จิตร ภูมิศักดิ์

	เดิมชื่อสมจิตร  ต่อมาตัดให้สั้นเหลือแต่จิตร  เกิดเมื่อวันที่ ๒๕ กันยายน ๒๔๗๓ 
ที่จังหวัดปราจีนบุรี  ช่วงเยาว์วัย จิตร โยกย้ายตามคุณพ่อที่รับราชการไปตามที่ต่างๆ สถาน
ที่สำคัญคือ  ที่จังหวัดพระตะบอง  ที่จิตรเรียนรู้อารยธรรมเขมรและภาษาเขมรอย่างแตกฉาน 
จิตรสนใจในอดีตและวัฒนธรรมไทย เขาแสวงหาความรู้จากหลักฐานโบราณ และจากเอกสาร
ในหอสมุดแห่งชาติ พ.ศ. ๒๔๙๓ จิตรเข้าศึกษาในคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 
ได้แสดงความสามารถทางภาษาและทางดนตรีไทย

	ปี ๒๔๙๖ จิตรถูกพักการเรียน เพราะเขาทำและเขียนหนังสือวิพากษ์วิจารณ์สังคม 
ในช่วงที่ถูกพักการเรียน จิตรมีโอกาสอ่านหนังสือของฝ่ายซ้าย ทั้งไทยและต่างประเทศ  หลัง
จากนั้น  บทความงานทางวิชาการที่ก่อนหน้านั้นมีลักษณะเป็นวิชาการและอย่างสันติ  ได้เปลี่ยน
ไปเป็นการเขียนที่มีลักษณะเย้ยหยัน รุนแรง วิพากษ์วิจารณ์ในช่วงปี ๒๔๙๗-๒๕๐๐  จิตรใช้
นามปากกาทีปกร ซึ่งแปลว่าเป็นผู้ให้แสงสว่าง, ไฟ  เขียนหนังสือที่มีอิทธิพลยิ่งเล่มหนึ่ง คือ  
ศิลปเพื่อชีวิตและศิลปเพื่อประชาชน  ในปี ๒๕๐๐  และในปีเดียวกันนี้  จิตรได้เขียนบทความ
ชื่อ "บทบาททางวรรณคดีของพระมหามนตรี"  ผู้เขียนระเด่นลันได  มีเนื้อหาล้อเลียนวัฒน
ธรรมพวกศักดินา  โดยเฉพาะวรรณกรรมของชนชั้นสูงในเรื่อง อิเหนา เพลงยาวบัตรสนเท่ห์  
สะท้อนการฉ้อราษฎร์บังหลวง  เป็นต้น
	
	ในปี ๒๕๐๑  จิตรถูกจับกุมในข้อหาการเมือง พร้อมกับนักหนังสือพิมพ์นักการ
เมือง นักเขียนปัญญาชนจำนวนมาก  หลังจากได้รับการปล่อยตัวในปี ๒๕๐๗ เขาได้เข้าร่วม
กับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย  และต้องจบชีวิตลง ในระหว่างทำงานปฏิวัติ  ในปี 
พ.ศ.๒๕๐๙  ขณะที่มีอายุได้ ๓๖ ปี  ผลงานทางวิชาการวรรณกรรม และบทเพลงจำนวน
มากของเขาส่งอิทธิพลทางภูมิปัญญาไทย ภายใต้นามปากกา เช่น สมสมัย ศรีศูทรพรรณ, 
ทีปกร, ศิลป์ พิทักษ์ชน,  กวี ศรีสยาม,  สมชาย ปรีชาเจริญ,  สิทธิ ศรีสยาม,  ศรีนาคร, 
นาครทาส


กลับไปผู้แต่งประเภทประวัติศาสตร์