พ.ต.ท. หญิง ดร. ศิริวรรณ  อนันต์โท

มีการสำรวจในประเทศสหรัฐอเมริกา  ถึงพฤติกรรมการใช้สื่ออินเทอร์เน็ตของมนุษย์ออฟฟิซ (ที่มีอินเทอร์เน็ต)  และพบว่า การใช้ชีวิตระหว่างวันทำงาน (จันทร์ – ศุกร์) ของพวกเขา    จะใช้อินเทอร์เน็ตเป็นสื่อหลักในชีวิตประจำวัน  โดยคนเหล่านั้นจะใช้เวลากับสื่ออินเทอร์เน็ตเป็นจำนวนร้อยละ 34   แต่ชมโทรทัศน์เพียงร้อยละ 30  และฟังวิทยุเพียงร้อยละ 26   นอกจากนั้น มนุษย์ออฟฟิซเหล่านั้น ยังมีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในหลายๆด้านด้วย   โดยจำนวนคนที่มีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในที่ทำงานมีถึงร้อยละ 73  ซึ่งมักเป็นไปในทางบวก  คือร้อยละ 36  หนีไปทำธุระส่วนตัวน้อยลง  ร้อยละ 29 ใช้เวลาคุยโทรศัพท์น้อยลง  และร้อยละ 20 ใช้เวลากับเพื่อนร่วมงานน้อยลง อย่างไรก็ตาม  ที่แน่ๆก็คือ การที่สามารถใช้อินเทอร์เน็ตในที่ทำงาน  ทำให้พวกเขาสามารถก้าวทันสถานการณ์โลกได้เร็วขึ้น

ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในที่ทำงานกลุ่มนี้  ส่วนใหญ่ (ร้อยละ 91) มักมีอินเทอร์เน็ตที่บ้านด้วย  ผลการสำรวจครั้งนี้ยังพบว่า  เมื่อใช้อินเทอร์เน็ตที่ที่ทำงาน  ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในที่ทำงานจะสังเกตเห็นโฆษณาทางธุรกิจมากกว่าตอนที่ใช้ที่บ้าน (ร้อยละ 34 ต่อ ร้อยละ 13)   แต่เมื่อคนเหล่านั้นไปใช้อินเทอร์เน็ตที่บ้าน  พวกเขาจะสังเกตเห็นโฆษณาที่เกี่ยวกับสินค้าอุปโภคบริโภคมากกว่าตอนที่ใช้อินเทอร์เน็ตที่ที่ทำงาน (ร้อยละ 32 ต่อ ร้อยละ 11)   อย่างไรก็ตาม เมื่อถูกถามต่อไปว่า พวกเขาตัดสินใจคลิกเข้าไปดูโฆษณาเหล่านั้นเมื่อใด  ส่วนใหญ่ตอบว่า เมื่อพวกเขาอยู่ที่บ้าน (ร้อยละ 40 ต่อ ร้อยละ 11)  และเมื่อถึงจุดที่ต้องตัดสินใจสั่งซื้อของทางออนไลน์  คนเหล่านั้นตอบว่า  พวกเขามักตัดสินใจขณะที่ใช้อินเทอร์เน็ตที่บ้านมากกว่าเมื่ออยู่ที่ที่ทำงาน (ร้อยละ 53 ต่อ ร้อยละ 18)

            เชื่อว่าการวิจัยนี้คงทำให้ชาวเน็ตสบายใจขึ้น ว่าการใช้เน็ตในที่ทำงานนั้นมิได้มีแต่ข้อเสียเสมอไป  อย่างไรก็ตามในประเทศไทยยังไม่เคยมีการวิจัยในเรื่องนี้มาก่อน  หากก็พอจะเดาได้ว่า  มนุษย์ออฟฟิซของไทยที่ (แอบ) ใช้เน็ตในที่ทำงานทั้งหลาย  จะมีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในที่ทำงานหลายๆด้านเช่นเดียวกับในอเมริกา  แต่การเปลี่ยนแปลงนั้นจะเป็นไปในทิศทางที่เป็นบวกต่อประสิทธิภาพการทำงานหรือไม่  คงขึ้นอยู่กับอุปนิสัยและความรับผิดชอบเฉพาะตัว

@@@@@@@@@@@

ที่มา: IntelliQuest.com

หมายเหตุ: บทความนี้เขียนเมื่อมิถุนายน 2545