กรรณิการ์ (Nyctanthes arbortristis L.)
"นางแย้มกล้วยไม้มะลุลี
|
ยี่สุ่นโยทะกาชบาบาน |
กรรณิการ์เกดแก้วกาหลง | ประยงค์พะยอมหอมหวาน" |
พระราชนิพนธ์เรื่องรามเกียรติ์ ในรัชกาลที่ 1
ดอกเอ๋ยดอกกรรณิการ์
|
กลีบช่างพาให้หลงพะวงฝัน |
หอมระรื่นชื่นใจไปทั้งวัน | ค่ำคืนนั้นมิได้หอมออกตรอมตรม |
ก้านสีแสดดอกสีขาวเหมือนดาวเด่น | ในยามเช้าเคยเห็นส่งกลิ่นฉม |
แล้วร่วงโรยโปรยดอกออกตามลม | ช่างน่าชมเดียรดาษเกลื่อนกลาดเอย |
ดอกไม้หอมเมืองไทย...เรืองอุไร กุศลาศัย
กรรณิการ์เป็นไม้พุ่มค่อนข้างโปร่ง สูง 1.5 - 2.5 เมตร กิ่งเป็นเหลี่ยมผิวหยาบและเปราะหักง่าย ใบเป็นใบเดี่ยวรูปคล้ายรูปไข่ ขนาดยาว 4 - 8 เซนติเมตร กว้าง 2.5 - 4 เซนติเมตร ปลายแหลม ขอบใบอาจจะเรียบหรือเป็นจัก ให้ดอกเกือบตลอดปี ขนาดดอก 1.5 - 2 เซนติเมตร กลีบเป็นแฉกสีขาว 5 แฉก ปลายบิดเวียนเล็กน้อย หลอดดอกตรงสีแสดยาวประมาณ 1 เซนติเมตร ดอกบานและมีกลิ่นหอมในเวลากลางคืน ครั้นถึงเวลาเช้า ดอกจะร่วงลงเกลื่อนใต้ต้น ดังเช่นที่กล่าวไว้ในวรรณคดีเรื่อง อิเหนา พระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ 2 ดังนี้
พระนึกคะนึงนางพลางประพาส
|
รุกขชาติที่ในสะตาหนัน |
พิกุลกรรณิการ์สารพัน | ดอกหล่นปนกันอยู่กลางทราย |
คนไทยสมัยก่อนจะใช้หลอดกลีบดอกย้อมผ้า และนำดอกมาร้อยเป็นสาย แล้วผูกกันเป็นพวงอุบะ กรรณิการ์ขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ด หรือโดยการตอนกิ่ง ปลูกเลี้ยงได้ดีในที่ที่น้ำไม่ขัง และมีร่มเงาเล็กน้อย ถิ่นกำเนิดเดิมคือแถบเอเชียตอนใต้