อาจินต์ ปัญจพรรค์

	เกิดเมื่อ ๑๑ ตุลาคม ๒๔๗๐ ที่อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม บิดาเป็นข้า
ราชการกระทรวงมหาดไทย  เขาสนใจนิทานจากแบบเรียนไว เพลงพื้นบ้านอ่านเรื่องจักรๆ 
วงศ์ๆ มาตั้งแต่เด็ก  เรียนชั้นประถมที่โรงเรียนพระปฐมวิทยาลัย  แล้วมาต่อมัธยมที่โรง
เรียนอำนวยศิลป์ ปากคลองตลาด โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาและเข้าเรียนต่อในคณะวิศว
กรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  แต่ถูกรีไทร์ จึงไปสมัครเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัย
ธรรมศาสตร์อยู่พักหนึ่ง  แล้วไปทำงานในเหมืองแร่ที่จังหวัดพังงา  ระหว่างปี ๒๔๙๒ ถึง 
๒๔๙๖ จึงกลับมากรุงเทพฯ เริ่มเขียนละครวิทยุเรื่องดอกฟ้าร่วง ให้กับชอุ่ม ปัญจพรรค์  
นวนิยายเรื่องแรกคือ บ้านแร่ เขียนบทกลอนลงในสตรีสารบ้าง และเขียนเรื่องยาวสี่ตอน
จบ ชื่อ เหมืองแร่มีนิยายลงในวารสารรายสัปดาห์ จ.ส.ช.

	กลางปี ๒๔๙๗  สยามรัฐสัปดาห์วิจารณ์  ฉบับปฐมฤกษ์ลง สัญญาต่อหน้า
เหล้า ของอาจินต์  โดยใช้นามปากกา "จินตเทพ"  ปีถัดมาเริ่มงานอาชีพเป็น คนเขียนบท
ประจำสถานีโทรทัศน์แห่งแรก และต่อมาก็รับหน้าที่เป็นบรรณาธิการนิตยสารไทยโทรทัศน์
รายเดือน และเขียนบทละครด้วย บทละครในช่วงนี้ที่เด่นๆ คือ ละครเพลงชีวิตศรีปราชญ์ 
และ ละครเพลงมรดกสุนทรภู่  นอกจากงานเขียนเรื่องสั้น บทละครวิทยุและโทรทัศน์แล้ว

	ประมาณปี ๒๕๐๘  สร้างตำนานให้กับวงการหนังสือไทยด้วยการเริ่มขบวน
การ "เขียนเอง-พิมพ์เอง-ขายเอง"  จากการพิมพ์หนังสือรวมเรื่องสั้น ชุด เหมืองแร่ ชื่อ 
ตะลุยเหมืองแร่  เป็นหนังสือปกอ่อน 
	
	อาจินต์ยังแต่งเพลงไว้หลายเพลง เช่น สวัสดีบางกอก  ที่ขึ้นด้วย "อย่าไป
เลยบางกอกจะบอกให้ / พี่เคยไปมาแล้วน้องแก้วเอ๋ย" ม.ร.ว.ถนัดศรี สวัสดิวัตน์ ขับ
ร้อง

	อาจินต์ออกนิตยสารฟ้าเมืองไทย รายสัปดาห์เมื่อปี ๒๕๑๒  รวมงานของนัก
เขียนรุ่นเก่าที่มีชื่อเสียงแล้ว  และนักเขียนรุ่นหนุ่มสาว  เป็นหนังสือรายสัปดาห์ที่ จัดว่าขาย
ดี ในช่วงปี ๒๕๒๒ เคยมียอดพิมพ์ถึง ๖ หมื่นฉบับ ในปี ๒๕๒๙ ก็ออกฟ้าเมืองทองราย
เดือน และมีฟ้าอาชีพ ตามมาอีกเล่ม  เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป นิตยสารชุดฟ้าของอาจินต์ก็มา
ถึงจุดสิ้นสุดเมื่อปี ๒๕๓๑  รวมเวลาเกือบ ๒๐ ปี

	อาจินต์ได้รับเลือกเป็นศิลปินแห่งชาติ  สาขาวรรณศิลป์ ในปี ๒๕๓๔ และได้
รับรางวัลศรีบูรพา  ประจำปี ๒๕๓๕                   


กลับไปผู้แต่งประเภทเรื่องสั้น