|
*นักเดินทางน่ารู้
*ลักษณะรอยตีนสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม*การเตรียมตัว
camping*ข้อควรปฎิบัติในการตั้งแค้มป์*วิธีป้องกันทาก* |
|
      |
นักเดินทางน่ารู้
|
|
|
การศึกษารอยตีนสัตว์ |
|
|
โอกาสที่เราจะเห็นสัตว์ใหญ่ ในป่าค่อนข้างจะมีน้อย
เพราะต้นไม้ใบไม้เป็นที่กำบังอย่างดี อีกทั้งสัตว์หลายชนิด หากินในเวลากลางคืน
และในพื้นที่ที่มีการลักลอบล่าสัตว์มาก พวกมันจะหลีกเลี่ยงคนอยู่แล้ว แต่ถ้าเรารู้จักดูรอยตีนสัตว์
เราก็จะสามารถศึกษาสัตว์ได้ โดยไม่ต้องเห็นตัว เส้นทางที่เราใช้เดินป่า ก็เป็นเส้นทางของสัตว์ด้วยเช่นกัน
การแกะรอยตีนสัตว์เป็นวิชาของนักสืบ
พราน และนักศึกษาธรรมชาติที่ชำนาญ ไม่เพียงแต่ สามารถแยกแยะชนิดของสัตว์จากรอยตีนได้
แต่บางครั้งยังสามารถจำแนกเพศ และอ่านพฤติกรรมของมัน จากลักษณะที่มันเดิน
หรือหยุดยืน โดยผสมกับองค์ประกอบอื่นๆ
รอยตีนสัตว์ที่เห็นได้ชัดที่สุดคือ รอยบนดินอ่อน
เช่น โคลน บริเวณใกล้หนองน้ำ และทรายริมลำธาร หรือโป่งดินแฉะ เป็นที่ที่สัตว์มากินน้ำและแร่ธาตุ
จะเห็นรายละเอียดสำคัญ อย่างรอยเล็บ หรือลักษณะของอุ้งตีนได้ง่าย ซึ่งไม่ปรากฎชัดเจนตามทางเดินที่เป็นฝุ่นดิน
นอกจากรายละเอียดที่ต้องสังเกต ข้อควรระวัง
อีกข้อหนึ่ง ในการจำแนกชนิดสัตว์จากรอยตีน คือ ขนาดของรอยตีนสัตว์ตัวผู้ชนิดหนึ่ง
อาจมีรอยตีนขนาดใกล้เคียงกับของตัวเมีย หรือตัวที่ยังไม่โตเต็มวัยของสัตว์อีกชนิดหนึ่ง
เช่น เสือดาวตัวผู้ และเสือโคร่งวัยรุ่น ในกรณีเช่นนี้ เราอาจจำแนก ชนิดสัตว์ไม่ได้เลย
รอยตีนสัตว์ ที่พบในป่าส่วนมากจะไม่สมบูรณ์เหมือนที่เห็นอยู่
เมื่อพบรอยที่ไม่แน่ใจว่า เป็นของตัวอะไร ควรจะถ่ายรูป หรือวาดภาพ เท่าขนาดจริง
โดยใช้แผ่นพลาสติกใสวางทาบรอย แล้วลอกลายด้วยสีเมจิก ชนิดลบไม่ออก (marker
pen) แต่วิธีเก็บบันทึกรอยตีนสัตว์ที่ดีที่สุด คือ หล่อรอยด้วยปูนพลาสเตอร์
เพราะจะสามารถเก็บรายละเอียดไว้ได้สมบูรณ์ กว่าภาพถ่ายมาก แล้วนำกลับมาให้ผู้เชี่ยวชาญดู
หรือไปขออนุญาต เทียบกับอุ้งตีนสัตว์สตัฟฟ์ ที่สถาบันวิจัย วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี
แห่งประเทศไทย ถนนพหลโยธิน บางเขน
Back top |
|
      |
ลักษณะรอยตีนสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม |
|
|
ถ้าจำแนกสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมตามลักษณะตีน ก็แบ่งได้เป็น
2 กลุ่ม
*สัตว์มีเล็บ (Unguiculata)
ตีนเป็นอุ้ง ปลายนิ้วมีเล็บ ซึ่งอาจจะเป็นเล็บแบน หรือเล็บแหลม เหมือนตะขอก็ได้
