นิทานโบราณคดี เป็นพระนิพนธ์เรื่องสุดท้ายในพระชนมชีพ แรงจูง
ใจที่สำคัญในการเขียนนิทานโบราณคดี เกิดจากการที่ทรงเห็นว่าเรื่องราวต่างๆ ที่ทรง
รับรู้จากการเดินทางไปตรวจราชการต่างจังหวัด ในช่วงที่ทรงมีตำแหน่งเป็นเสนาบดี
กระทรวงมหาดไทย (๒๔๓๕ - ๒๔๕๗) และความรู้ที่ได้จากการทูลถามเรื่องเก่าๆ เมื่อ
ทรงร่วมโต๊ะเสวยกับพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าอยู่หัว สมควรที่จะมีการบันทึกไว้
ให้คนรุ่นหลังได้รับรู้
นิทานโบราณคดี ประกอบด้วยนิทาน ๒๒ เรื่อง ประกอบไปด้วยเนื้อหา
เด่นๆ ต่อไปนี้
เนื้อหาที่หนึ่ง เป็นเรื่องที่ทรงเห็นว่าเป็นเรื่อง "แปลกประหลาด"
มีนิทานที่มีเนื้อหาลักษณะนี้ ดังนี้
นิทานเรื่องที่ ๑ - พระพุทธรูปประหลาด
คือ พระพุทธรูปที่ทรงนำมาจากเมืองทุ่งยั้ง จังหวัดอุตรดิตถ์ ที่
เชื่อกันว่าไม่ว่าจะประดิษฐานอยู่ที่ไหน จะนำมาซึ่งการทะเลาะวิวาท
นิทานเรื่องที่ ๒ - เรื่องพระครูวัดฉลอง
พระครูวัดฉลอง หรือ พระครูวิสุทธิวงศาจารย์สังฆปาโมกข์ เมือง
ภูเก็ต ที่ชาวบ้านนับถือว่าสามารถดลบันดาลสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นแก่ผู้บนบานร้อง
ขอได้สำเร็จ และชาวบ้านใช้วิธีแก้บนด้วยการปิดทองคำเปลวที่หน้าแข้งท่าน
นิทานเรื่องที่ ๔ - ห้ามไม่ให้เจ้าไปเมืองสุพรรณบุรี
เป็นเรื่องแปลกที่เจ้านายแต่โบราณถูกห้ามไม่ให้เสด็จไปสุพรรณบุรี
สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงฯ ทรงมาอธิบายว่า เป็นเพราะมีความเชื่อว่าเทพารักษ์
หลักเมืองสุพรรณบุรีไม่ชอบเจ้า ความอัปมงคลที่เมืองสุพรรณจะทำให้เจ้านาย
เสียพระจริต การเสด็จไปตรวจราชการที่สุพรรณบุรีของพระองค์จึงเป็นการ
ทำลายความเชื่อในหมู่เจ้านายแต่โบราณ จนกระทั่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอม
เกล้าเจ้าอยู่หัว ในที่สุดก็ได้เสด็จไปสุพรรณบุรีตามคำกราบทูลเชิญ ของสมเด็จฯ
กรมพระยาดำรงฯ ดังที่ทรงเล่าไว้อย่างขำๆ ไว้ว่า
"...ปีหนึ่งฉันทราบทูลเชิญเสด็จประพาสเมืองสุพรรณบุรี ตรัสว่า
"ฉันก็นึกอยากไป แต่ว่าไม่บ้านะ" ฉันกราบทูลว่าข้าพระพุทธเจ้าไปเมือง
สุพรรณหลายปีแล้ว ก็ยังรับราชการสนองพระเดชพระคุณอยู่ได้ ทรง
พระสรวลตรัสว่า "ไปซิ"..."
