ภาพดิจิตอลที่เหมาะสมในการผลิตสื่อ


ภาพดิจิตอลที่เหมาะสมในการผลิตสื่อ

ภาพดิจิตอล (Digital lmage) เป็นภาพที่เกิดจากขบวนการการทำงานของ ระบบอิเล็กทรอนิกส์หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าภาพอิเล็กทรอนิกส์ก็ได้ที่เรียกว่าภาพอิเล็กทรอนิกส์เนื่องจากกลไกในการสร้างภาพล้วนแล้วต้องใช้เทคโนโลยีประเภทอิเล็กทรอนิคส์หรือไฟฟ้าเข้ามาช่วยในการเกิดภาพของระบบดิจิตอลมีบวนการผลิตภาพที่แตกต่างจากภาพทั่วไป สามารถแยกได้เป็นสองกลุ่ม คือกลุ่มหนึ่งได้จากเทคโนโลยีของการสแกนภาพ อีกกลุ่มหนึ่งได้จากเทคโนโลยีของกล้องถ่ายภาพดิจิตอล ในที่นี้จะกล่าวถึงเพียงการนำภาพดิจิตอลมาใช้กับสื่อที่เหมาะสมเท่านั้น

 

 

 

 

 

การเลือกใช้ภาพดิจิตอลที่เหมาะสมสำหรับการผลิตสื่อ

จากขีดจำกัดหลาย ๆ ด้านผนวกกับค่าใช้จ่ายที่ต้องเสียไปจำนวนมาก ในการผลิตภาพนิ่งแต่ละครั้ง เพื่อใช้ในการผลิตสื่อมัลติมีเดียและเว็บเพจ ในส่วนที่ต้องจ่ายประกอบด้วยค่าจ้างถ่ายภาพในการณีที่ไม่สามารถถ่ายได้เอง ค่าฟิล์มในแต่ละม้วนซึ่งมีเพียงม้วนละ 36 รูปเท่านั้น และยังต้องเสียค่าล้างค่าอัดขยายภาพก่อนที่จะนำมาแปลงสภาพให้เป็นภาพดิจิตอลเสียก่อนโดยผ่านกระบวนการสแกนภาพอีกขั้นตอนหนึ่ง
ในขั้นตอนของการสแกนภาพก็จะมีผลกระทบกับคุณภาพของภาพที่จะได้อีกขั้นหนึ่งซึ่งผลกระทบดังกล่าวขึ้นอยู่กับคุณภาพของเครื่องสแกนด้วย เช่นหากสแกนกับเครื่องที่มีขีดจำกัดด้านความละเอียดของภาพ และการจัดการเรื่องสีของภาพต่ำ ภาพดิจิตอลที่ออกมาก็มีคุณภาพที่ต่ำหากสแกนจากเครื่องที่มีคุณภาพดี เช่นประเภทดรัมสแกน (Drum scan) ก็จะทำให้ภาพที่ได้คุณภาพสูง ทั้งด้านความละเอียดภาพและความอิ่มตัวของสี แต่ก็มีราคาค่อนข้างแพง สำหรับข้อจำกัดเรื่องเวลาภาพดิจิตอลที่ถ่ายจากกล้องดิจิตอล จะทำให้ระยะเวลาในการทำงานสั้นลง เมื่อถ่ายภาพเสร็จ ก็สามารถจะนำภาพที่เป็นภาพดิจิตอลมาใช้ในการผลิตสื่อตามวัตถุประสงค์ของผลิตได้ทันที หากไม่พอใจภาพที่ก็สามารถ่ายแก้ไขใม่ได้ทันที คุณสมบัติส่วนนี้เหมาะที่จะนำมาใช้ในการถ่ายภาพเพื่อการค้าเป็นอย่างมาก เช่นการถ่ายภาพแฟชั่นเป็นต้น จะทำให้เราทำงานได้อิสระมากขึ้นและสามารถช่วยลดต้นทุนลงไปได้อย่างมากซึ่งต่างจากกล้องที่ต้องใช้ฟิล์ม นอกจากจะต้องเสียเวลาในการถ่ายล้างและอัดขยายภาพแล้วยังไม่รวมถึงความผิดพลาดที่จะเกิดขึ้น โดยที่เราไม่ทราบล่วงหน้ามาก่อน

 

 

 

