ภาษากฎหมายไทย
พิมพ์ครั้งแรก พ.ศ.๒๕๑๑

ศาสตราจารย์ ธานินทร์ กรัยวิเชียร
(พ.ศ.๒๔๗๐ - )



		ภาษากฎหมายไทย จัดเป็นงานสารคดี ซึ่งเป็นผลงานศึกษาวิจัยของ
	ศาสตราจารย์ธานินทร์ กรัยวิเชียร ที่ท่านผู้เขียนมุ่งหมายเสนองานวิชาการ ได้จำแนก	
	แยกแยะถี่ถ้วนเชื่อมโยงกันเป็นระบบ มีรายละเอียดตัวอย่างภาษากฎหมายจากสภาพ
	ความเป็นจริงที่ดีและไม่ดี

		ภาษากฎหมายไทย แบ่งออกเป็นบทต่างๆ อย่างต่อเนื่องกันนับจากบทนำ
	ถึงบทสรุป รวม ๘ บท และทำสารบัญค้นเรื่องและค้นคำไว้ท้ายเล่ม เพื่อประโยชน์ใน
	การศึกษาง่ายขึ้น

	บทนำ
		ได้กล่าวถึงความสำคัญของภาษากฎหมายไทย และแง่มุมการศึกษาภาษา
	กฎหมายไทย ตามที่ท่านผู้เขียนมีความมุ่งหมายเริ่มจากประการแรก :  การวิจัย
	กฎหมายภาษาไทย, ประการที่สอง : การให้ข้อเสนอแนะ, และประการที่สาม : การทด
	ลองในเรื่องของภาษากฎหมาย

	บทที่ ๑ - ความเป็นมาของภาษากฎหมายไทย :
		ศึกษาภาษากฎหมายสมัยสุโขทัย อยุธยา และรัตนโกสินทร์ โดยเฉพาะ
	สมัยปฎิรูประบบกฎหมายและการศาล ในแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า
	เจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕

	บทที่ ๒ - ภาษากฎหมายของนานาประเทศ :
		กล่าวถึงภาษากฎหมายของอังกฤษ ความยุ่งยากของภาษา โดยเฉพาะ
	ภาษาของตัวบทกฎหมาย และสำเนียงภาษากฎหมาย ต่อมากล่าวถึงภาษากฎหมาย
	สหรัฐอเมริกา, ภาษากฎหมายฝรั่งเศส ได้แสดงความชื่มชม ประมวลกฎหมายแพ่ง
	ของนโปเลียน และข้อสุดท้าย ภาษากฎหมายของประเทศอื่น ดังได้อ้างถึงประเทศ
	สวิส ต้องบัญญัติถึงสามภาษา ภาษากฎหมายของประเทศที่เพิ่งเป็นเอกราชพยายาม
	จะใช้ภาษาของตน หลังจากใช้ภาษาของประเทศที่เข้ามาปกครองสมัยอาณานิคม

	บทที่ ๓ - อิทธิพลของภาษาอังกฤษในภาษากฎหมายไทย :
		โดยเหตุที่ผู้พิพากษาไทยในอดีต (สมัยปฏิรูประบบกฎหมายและการศาล) 
	เคยฝึกฝนแบบอย่างจากอังกฤษ และภาษาอังกฤษปรากฏเป็นศัพท์ในระบบกฎหมาย
	ไทยครั้งปฏิรูปสมัยรัชกาลที่ ๕ นั้น  ภาษากฎหมายไทยจึงได้รับอิทธิพลดังกล่าว เฉพาะ
	ศัพท์ภาษาอังกฤษค่อยๆ หายไป  เมื่อได้ประกาศใช้กฎหมายลักษณะอาญาและประมวล
	กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ลักษณะภาษาอังกฤษที่มีอิทธิพลต่างภาษากฎหมายไทย มิ
	ใช่ Legal English  อันยุ่งยากในภาษากฎหมายอังกฤษ เพราะไทยเลือกรับเฉพาะภาษา
	อังกฤษ ที่ท่านผู้เขียนเรียกว่า ฟังชั่นเนิล อิงลิช (Functional English) คือ สั้น กะทัดรัด 
	ชัดเจนและมีความหมายแน่นอน

		ในบทนี้ ยังแสดงความเห็นเรื่องการบัญญัติศัพท์ใหม่ขึ้นใช้, สำนวนไทย 
	สำนวนฝรั่ง, การใช้ศัพท์ภาษาต่างประเทศในศาล และการแปลภาษากฎหมาย