บนรอยตีนสัตว์บางชนิด อาจปรากฎรอยปลายเล็บด้วย แต่อีกหลายชนิด จะไม่มีส่วนใดของเล็บที่สัมผัสดินเลย
สัตว์บางชนิดเดินโดยการวางน้ำหนักตัว เต็มฝ่าตีน จึงประทับเป็นรอยเต็มสมบูรณ์ทั้งตีน
เช่น คน และหมี แต่สัตว์อื่นๆ ส่วนมากเดินด้วยนิ้วตีน และสามารถ วิ่งได้เร็วกว่า
พวกแรก จึงปรากฎเฉพาะส่วน รอยนิ้ว และฝ่าตีน ส่วนหน้า
*สัตว์กีบ (Ungulata)
จำนวนนิ้วของสัตว์พวกนี้ ได้ลดรูปลง และส่วนปลายของนิ้วเท้ากลายเป็นกีบ โดยมีแผ่นแข็งหุ้มรอบเป็นวัสดุ
ที่แข็งแรงเหมือนเขาสัตว์ ครอบปลายนิ้วทั้งนิ้วไว้ นิ้วโป้งซึ่งไม่จำเป็นต่อการใช้งานหดหายไป
นิ้วก้อยก็มักจะหดเหลืออยู่เล็กมาก บางครั้งเป็นเพียงแค่ติ่งเล็กๆ ขาช่วงบนสั้นแต่มีกล้ามเนื้อแข็งแรง
ส่วนขาช่วงล่างจะยาวและเรียวเล็ก สัตว์กีบยังแบ่งออกได้ 2 ชนิด คือ
* สัตว์กีบคี่
อาจมีเพียงเท้าละกีบ เช่น วงศ์ม้าและลา หรือมีเท้าละ 3-4 กีบ เช่น วงศ์สมเสร็จ
และวงศ์แรด สัตว์ชนิดนี้ไม่มีเขา
* สัตว์กีบคู่ มีตั้งแต่สัตวืตัวเล็กๆ
ขนาดกระจงจนสูงใหญ่ขนาดวัวแดง กระทิง และควายป่า ส่วนใหญ่สัตว์กีบตัวผู้จะมีเขา
ยกเว้นแต่วงศ์หมูป่าและวงศ์กระจง แต่ทั้งนี้สัตว์กีบคู่ตัวเมีย บางชนิดก็มีเขาเช่นกัน
แม้จะมีขนาดเล็กก็ยังมีประโยชน์ในการป้องกันตัวได้บ้าง
Back top
|
|
      |
การเตรียมตัว
camping |
|
|
การหาข้อมูล
ต้องเลือกจุดหมายปลายที่จะเสียก่อน แล้วดูว่าเหมาะสมกับฤดูกาล ที่จะไปหรือเปล่า
แหล่งข้อมูลที่เราสามารถค้นคว้า ได้แก่ |
|
|
* การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. สำนักงานใหญ่
โทร. 2810422
* สวนอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้ โทร. 5794842
* สวนอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมป่าไม้ โทร. 5792776 , 57948
* หนังสือ นิตยสารท่องเที่ยว ทั่วๆ ไป จะมีข้อมูลของแหล่งท่องเที่ยว
* สถานที่พักผ่อนที่เปิดบริการในสถานที่นั้นๆ เช่น โรงแรม รีสอร์ท บังกาโล
* บริษัททัวร์ ชมรม สโมสร มูลนิธิ สมาคม
Back top
|
|
      |
การเลือกทำเลที่ตั้งแค้มป์
และข้อควรปฎิบัติในการตั้งแค้มป์ |
|
|
1. กำหนดสถานที่ตั้งแค้มป์ ไว้ล่วงหน้า และควรทำการขออนุญาต
เจ้าของพื้นที่เสียก่อน
2. หาข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ที่ จะตั้งแค้มป์ จากชาวบ้านหรือเจ้าของพื้นที่
3. ก่อนเดินทางควรจะฝึกกางเต็นท์ และเก็บเต็นท์ ให้เป็นเสียก่อน
4. ควรถึงสถานที่ตั้งแค้มป์ ก่อนพระอาทิตย์ตกดิน อย่างน้อย 1 ชม.
