อ่านดูจากที่ทุกท่านโพสข้อความถามตอบกันในเรื่องความแรงของปืนแบบอัดแก๊ส ชนิด Blowback แล้ว ส่วนใหญ่หลายท่านต้องการทราบว่าจะแต่งปืนอย่างไรให้เกิดความแรง ซึ่งก็คือความเร็วของลูกกระสุนที่จะวิ่งออกจากปากลำกล้อง เพื่อเพิ่มอำนาจในการยิงหรือเพิ่มความแม่นยำนั่นเอง เท่าที่ผู้เขียนอ่านจากวิธีการของแต่ละท่านอาจจะพอสรุปได้ดังนี้ครับ

1. ความเร็วของลูกกระสุนส่วนหนึ่งเกิดจากชนิดของแก๊สที่ใช้ ซึ่งถ้าเป็นชนิด Top gas ด้วยแล้ว แรงอัดจะสูงมากทำให้สามารถเร่งความเร็วของกระสุนได้มากเลยทีเดียว แต่ก็อาจจะทำให้ปืนพังเร็วขึ้นนะ

2. วาล์วที่ใช้ เดี๋ยวนี้มีการผลิต Hi-flow valve ออกมาหลายชนิด ซึ่งแนวคิดก็คือทำให้มีการเปิดแก๊สออกได้มากขึ้นเพื่อเพิ่มแรงดันของกระสุน

3. สปริงนกสับเป็นส่วนหนึ่งที่ต้องเปลี่ยนเพื่อให้เกิดผลในการสับปล่อยแก๊สให้มากขึ้น เพราะสปริงเดิมอาจจะอ่อนไปและสับได้ไม่สุดระยะของวาล์วในช่วงที่เหนี่ยวไก โดยเฉพะเวลาที่ใช้กับแก๊สแรงๆ ที่มีความดันสูงแบบ Top Gas จะทำให้วาล์วแข็งมากขึ้น การใช้สปริงเดิมๆ อาจทำให้ได้ผลไม่เต็มที่เท่าไร ซึ่งก็คือทำให้ Hi-flow valve หรือ valve เดิมๆ ทำงานได้เต็มที่

4. ยางลูกสูบ (Piston head) จะทำให้การเก็บแก๊สใน Nozzle หรือลูกสูบทำงานได้เต็มที่มากขึ้น จะได้ผลอย่างมากในด้านการ Blowback ให้หนักแน่นมากขึ้น  ที่สำคัญแบบเดิมที่ติดปืนมาเสียง่ายครับ

5. สปริง Guide rod เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดแรงดีดกลับของสไลด์ โดยเฉพาะทำให้ได้ความรู้สึกว่าปืนแรง ยิ่งถ้าใช้สปริงที่มีค่า K มาก (ความแข็งมาก) และใช้แก๊สแบบแรงด้วยแล้ว ความรู้สึกว่าปืนแรงจะมากขึ้นครับ

6. Nozzle valve เป็นตัวปล่อยแก๊สไปดันกระสุนที่อยู่ในตัวลูกสูบครับ จะมีสปริงเล็กๆ อยู่ด้านใน ซึ่งบางบริษัทที่ผลิตชุดแต่งออกมาบอกว่าจะทำให้การปล่อยแก๊สไดคงที่มากขึ้น ซึ่งก็คือประสิทธิภาพการยิงได้ราบรื่น ความเร็วคงที่ และได้ความแรงขึ้นนิดหน่อยครับ ตรงนี้ถ้าเปลี่ยนสปริงตัวเล็กๆ ให้แข็งขึ้นอีกสักนิด จะทำให้แก๊สออกมาได้มากขึ้นครับ ซึ่งต้องลองผิดลองถูกกันหลายครั้งเลยทีเดียว

7. เดี๋ยวนี้มีลำกล้องพิเศษ เป็นแบบมีเกลียวที่ปลายลำกล้องเพื่อต่อความยาวให้มากขึ้น ทำให้เพิ่มความแม่นยำ และลำกล้องรีดที่มีขนาดเล็กกว่าปกติ ประมาณ 6.04 mm ทำให้แก๊สสามารถผลักดันกระสุนได้ดีขึ้น ความเร็วจึงมากขึ้น รวมถึงแม่นขึ้นด้วย แต่ต้องใช้ลูกที่ค่อนข้างสะอาดนะครับ เพราะถ้ามีฝุ่นเข้ามาในลำกล้อง จะทำให้ความเร็วตกลงเพราะเกิดการเสียดทานในลำกล้อง

8. อุณหภูมิของแม็กเป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้แรงดันของแก็สตก ถ้ายิงมากจนแม็กเย็นจัดแล้ว แรงดันแก๊สจะตกครับ ตรงนี้เป็นหลักการทางวิทยาศาสตร์ คืออุณหภูมิที่สูงขึ้นจะทำให้แรงดันแก็สสูงขึ้นด้วย ทำให้เรารู้สึกว่าถ้ายิงแบบต่อเนื่องนานๆ จะทำให้ความเร็วของกระสุนตกไป การยิงต่อเนื่องแบบเร็วๆ จะทำให้แม็กเย็นขึ้นครับแรงดันจะตกลง

9. การบรรจุแก๊สในแม็ก อย่ามากครับ ประมาณ 5-6 วินาทีจากไม่มีแก๊สก็พอแล้วครับ เนื่องจากเราใช้แรงดันไอของแก๊สครับ ปริมาณแก๊สประมาณ 3 ใน 4 ของแม็กจะมีแรงดันไอสูงกว่าใส่เต็มแม็ก เพราะจะมีเรื่องอุณหภูมิมาเกี่ยวข้อง การเติมแก๊สเต็มแม็กปืนจะทำมให้แม็กปืนเย็นกว่าแบบเติมไม่เต็มครับ