การผลิตภาพดิจิตอลเพื่อเสื่อมัลติมีเดียและสื่อทางอินเตอร์เน็ต

ภาพดิจิตอลที่นำมาใช้ในการผลิตสื่อมัลติมีเดีย เช่นเป็นภาพประกอบในการนำเสนอ (Power Point) ภาพประกอบในโปรแกรมช่วยสอน (CAI) ต่าง ๆ หรือนำมาใช้เกี่ยวข้องกับอินเตอร์เน็ตเป็นภาพประกอบในเว็บเพจและการส่งภาพทางอีเมล (E-mail) ตลอดจนการนำภาพไปใช้ในงานอื่นๆ ที่มีลักษณะเป็นการใช้สื่อผสมโดยภาพสิ่งเหล่านี้ที่กล่าวมาล้วนแล้วแต่จำเป็นต้องใช้ภาพถ่ายที่ได้จากฟิล์ม ก็จำเป็นต้องนำมาผ่านขบวนการในการสแกน ในการสะแกนภาพผู้ผลิตงานต้องทราบว่าจะนำภาพที่ได้จากการสแกนไปใช้ในขนาดที่เท่าไร หากนำไปใช้เล็กกว่าภาพจริงก็ใช้การคำนวณพื้นฐานจากเครื่องแบบอัตตโนมัติก็ใช้ได้เลย ถ้านำภาพไปใช้ขยายใหญ่กว่าต้นฉบับเดิม ในการสแกนก็ควรจะกำหนดความละเอียดที่เพิ่มขึ้น หลังจากการสแกนจำเป็นต้องมีการบันทึกภาพไว้ (save) ในการบันทึกภาพจะมีนามสกุลหลายประเภทให้เราเลือกเช่น BMP,EPS,TIFF,JPEG,GIF เป็นต้น การสะแกนภาพสำหรับมัลติมิเดียและใช้กับอินเตอร์เน็ตควรจะเลือกใช้ JPEG และ GIF และควคจะเลือกโหมดเป็น RGB : ซึ่งเป็นกลุ่มของการแสดงผลผ่านจอภาพคือจอคอมพิวเตอร์และโทรทัศน์ ในการแสดงผลผ่านจอภาพควรเลือกความละเอียด (Resolution) ที่ 72 พิกเซล ก็เพียงพอต่อความละเอียดของภาพสายตาที่สามารถรับรู้ได้
จะเห็นได้ว่าการนำภาพถ่ายจากฟิล์มไปใช้กับสื่อมัลติมีเดียและสื่ออินเตอร์เน็ตจะต้องผ่านขั้นตอนต่าง ๆ ที่กล่าวมาแล้ว แต่สำหรับภาพถ่ายที่ได้จากกล้องดิจิตอลนั้นสามารถนำไปใช้ได้เลย เนื่องจากภาพที่ต้องการในการแสดงผลผ่านจิภาพทำให้ประหยัดได้ทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย หรือหากมีข้อผิดพลาดหรือภาพไม่สวยก็สามารถถ่ายภาพแก้ไขได้ทันที และถ่ายได้ครั้งละหลาย ๆ ภาพตามที่ต้องการ
ในการกำหนดความละเอียดและนามสกุลของภาพสามารถที่จะเลือกได้ก่อนถ่ายภาพหากนำไปใช้กับอินเตอร์เน็ต หรือสื่อผสมอื่น ๆ ควรเลือกใช้เป็นภาพประกอลประเภทภาพเคลื่อนไหวควรใช้ GIF ไฟล์ เพราะเป็นไฟล์ประเภทรูปภาพควรจะเลือกใช้ JPEG ไฟล์ภาพที่เหมาะสมกับสื่อมัลติมีเดียและเว็บเพจคือ JPEG และ GIF เนื่องจากภาพ JPEG เป็นภาพบิตแมพ ที่มีสีขนาด 24 บิต (16.7 ล้านสี) สามารถบีบอัดข้อมูลได้หลายลระดับคือ Max , High , Medium และ Low เวลาเลือกใช้เราสามารถเลือกระดับ การบีบอัดข้อมูลภาพที่ต้องการได้ การบีบอัดข้อมูลของ JPEG จะทำให้สูญเสียข้อมูลด้านความละเอียดของภาพไปมาก

 

 

 

 

 

 