5. ควรสังเกตพื้นที่ ที่จะตั้งแค้มป์ ว่าเป็นทางเดินของสัตว์ หรือไม่
โดยสังเกตจากรอยเท้า
6. ควรตั้งแค้มป์ในบริเวณที่มีแสงแดด
7. ก่อนตั้งแค้มป์ ควรที่จะปัดกวาดใบไม้ใบหญ้า เอาไปเผาเสียให้หมด
8. ก่อนกางเต็นท์ ควรตรวจดูทิศทางลม แล้วกางเต็นท์ บริเวณต้นลม
9. ควรตั้งแค้มป์ บริเวณที่มีพื้นที่ราบเรียบปราศจาก โขดหินเกะกะ และตอไม้
10. ควรดูทางหนทีไล่รอบๆ แค้มป์ เพื่อที่เกิดกรณีฉุกเฉิน เราจะได้หาทางหนีได้ทัน
11. ควรแบ่งงานกันทำตามหน้าที่
12. ควรมีการสำรองฟืนไว้ โดยการเลือกฟืนนี้ควรเลือกไม้เนื้อแข็ง เพราะจะติดไฟง่าย
และอยู่ได้นาน
13. การเข้าไปปลดทุกข์ในป่า ควรห่างจากลำห้วย หรือแม่น้ำ โดยใช้ไม้ หรือมีดปลายแหลม
ขุด แล้วกลบให้เรียบร้อย
14. ภาชนะ และสิ่งของเครื่องใช้ ควรรักษาให้สะอาดเสมอ เช่น ขวดน้ำ ควรมีฝาปิดให้มิดชิด
15. ควรทำความสะอาด ที่พัก และบริเวณโดยรอบให้สะอาดก่อนที่จะเดินทางออกไป
Back top |
|
      |
ข้อควรระวังในการตั้งแค้มป์
ฤดูร้อน |
|
|
1. อย่าตั้งแค้มป์บริเวณทุ่งหญ้า หรือตามที่ลาดเขา เพราะในช่วงฤดูร้อนจะทำให้เกิดไฟป่าได้ง่าย
2. อย่าตั้งแค้มป์ตามลำธาร หรือ ข้างลำธาร เพราะถ้าฝนตก อาจทำให้น้ำไหลมาจนเต็มลำธาร
3. และอาจเป็นอันตรายได้
4. ควรก่อไฟให้ห่างจากเต็นท์ที่พัก
|
|
      |
ข้อควรระวังในการตั้งแค้มป์
ฤดูฝน |
|
|
1. อย่าตั้งแค้มป์บนเนินเขา หรือไหล่เขา เมื่อฝนตกอาจทำให้น้ำป่าไหลลงมาได้
2. อย่าตั้งแค้มป์บริเวณที่มีน้ำขัง หรือหญ้ารก เพราะอาจมีสัตว์เลื้อยคลาน
หลบซ่อนอยู่ในนั้น
3. อย่าตั้งแค้มป์ บริเวณหนองบึง หรือปลักโคลนของสัตว์ป่า เพราะเป็นแหล่งชุกชุมของยุงก้นป่อง
4. ซึ่งอาจทำให้เป็นไข้มาเลเรียได้
5. ควรเลือกตั้งแค้มป์ บนระดับที่เหนือกว่าแหล่งน้ำ
6. อย่าตั้งแค้มป์ ในที่โล่งจนเกินไป
7. อย่าตั้งแค้มป์ในที่อยู่ใกล้ต้นไม้สูงใหญ่
8. อย่าตั้งแค้มป์ ใต้ต้นไม้ที่อยู่โดเดี่ยว หรือต้นไม้ที่แห้งตายซาก
เพราะอาจทำให้เกิดอันตรายได้
9. อย่าตั้งแค้มป์ ใกล้ถ้ำ เพราะถ้ำเป็นที่หลบอาศัยของสัตว์ป่า หลายชนิด
10.ควรขุดร่องน้ำรอบๆ เต็นท์ เพื่อเป็นการป้องกันน้ำฝนที่ไหลผ่านเต็นท์
