-------ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์-------

 

Home
โรงแรม,รีสอร์ท
เที่ยวไปชิมไป
เที่ยวผจญภัย
เที่ยวเชิงอนุรักษ์
เที่ยวทะเล
กระดาษข่าว
About
Contact Me

 

       
• ข้อมูลอุทยาน • ประวัติความเป็นมา • จุดเด่นและสถานที่เที่ยวชม • การเดินทาง • สถานที่เที่ยวชมอื่นๆ•

 
อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย
SRISATCHANALAI HISTORICAL PARK
 
 

พิมาย..ปราสาทหินแห่งดินแดนอีสาน

loading picture
ปราสาทหินพิมายเป็นปราสาทหินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย สร้างขึ้นเพื่อเป็นพุทธสถานในลัทธิมหายาน สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 ราวปลายพุทธศตวรรษที่ 16
"พิมาย" มาจากคำเดิมในจารึกภาษาสันสกฤตว่า "วิมาย" หรือ "วิมายปุระ" หมายถึงเมืองพิมาย

ตามสภาพภูมิศาสตร์เมืองพิมาย อยู่ในบริเวณตอนต้นของลำน้ำมูล ซึ่งเป็นแม่น้ำสายสำคัญของภาคอีสาน ลำน้ำมูลนี้เกิดจากการรวมตัวของ"ลำน้ำลำตะคอง" ที่เกิดจากเทือกเขาดงพระยาเย็น กับ"ลำพระเพลิง" ที่เกิดจากเทือกเขาพนมดงเร็ก ทำให้เมืองพิมายเป็นศูนย์กลางการคมนาคมติดต่อ เป็นแหล่งที่มีประชาการอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ตลอดจนเป็นแหล่งศูนย์กลางของพุทธศาสนา นิกายมหายาน มาตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 13-14

 
 
 
ประวัติความเป็นมา
 
 

"พิมาย..แหล่งอารยธรรมที่มีพัฒนาการมาอย่างต่อเนื่อง"
เมืองพิมายเป็นศูนย์กลางทางการเมืองการปกครอง ทางด้านศิลปวัฒนธรรมบริเวณลุ่มแม่น้ำมูล ซึ่งครอบคลุมภาคอีสานตอนล่างทั้งหมด ชุมชนที่อาศัยอยู่ในดินแดนแห่งนี้มีมานานตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ และเริ่มมีการรับเอาอารยธรรมจากท้องถิ่นต่างๆ ผสมผสานกันเรื่อยมา ตลอดจนเผยแพร่อารยธรรมพิมายนี้ไปยังดินแดนต่างๆ ดังจะเห็นได้จาก
   1. หลักฐานจากประมาณพุทธศตวรรษที่ 8 ที่ได้ค้นพบการแพร่กระจายของภาชนะดินเผาแบบ"พิมายดำ" ตามดินแดนต่างๆ ซึ่งแสดงว่าได้มีการติดต่อระหว่างชุมชมในดินแดนนี้กับดินแดนอื่นๆ
   2. ประมาณพุทธศตวรรษที่ 13-14 ได้มีการติดต่อรับอารยธรรมมาจากอินเดีย โดยรับเอาพุทธศาสนานิกายมหายานเข้ามา ดังจะเห็นได้จากร่องรอยของศาสนสถาน เทวรูปพระโพธิสัตว์ และพระพุทธรูป ในหลายๆท้องที่
   3. พุทธศตวรรษที่ 16 เป็นช่วงเวลาที่รับเอาวัฒนธรรมขอม และได้พัฒนาเมืองพิมายเป็นศูนย์กลางการปกครอง และคมนาคมขึ้นในภูมิภาคนี้ ดังจะเห็นได้จากการสร้างเมืองเป็นแบบขอมที่มีปราสาทหินพิมาย เป็นพุทธสถานที่สำคัญกลางใจเมือง และได้มีการต่อเติมจนกลายเป็นปราสาทขอมที่ใหญ่ที่สุดของภาคอีสาน    4.สืบเนื่องต่อมาในสมัยกรุงศรีอยุธยา ก็มีปรากฏในพงศาวดารและเอกสารทางประวัติศาสตร์ต่างๆ และในช่วงที่กรุงศรีอยุธยาเสียแก่พม่า เมืองพิมายนี้ก็เป็นที่มั่นของกรมหมื่นเทพพิพิธ ที่ใช้ในการรวบรวมผู้คน เพื่อกู้กรุงศรีอยุธยาจากพม่า จนกระทั่งถูกปราบปรามในสมัยกรุงธนบุรี
   5. เมืองประวัติศาสตร์แห่งนี้ จึงเป็นแหล่งผสมผสานอารยธรรมจากหลายชนชาติ และเป็นแหล่งอาศัยของพลเมือง ที่มีมาแต่เดิมและอพยพเคลื่อนย้ายเข้ามาตั้งถิ่นฐาน มีทั้ง มอญ-ขอม ไท-เสียม ไท-โคราช ลาว และเขมร ซึ่งชนเหล่านี้ต่างรับรู้และถ่ายทอดวิญญาณการมีตัวตนของเมืองพิมาย สืบต่อมาไม่มีวันลืมเลือนจนตราบเท่าทุกวันนี้

 
 
จุดเด่นและสถานที่เที่ยวชม
 
 
องค์ปรางค์ ประกอบไปด้วยอาคารสำคัญ 3 แห่ง คือ
  • ปรางค์ใหญ่ เป็นองค์ประธานของปราสาทหินพิมาย ก่อสร้างด้วยศิลาทรายสีขาวล้วน มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
  • ปรางค์พรหมทัต อยู่ทางด้านซ้ายของปรางค์ใหญ่ ก่อสร้างด้วยศิลาแลง ที่เรียกว่าปรางค์พรหมทัตเพราะแต่เดิมเคยเป็นที่ตั้งรูปประติมาหินจำหลัก 3 รูป คือ รูปท้าวพรหมทัต รูปพระปาจิตต์ และรูปนางอรพิม
  • ปรางค์หินแดง อยู่ทางด้านขวาของปรางค์ใหญ่ ก่อสร้างด้วยหินทรายสีแดง ศาสนสถานปรางค์หินแดงนี้ใช้ฐานร่วมกับหอพราหมณ์
หน้าบันและทับหลังขององค์ปรางค์
ภาพจำหลักหน้าบันและทับหลังของปรางค์ใหญ่
  1. ภาพจำหลักทับหลังด้านทิศใต้ เป็นพระพุทธรูปปางนาคปรก ประทับอยู่ระหว่างกลางพระพุทธรูปทรงเครื่องปางสมาธิ 5 องค์ ด้านล่างมีอุบาสกอุบาสิกานำสิ่งของมาถวาย
  2. ภาพจำหลักทับหลังด้านทิศตะวันตก เป็นภาพพระพุทธองค์ทรงเทศนาแก่พญามาร
  3. ภาพจำหลักทับหลังด้านทิศเหนือ เป็นภาพพระวัชรสัตว์ 5 พระองค์
  4. ภาพจำหลักทับหลังด้านทิศตะวันออก เป็นภาพพระพุทธรูปทรงเครื่องปางสมาธิ 10 องค์ มีเทพกำลังฟ้อนรำอยู่ด้านล่าง ตรงกลางเป็นรูปประติมา 4 พักตร์ 8 กร เชื่อกันว่าเป็นรูปพระโพธิสัตว์ไตรโลกยวิชัย
 
 
สถานที่เที่ยวชมอื่นๆ
 
   
 
การเดินทาง