ภาพดิจิตอลที่เหมาะสมสำหรับผลิตสื่อสิ่งพิมพ์


สื่อสิ่งพิมพ์เป็นสื่อที่มีขั้นตอนการผลิตที่ซับซ้อน และต้องอาศัยความละเอียดรอบคอบในการผลิตในแต่ละครั้ง ปัจจัยหนึ่งที่สามารถทำให้สื่อสิ่งพิมพ์โดดเด่นและเป็นที่น่าสนใจของคนทั่วไปคือรูปภาพหรือรูปประกอบสิ่งพิมพ์ รูปประกอบประเภทรูปภาพในสิ่งพิมพ์นั้นมีที่มาอยู่หลายแหล่งเช่น มาจากภาพสไลด์ มาจากภาพถ่ายสี หรือมาจากภาพที่เคยพิมพ์มาแล้วภาพจากแหล่งต่าง ๆ ที่กล่าวมาแล้วในขั้นตอนสุดท้ายจำต้องเปลี่ยนเป็นภาพดิจิตอลโดยการสแกนภาพ เพื่อที่จะนำไปใช้ในการแยกสี ถ่ายฟิล์ม แต่สำหรับภาพที่ถ่ายมาจาก กล้องดิจิตอลสามารถที่จะนำมาใช้ประกอบหน้าได้เลยโดยไม่ต้องเสียเวลาแต่ที่สำคัญในการพิจารณาใช้ภาพดิจิตอลจากกล้องดิจิตอลผู้ผลิตสื่อจำเป็นจะต้องทราบวัตถุประสงค์ในการผลิตสื่อนั้นๆ ว่านำภาพไปผลิตสื่อพิมพ์ประเภทใด มีการพิมพ์กี่สี ขนาดภาพที่จะใช้ประกอบขนาดเท่าใด ในส่วนนี้จะมีผลต่อการเลือกใช้ประเภทของกล้องที่จะถ่าย เนื่องจากประเภทของกล้องจะมีส่วนสัมพันธ์กับความละเอียดของภาพ และขนาดของภาพว่าจะนำไปใช้ขยายหรือย่อ ซึ่งไม่จำกัดว่ากรผลิตสื่อสิ่งพิมพ์จะต้องใช้กล้องระดับกึ่งมืออาชีพ (Prosumer) หรือระดับมืออาชีพ (Professional Cameras) ในความเป็นจริงกล้องกล้องถ่ายภาพดิจิตอลทุกชนิดสามารถนำมาถ่ายภาพประกอบสิ่งพิมพ์ได้ทุกชนิดทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของผู้ผลิตงานเองเช่น ผลิตแผ่นพับโฆษณาสินค้าตามห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ ซึ่งมีอายุการใช้งานสั้น ๆ และใช้กรอบภาพขนาดเล็กที่เล็กกว่าขนาดความละเอียดภาพสูงสุดของกล้องรุ่นนั้น ๆ ก็สามารถที่จะใช้กล้องกลุ่ม (Point ant Shool) หรือกล้องที่มีราคาถูกได้ สำหรับงานสิ่งพิมพ์ที่ต้องการงานที่มีคุณภาพสูง เช่นภาพเครื่องแก้ว ภาพอัญมณี หรือภาพปกนิตสาร ภาพโปรเตอร์โฆษณาขนาดใหญ่ งานประเภทนี้จำเป็นต้องใช้กล้องที่มีความละเอียดสูงซึ่งอยู่ในกลุ่มของกล้องมืออาชีพ (Professional Cameras) ซึ่งในแต่ละภาพใช้เนื้อที่ในการบรรจุดขอมูลประมาณ 30 MB ขึ้นไป
ภาพที่ได้จากการถ่ายด้วยกล้องดิจิตอลยังคงเป็นไฟลงานที่มีนามสกุล RGB ทั้งนี้ในการนำไปใช้ผลิตสิ่งพิมพ์ จะต้องเปลี่ยนโหมดใหม่เป็น CMYK. โดยโปรแกรม Adobo Photoshop เพื่อความสะดวกในการนำไปแยกสี ถ่ายเพลทและพิมพ์ต่อไป
สำหรับชนิดของไฟล์ภาพ (Format) ที่เลือกบันทึกภาพของกล้องดิจิตอล ที่ใช้ผลิตสิ่พิมพ์คือ ไฟล์ TIFF (*tif) เนื่องจากเป็นไฟล์ที่มีประสิทธิภาพสูงในการจัดเก็บข้อมูลภาพในภาพเดียวสามารถเก็บได้สูงถึง 4 กิกาไบท์ แสดงผลสี่ได้ 16.7 ล้านสี และสามารถในการจัดเก็บได้หลายรูปแบบเช่น RGB, CMYK ในการใช้สามารถนำไฟล์ไปเปิดได้ทั้ง Mac และ Pc ในคุณสมบัติหนึ่งมีระบบของ LZW ให้เลือกใช้เพื่อการบีบอัดข้อมูลให้เล็กลงอีก
ขนาดและความละเอียดของภาพ (Size/Resolution) ในการกำหนดขนาดความละเอียดของภาพในการผลิตสิ่งพิมพ์ควรกำหนดที่ 350 ppi (Pixels per Inch) หมายความว่าในขนาดความกว้าง 1 นิ้วของสิ่งพิมพ์จะมีตารางสี่ (pixels) อยู่350 จุด แสดงให้เห็นว่าในขนาด 1 นิ้วมีจำนายตารางสีน้อยภาพก็จะหยาบ แต่ถ้ามีจำนวนตารางสีมากภาพก็จะละเอียด อย่างไรก็ตามก็ไม่ควรกำหนดให้เกิด 350 ppi จะทำให้ไฟล์ใหญ่เกินความจำเป็น และจะต้องเสียเนื้อที่ในการเก็บข้อมูลในหน่วยความจำมาก