11.ควรเลือกที่พักใต้โขดหินที่เงื้อมออกมา เพราะสามารถป้องกันอันตรายได้
เช่น อันตรายจากฟ้าผ่า ลมพายุ 12.และต้นไม้โค่นลงมาได้เป็นอย่างดี
Back top
|
|
      |
ค่ำนี้จะนอนอย่างไร
|
|
|
ถ้าในลักษณะ Camping แล้ว ขอกล่าวถึงอุปกรณ์ที่จำเป็นมาก
และถือว่าเป็นอุปกรณ์หลักกันก่อ คืออุปกรณ์สำหรับการนอน หรือเครื่องนอน ซึ่งจะกล่าวถึง
3 ชนิด ที่เป็นที่นิยม หรือรู้จักกันโดยส่วนใหญ่
1. เต็นท์ .. เปรียบเสมือนบ้าน ห้อง หรือมุ้งก็ได้
ขึ้นอยู่กับขนาดของเต็นท์ที่นำไปด้วย คุณประโยชน์ คือ ใช้กันฝน กันลม กันยุง
และแมลงมีพิษ ที่สำคัญ คือเป็นส่วนตัวครับ ..ข้อเสีย ก็คือ มีน้ำหนักมาก
และต้องใช้พื้นที่มาก
2. ถุงนอน ปัจจุบันถึงนอน ผลิตออกมาหลายแบบ ลวดลายสีสัน และความหนาก็แตกต่างกัน
คุณประโยชน์ คือ ใช้เพื่อให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย และความอ่อนนุ่มในการพักผ่อน
ที่สำคัญมีน้ำหนักเบา กันยุง กันแมลงได้ในระดับหนึ่ง
3. เปลสนาม สิ่งที่นักท่องเที่ยวประเภทนี้ขาดไม่ได้เลยทีเดียว เพราะถ้าหากพื้นที่บริเวณนั้นไม่สามารถกางเต็นท์ได้
เราก็คงต้องพึ่งเปลสนาม คุณประโยชน์ คือ จะมีมุ้งติดมาพร้อมกับเปลสนาม เพื่อใช้ป้องกัน
ยุงด้วย ข้อเสีย ..ถ้าไม่มีต้นไม้ก็กางไม่ได้
Back top
|
|
      |
หากต้องไปค้างแรมระหว่างทางการเดินป่า
จำเป็นต้องคำนึงถึงสิ่งต่อไปนี้ |
|
|
1. ควรเลือกสถานที่พักแรมก่อนมืด จะได้ดูสภาพรอบๆว่าเป็นอย่างไร
มีความปลอดภัยดีหรือไม่ และควรสำรวจหาที่สำรองไว้ด้วย หากช่วงกลางคืนมีเหตุจำเป็นต้องย้ายเต็นท์
จะได้ทำได้สะดวก
2. ไม่กางเต็นท์ใต้ต้นไม้ใหญ่ หรือหากจำเป็นก็ควรหาบริเวณที่อยู่ใต้กิ่งก้าน
ที่ไม่ใหญ่นัก เวลาเกิดพายุฝน แล้วกิ่งไม้หักหรือล้มลงมาจะได้ไม่เป็นอันตราย
3. ไม่ควรกางเต็นท์กลางทุ่งโล่ง เพราะนอกจากอาจจะมีอันตรายจากพายุฝนแล้ว
กระแสลมอาจจะหอบเต็นท์เราไปทั้งหลังได้
4. ไม่ควรกางเต็นท์ตรงบริเวณชายเขา เพราะหากฝนตก น้ำอาจจะไหลผ่าน
หากมีปริมาณมากๆจะเป็นอันตรายได้
5. ไม่กางเต็นท์บริเวณลำธารแห้ง หรือบริเวณชายน้ำเด็ดขาด
เพราะเวลาฝนตก แล้วมีน้ำป่าไหลบ่า อาจจะท่วมมิดภายในไม่กี่นาที อันตรายมาก
6. หลีกเลี่ยงบริเวณหญ้ารกหรือที่แฉะมีน้ำขัง เพราะอาจจะเป็นที่อาศัยของสัตว์