	บทที่ ๔ - ข้อพิจารณาเกี่ยวกับภาษากฎหมายไทยในปัจจุบัน :
		ท่านผู้เขียนจำแนกเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวกับภาษากฎหมายไทย เริ่มจากความ
	สำคัญของภาษาเขียน, ปัญหาภาษาถิ่นเมื่อเบิกความต่างศาล, การใช้เครื่องหมายวรรค
	ตอน, การจัดระบบตัวอักษรย่อในภาษากฎหมาย ที่ยังไม่ว่างมาตรฐานให้เป็นระเบียบ
	เดียวกัน, การพิสูจน์อักษรหรือตรวจปรู๊ฟตามภาษากฎหมาย และข้อเสนอแนะต่อการ
	แก้ไขปรับปรุงพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน เนื่องจากเป็นเอกสารราชการที่ศาล
	ใช้ประกอบการพิจารณาถ้อยคำสามัญ

	บทที่ ๕ - โวหารกฎหมายที่ว่าดี, ดีนั้นประการใด? :
		ในบทนี้ กล่าวถึงโวหารการเขียน ท่านผู้เขียนใช้คำโวหารตามความหมาย 
	Style ในภาษาอังกฤษบางท่านเรียกในภาษาไทยว่า สำนวนซึ่งท่านผู้เขียนกลับเห็นว่า 
	"สำนวน" นั้นควรเป็นสิ่งเดียวกับที่อังกฤษเรียกว่า idiom ทั้งนี้ได้อ้างคำผู้รู้ทางอักษร
	ศาสตร์และยกตัวอย่างประกอบ นอกจากนั้นได้เสนอหลักการของโวหารที่ดี จะต้อง
	ประกอบด้วยคุณลักษณะ  ๖ ประการ คือ แจ้งชัดและปราศจากช่องโหว่, สั้น กะทัดรัด, 
	ใช้ถ้อยคำในภาษากฎหมายให้เป็นระเบียบเดียวกันตลอด, ใช้ถ้อยคำที่ใช้ในตัวบท
	กฎหมาย, สุภาพนุ่มนวล, และสามารถจูงใจผู้ฟังผู้อ่านให้คล้อยตามได้

	บทที่ ๖ - การฝึกฝนเรื่องโวหารกฎหมาย :
		อธิบายถึงโวหารกฎหมายที่ดีจำเป็นต้องหมั่นศึกษาฝึกฝน โวหาร 
	กฎหมายขึ้นกับความเจริญของวิทยาการด้านกฎหมายอย่างหนึ่ง  ขึ้นกับศิลปะแห่ง
	ภาษากฎหมายอีกอย่างหนึ่ง และการฝึกฝนเป็นสิ่งจำเป็น ควรฝึกทั้งภาษาเขียนและ
	การพูดอย่างมีวาทศิลป์

	บทที่ ๗ - สรุปความ :
		เป็นการสรุปสาระสำคัญทั้งหมด และมีข้อเสนอแนะที่น่าสนใจ คือ ควร
	สนับสนุนส่งเสริมภภาษากฎหมายอย่างเป็นทางการ อาทิ จัดวิชาภาษากฎหมายไทย 
	ไว้ในหลักสูตรชั้นปริญญาตรีทางนิติศาสตร์, ประกวดเรียงความกฎหมาย, จัด
	อภิปรายและสัมมนาแง่ต่างๆ ของภาษากฎหมาย, ให้ทุนส่งเสริมค้นคว้าด้านวรรณ-
	กรรมกฎหมาย, การค้นคว้าเปรียบเทียบภาษากฎหมายไทยกับเทศ, การเลือกสรร
	โวหารกฎหมายที่ดีเด่นพิเศษ ทั้งเก่าและใหม่มาลงพิมพ์เผยแพร่

		ท่านผู้เขียนแสดงปัจฉิมลิขิตด้วยโวหารสุดท้ายว่า "ข้อผิดพลาด
	ขาดตกและบกพร่องของผู้เขียนที่ปรากฎในหนังสือนี้, ผู้เขียนขออุทิศให้เป็น
	วิทยาทานแต่ท่านผู้อ่าน, ในฐานเป็นตัวอย่างที่ไม่ควรเอาอย่าง"


กลับไปหนังสือประเภทศิลปะ, ภาษาและวรรณกรรม, วรรณกรรมวิจารณ์