และนับแต่นั้นมา ก็ไม่มีผู้ใดกล่าวถึงคติที่ห้ามเจ้านายมิให้เสด็จไปเมือง
สุพรรณอีก
นิทานเรื่องที่ ๕ - เรื่องแปลกที่เมืองชัยปุระในอินเดีย
ทรงเล่าเกี่ยวกับประเพณีการชนช้าง เรื่องฤาษีดัดตน เรื่องการ
สาปของดาบส และทรงนำมาเปรียบเทียบความคลายคลึงที่มีในสังคมไทย
นิทานเรื่องที่ ๖ - ของแปลกที่เมืองพาราณสี
คล้ายกับวิธีการเล่าในเรื่องที่ ๕ ทรงเล่าถึง ประเพณีฮินดูเกี่ยวกับการ
ลอยบาป การปลงศพ ทรงโยงความรู้ที่ได้จากประสบการณ์ในอินเดียมา ทำความเข้า
ใจที่มาของการใช้คำว่า ย่ำ ในภาษาไทยในคำว่า ย่ำรุ่ง ย่ำค่ำ เป็นต้น
นิทานเรื่องที่ ๑๑ - โจรแปลกประหลาด
เป็นเรื่องทรงเล่าเกี่ยวกับโจร ๒ คน คือ โจรทิม และโจรจันทร์ ความ
"แปลกประหลาด" อยู่ที่ โจรทิม มีความสามารถในการจักสานอย่างประณีต จน
ใช้เป็นเครื่องต่อรองขอให้ปล่อยตัวออกจากคุกได้ และเป็นโจรที่มีความจงรัก
ภักดี เป็นตัวอย่างที่บุคคลที่สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงฯ เปรียบเทียบกับสุภาษิต
โบราณว่า "ไม้ต้นคดปลายตรงยังดัดเอาได้ดี ถ้าปลายคดถึงต้นจะตรงก็ใช้ไม่ได้"
ส่วนเรื่องโจรจันทร์ มีความ "แปลกประหลาด" อยู่ที่เป็นผู้รอบรู้เกี่ยวกับศาสตร์
ของโจร และมีกิริยามารยาทสุภาพอ่อนน้อมผิดวิสัยโจรทั่วไป เรื่องนี้ สะท้อนให้
เห็นถึงลักษณะพิเศษของสังคมไทยในอดีตที่มีความอะลุ้มอล่วย เป็นสังคมที่ไม่
เคร่งครัดเอาเป็นเอาตาย มีความเห็นอกเห็นใจและขี้สงสารต่อผู้ตกทุกข์ได้ยาก
ดังจะเห็นได้จากเมื่อโจรทั้ง ๒ กลับใจและทำคุณงามความดี ดูเหมือนว่า สังคม
จะยอมรับและยกย่อง
นิทานเรื่องที่ ๑๙ - เมืองไทยมีพระเจ้าแผ่นดิน ๒ องค์
เป็นความแปลกประหลาดในสายตาของต่างประเทศ ที่ในรัชสมัย
ร.๔ มีกษัตริย์ถึง ๒ พระองค์ คือ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
และพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงฯ ทรง
อธิบายเหตุผลที่มาของปรากฎการณ์ดังกล่าวอย่างละเอียด และทรงยกตัว
อย่างปรากฏการณ์เดียวกันซึ่งเคยเกิดขึ้นมาแล้วในสมัยอยุธยา
เนื้อหาที่ ๒ เกี่ยวกับสภาพภูมิประเทศ ชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้าน
ในหัวเมืองห่างไกลของไทย ตามเส้นทางที่ทรงพระราชดำเนินไปยังที่ต่างๆ มี
นิทานที่มีลักษณะนี้ ดังนี้
นิทานเรื่องที่ ๓ - เสือใหญ่เมืองชุมพร
เป็นเรื่องของ เสือที่ดุร้ายตัวหนึ่งแถบเมืองชุมพร มีสมญานามว่า
"อ้ายเป๋" ในเรื่องนี้ ทรงบรรยายสภาพภูมิศาสตร์ตอนใต้ของประเทศไทยอย่าง
ละเอียดเห็นภาพพจน์ รวมทั้งให้ความรู้เกี่ยวกับพืชพันธุ์ไม้และสัตว์แปลกๆ ที่
ปัจจุบันไม่เคยได้ยิน เช่น ต้นตะลังตัวช้าง ตัวโป่งค่าง ชีวิตชาวบ้าน การแก้
ปัญหากรณีมีโรคระบาดในหมู่บ้าน
นิทานเรื่องที่ ๗ - สืบพระศาสนาในอินเดีย
เป็นเรื่องที่ พุทธศาสนิกชนทั่วไปจะได้ความรู้ที่ละเอียดจากการ
บรรยายที่เห็นภาพพจน์ผ่านทางประสบการณ์สายพระเนตรและทัศนะของพระองค์
พระองค์ทรงเล่าการเสด็จไปยังสถานที่สำคัญทางพุทธศาสนา เช่น มฤคทายวัน
พุทธคยา ที่น่าสนใจคือ ข้อสันนิษฐานของพระองค์เกี่ยวกับพระบรมสารีริกธาตุ
พระองค์ยังได้อัญเชิญพระศรีมหาโพธิ์ มาปลูกในประเทศไทยอีกด้วย
นิทานเรื่องที่ ๑๐ - ความไข้เมืองเพชรบูรณ์
ให้ข้อมูลทางภูมิศาสตร์และภูมิอาการข้อสันนิษฐาน คำอธิบายเกี่ยว
กับเมืองโบราณต่างๆ ที่ทรงเสด็จผ่านตามเส้นทางตั้งแต่กรุงเทพฯ ถึงเพชร
บูรณ์
นิทานเรื่องที่ ๑๖ และ ๑๗ - ล้านช้าง และแม่น้ำโขง
ทั้งสองเรื่องนี้ ทรงพระนิพนธ์ขึ้นเมื่อเสด็จไปตรวจราชการที่มณฑล
อุดรและมณฑลอีสานที่น่าสนใจ คือ ทรงอธิบายถึงวัฒนธรรมของชนเชื้อชาติ
แปลกที่มีชื่อไม่คุ้นหู บริเวณนั้น เช่น พวกกะเลิง ย้อ แสก โย้ย กระตาก กะโซ้
อ่านต่อ ไปหน้าที่ 2
|