และแมลงต่างๆ
7. หลีกเลี่ยงการกางเต็นท์พักแรม บริเวณที่เป็นทางที่สัตว์ป่าใช้เดิน
เพราะช่วงกลางคืนเวลาที่สัตว์เหล่านี้ ออกหากิน จะเป็นอันตราย ดังนั้นการท่องเที่ยวเดินป่าควรติดต่อขอเจ้าหน้าที่นำทางไปด้วย
นอกจากจะช่วยไม่ให้เราหลงป่าแล้ว เขาเหล่านี้ยังมีความรอบรู้ด้วยว่า บริเวณใดที่ปลอดภัยใช้ค้างแรมได้
8. สิ่งสุดท้ายที่สำคัญก็คือ ควรรักษาสภาพแวดล้อมต่างๆให้คงเดิม
ไม่ทิ้งสิ่งของเกลื่อนกลาดเรี่ยราด และหากจำเป็นต้องก่อกองไฟ ก็ต้องดับหรือกลบให้เรียบร้อยทุกครั้ง
Back top
|
|
      |
วิธีป้องกันทาก |
|
|
สำหรับการป้องกันทาก มีด้วยกันหลายรูปแบบคือ
|
|
|
1. ยาฉุนหรือยาเส้น ที่นำมาใช้มวนบุหรี่
วิธีใช้โดยการนำยาฉุนไปพรมด้วยน้ำจนชื้นหมาดๆ จากนั้นยัดลงในรองเท้า ไม่ต้องมากจนแน่น
และในถุงเท้าก็ใส่เพียงนิดหน่อย ให้คลุมทั่วบริเวณผิวหนัง ตามซอกนิ้ว เท้าเท่านี้ก็พอ
อีกวิธีหนึ่งก็คือ นำยาฉุนมาขยี้กับน้ำ แล้วนำน้ำที่ได้นี้มาทาตามเท้าให้ทั่วเป็นยากันทาก
ได้ดีอีกวิธีหนึ่ง แต่อาจไม่ดีเท่าวิธีแรก เนื่องจากวิธีนี้กลิ่นจะไม่ฉุนแรง
จัด และกลิ่นจะเจือจางได้ง่ายกว่า
2. สวมถึงเท้าหนาชนิดยาว หรือถุงเหยียบ ซึ่งเป็นถึงเท้าสำหรับนักฟุตบอล
สวมทับขากางเกง ดึงสูงขึ้นมาเกือบถึงหัวเข่า วิธีนี้แม้จะไม่ได้ผลมากนัก
แต่ก็เป็นวิธีการเบื้องต้นง่ายๆ และนักเดินป่ามักนิยมใช้กันมาก เพราะสะดวกคล่องตัว
และกว่าที่ทากจะมุดเข้าไปในขากางเกงหรือถุงเท้าของเราได้ เราก็อาจมองเห็นก่อนแล้ว
ใช้นิ้วมืดดีดมันกระเด็นทิ้งไป สุภาพสตรีบางท่าน ใช้วิธีสวมถุงน่องก่อน แล้วจึงสวมถึงเท้า
ทับเข้าไปอีกที เนื่องจากถึงน่องจะมีเนื้อผ้าที่ละเอียดมาก แม้ทากจะมุดเข้าถึงเท้าหรือขากางเกงได้
ก็จะกัดหรือ ดูดเลือดเราไม่ได้
3. ยาฆ่าแมลง ชนิดสเปรย์ โดยใช้ฉีดที่เท้าหรือ รองเท้าก่อนเข้าป่า
ก็เป็นวิธีการป้องกันทากได้อีกวิธีหนึ่ง ซึ่งสะดวกมาก แต่ต้องฉีดพ่นบ่อยๆ
4. สบู่คาร์บอลิก ที่ใช้ฟอกสุนัขเวลาอาบน้ำ ซึ่งจะมีกลิ่นแรงมาก
เลือกเอาชนิดเหลว ทาให้ทั่วแข้งทั่วขา ทั้งสองข้างก่อนเข้าป่า แต่กลิ่นของมันอาจจะรบกวนระบบหายใจมากหน่อย
Back top |
|
|
|
|
|
|