สรุป

ภาพดิจิตอลที่เหมาะสมในการผลิตสื่อที่ได้จากการถ่ายด้วยเทคโนโลยีกล้องดิจิตอลผู้ผลิตสื่อต้องพิจารณาตั้งแต่การเริ่มต้นของการผลิตสื่อก่อนว่าจะผลิตสือประเภทใด เนื่องจากแต่ละสื่อมีความต้องการคุณสมบัติของภาพที่แตกต่างกัน เช่น การผลิตภาพถ่ายเพื่อประกอบ สื่อมัลติมีเดีย หรือเป็นภาพประกอบทางอินเตอร์เน็ต ซึ่งทั้งสองสื่อมีการแสดงผลผ่านจอภาพในการแสดงผลผ่านจอภาพไม่จำเป็นต้องกำหนดความละเอียดภาพสูงมาก ในจุดนี้ก็สัมพันธ์กับการเลือกใช้กล้องถ่ายภาพทั่วๆ ไปที่มีความละเอีดภาพไม่มากนักและราคาไม่สูงเกินไป ส่วนการพิจารณาสื่อภาพที่ถ่ายเพื่องานด้านการผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ ในจุดนี้ผู้ที่ผลิตสื่อก็ต้องมาพิจารณาอีกว่าภาพที่จะนำไปใช้ จะใช้ขนาดเท่าใด ขนาดเท่าภาพที่ถ่าย (ความละเอียดสูงสุดของกล้องรุ่นนั้นๆ ที่สามารถแสดงผลผ่านการพิมพ์) เล็กกว่าภาพต้นฉบับหรือนำไปขยายใหญ่กว่าต้นฉบับจุดนี้ต้องพิจารณาให้ดี เนื่องจากมีผลต่อคุณภาพสิ่งพิมพ์ หลังจากผลิตงานออกมา แต่โดยรวมแล้วการผลิตสื่อสิ่งพิมพ์เป็นสื่อที่ต้องการภาพที่มีความคมชัดสูง ความละเอียดภาพสูง ผู้ผลิตสื่อจำเป็นที่ต้องเลือกใช้กล้องที่ให้ความละเอียดภาพสูง
ในจุดนี้จะเห็นได้ว่าการผลิตสื่อแต่ละประเภทล้วนแล้วแต่มีข้อจำกัดเฉพาะของแต่ละอย่าง ผู้ผลิตจำเป็นจะต้องพิจารณาให้รอบด้าน เช่นเดียวกับการเลือกใช้ภาพดิจิตอลจากกล้องดิจิตอล ถ้าหากดูอย่งผิวเผินอาจไม่มีความจำเป็นนัก กล้องชนิดใดแบบไหนก็ได้แต่ถ้าผู้ผลิตคำนึงถึงคำว่า คุณภาพ ในการผลิตสื่อชนิดนั้นๆ ก็จะเริ่มยากขึ้นอย่างแน่นอน

 

ที่มาวารสารครุศาสตร์อุตสาหกรรม ฉบันที่ 5 / 2544 เมษายน 2545

หน้าแรก ประวัตบทความ

* ** ขออภัยอยู่ในช่วงปรับปรุงครับ... รอหน่อยนะครับ..... ขอบคุณครับ ** * *