้าวทันก็รีบวิ่งไปห้องอาหารที่เตรียมไว้
ปรากฏว่าพวกที่ไม่ได้ตามเสด็จเขาทานกันหมดแล้วในนั้นจึงเหลือข้าวผัดติดก้นกระบะกับมีไข่ดาวทิ้งแห้งไว้
3-4
ใบ เราก็ตักเห็นมีข้าวอยู่ จานหนึ่งวางไว้มีข้าวผัดเหมือนอย่างเราไข่ดาวโปะใบหนึ่ง
มีน้ำปลาถ้วยหนึ่งวางหยู่ เพื่อนผมก็จะไปหยิบมหาดเล็ดบอกว่า
"ไม่ได้ ๆ ของพระเจ้าอยู่หัว ท่านรับสั่งให้มาตัก" ดูสิครับตักมาจากก้นกระบะเลยผมนี่น้ำตาแทบไหลเลย
ท่านเสวยเหมือนๆ กันกับเรา........
ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ด้วยเกล้วด้วยกระหม่อมขอเดชะ