|
|
|
DIGITAL DIVIDE ในอัฟริกา IIสาระความรู้จากส่วนแผนงานและวิชาการฉบับนี้ จะกล่าวถึงการศึกษาเรื่องความเหลื่อมล้ำทางสังคมที่เกิดจากอินเทอร์เน็ต (Digital Divide) ต่อจากตอนที่แล้ว การศึกษาของ ดร. Trevor R. Roycroft และ ศิริวรรณ อนันต์โท เกี่ยวกับสภาพปัจจัยปัญหาที่ส่งอิทธิพลต่อการใช้อินเทอร์เน็ตของประชากรในทวีปอัฟริกา ใน 54 ประเทศ ได้ผลการวิจัยดังนี้ 1. 1. ดัชนีการพัฒนามนุษย์ของสหประชาชาติ (United Nation’s Human Development Index (HDI) มีความสัมพันธ์กับการเป็นสมาชิกอินเทอร์เน็ต (องค์ประกอบของ HDI มาจากจำนวนอายุเฉลี่ยของประชากร อัตราการรู้หนังสือ อัตราส่วนการเข้าเรียนในระดับประถม มัธยม และมหาวิทยาลัย และรายได้ต่อหัวของประชากร) HDI ที่แตกต่างกันในแต่ละประเทศของทวีปอัฟริกา แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างในการสมัครเป็นสมาชิกอินเทอรเน็ตของประชากรในประเทศนั้นๆ 2. 2. จำนวน bandwidth ระหว่างประเทศ มีผลบวกต่อการเป็นสมาชิกอินเทอร์เน็ต ถ้ามีอินเทอร์เน็ตที่มีความเร็วสูงหรือ bandwidth มาก คนก็จะใช้อินเทอร์เน็ตมาก (ผลข้อนี้สะท้อนว่า ประชาชนจะต้องการบริโภคข่าวสารข้อมูลจากต่างประเทศมากขึ้น) 3. 3. การใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาทางการของประเทศ มีผลบวกกับการเป็นสมาชิกอินเทอร์เน็ตของประชากรในชาติ เนื่องจากภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักที่ในอินเทอร์เน็ต ถ้าคนในชาติรู้ภาษาอังกฤษกันมาก เขาก็จะเห็นคุณค่าของการใช้อินเทอร์เน็ตกันมากกว่า 4. การผูกขาดในตลาดผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต มีผลลบกับระดับการสมัครเป็นสมาชิกอินเทอร์เน็ต เพราะการผูกขาดอาจส่งผลให้ค่าบริการสูงหรือทำให้การบริการขาดความหลากหลาย ความสำเร็จของอินเทอร์เน็ตในประเทศที่พัฒนาแล้วโดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา เกิดขึ้นเพราะมีการแข่งขันระหว่างผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต จึงส่งผลให้มีการริเริ่มการบริการรูปแบบใหม่ๆ เป็นการดึงดูดผู้ใช้อินเทอร์เน็ตได้ 5. ค่าโทรศัพท์ไม่ส่งผลกระทบต่อการสมัครเป็นสมาชิกอินเทอร์เน็ตของประชาชนในอัฟริกา ซึ่งผู้วิจัยคิดว่าข้อมูลเกี่ยวกับตัวแปรนี้อาจมีไม่เพียงพอต่อการวิเคราะห์ จากการวิเคราะห์ทางสถิติโดยค่าสหสัมพันธ์ พบว่าปัจจัยที่มีผลกระทบทางบวกสูงในการที่คนจะสมัครเป็นสมาชิกอินเทอร์เน็ต คือการที่ประเทศนั้นๆใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาทางการ ผลการวิจัยข้อนี้จึงชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนว่าอุปสรรคเรื่องภาษาเป็นเรื่องสำคัญในการใช้อินเทอร์เน็ต ส่วนปัจจัยที่มีผลกระทบในทางลบสูงได้แก่การผูกขาดการให้บริการอินเทอร์เน็ตนั่นเองแม้ว่าการแก้ปัญหาการเหลื่อมล้ำทางสังคมอันเกิดจากช่องว่างในการเข้าถึงและใช้อินเทอร์เน็ต จะสามารถแก้ไขได้บางส่วนโดยการสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางโทรคมนาคม แต่การสร้างโครงสร้างพื้นฐานก็ไม่สามารถทำให้สำเร็จลงได้ในระยะเวลาอันสั้น ดังนั้นเราจึงควรหาทางทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ในสภาพปัจจุบัน ผู้วิจัยได้ให้ข้อเสนอแนะแก่ผู้กำหนดนโยบายดังต่อไปนี้ 1. ควรส่งเสริมให้มีจุดบริการอินเทอร์เน็ตที่ใช้ภาษาท้องถิ่นให้มากขึ้น เมื่ออินเทอร์เน็ตมีเนื้อหาที่ประชาชนสามารถเข้าใจได้ง่าย เขาก็จะหันมาใช้อินเทอร์เน็ตกันมากขึ้น 2. ควรมีการขยายการใช้อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (broadband) เพื่อเพิ่มจำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในหมู่ประชาชนที่มีโทรศัพท์อยู่แล้ว 3. ควรส่งเสริมให้มีการแข่งขันในหมู่ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) เพื่อแก้ปัญหาการผูกขาดที่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาอินเทอร์เน็ต อย่างไรก็ตาม หลายๆประเทศในอัฟริกาดูเหมือนจะมีปัญหาอื่นๆที่มีความสำคัญยิ่งกว่าความเหลื่อมล้ำในการใช้อินเทอร์เน็ต เช่น ปัญหาการขาดแคลนไฟฟ้าหรือน้ำดื่ม ซึ่งเป็นเรื่องที่ผู้กำหนดนโยบายจะต้องชั่งน้ำหนักดู แต่เนื่องจากอินเทอร์เน็ตจะเป็นตัวช่วยผลักดันการพัฒนาเศรษฐกิจ การใช้อินเทอร์เน็ตจึงมีความจำเป็นเช่นกัน แต่อาจวางแผนให้มีการใช้ในระดับที่ไม่ต้องลงทุนสูงมากก็ได้ ซึ่งจะทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศมีโอกาสเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้มากขึ้น
เอกสารอ้างอิง Trevor R. Roycroft & Siriwan Anantho (2003). Internet subscription in Africa: policy for a dual digital divide. Telecommunications Policy, 27, pp. 61-74. |
|
![]() |
![]() |
|
ศูนย์เทคโนโลยีทางการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ |
โทร: 0 2247 8551 โทรสาร: 0 245 9038 |