สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส

	พระประวัติสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส จากพระนิพนธ์ 
พระประวัติตรัสเล่า เริ่มด้วยเรื่องพระประสูติใน พ.ศ.๒๔๐๓ ถึงสมัยทรงรับสมณศักดิ์เป็น
สมเด็จ กรมหมื่นวิชรญาณวโรรส พ.ศ.๒๔๒๔  ดังนั้น ในส่วนพระประวัติสังเขปที่จะกล่าว
โดยตลอดพระชนมชีพ พร้อมพระกรณียกิจและงานพระนิพนธ์อื่นๆ ได้อาศัยข้อมูลทั้งจาก
พระประวัติตรัสเล่า กับหนังสือ "พระประวัติสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณ
วโรรส" ฉบับ นายชื้น ยอดเศรณี เป็นแหล่งข้อมูลอ้างถึงโดยสำคัญ

	สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ทรงเป็นพระราชโอรสใน
รัชกาลที่ ๔ กับเจ้าจอมมารดาแพ  ประสูติวันพฤหัสบดีที่ ๑๒ เมษายน ๒๔๐๓  รับพระราช
ทินนามว่าพระองค์เจ้ามนุษย์นาคมานพ ปีรุ่งขึ้นจากปีประสูติ เจ้าจอมมารดาแพถึงแก่อนิจ
กรรม  สมเด็จกรมหลวงวรเสรฐสุดาทรงอุปถัมภ์ และมีท้าวทรงกันดาร (ศรี) ผู้เป็นยาย
เลี้ยงดู เริ่มทรงศึกษาแต่เยาว์วัยกับคุณพนักงานในวัง เป็นการเรียนหนังสือไทย และเรียน
หนังสือขอมกับพระปริยัติธรรมธาดา (เปี่ยม) ครั้งพระชนมายุ ๑๒ พรรษา  ทรงเข้าโรง
เรียนภาษาอังกฤษในพระบรมมหาราชวัง เรียนกับครูฟรานซิสชอช แปตเตอร์สัน ภายหลัง
โสกันต์	แล้วได้ทรงพระผนวชเป็นสามเณรคราวหนึ่ง  ต่อมาสึกและเสด็จประทับวัง
กรมหลวงพรหมวรานุรักษ์ การใช้ชีวิตวัยรุ่นนั้น ทรงใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายและเริ่มติดนิสัยการ
พนัน หากอาศัยพระนิยมที่ทรงชื่นชมฝรั่ง ทั้งได้พบฝรั่งที่ดี คือ หมอปีเตอร์ เคาวัน ชาว
สก๊อต แพทย์หลวงที่มีนิสัยสันโดษ มีความประพฤติดี จึงมีอิทธิพลต่อพระจรรยาวัตรของ
สมเด็จฯ อย่างมาก  สามารถเปลี่ยนพระนิสัยในส่วนบกพร่องเป็นไปในทางที่ดี  ดังตรัส
เล่าว่า "บุญของเรากลับตัวได้เร็ว ตั้งแต่อายุได้ ๑๗ ปี"

	สมเด็จพระมหาสมณเจ้าฯ ขณะพระชนม์ ๑๘ พรรษา ยังมิได้ผนวช เริ่มทรง
ราชการในกรมราชเลขานุการ ต่อมารัชกาลที่ ๕ ทรงเกลี้ยกล่อมให้ทรงพระผนวช เพื่อทรง
ช่วยราชการด้านการศาสนา จึงทรงพระผนวชเป็นพระภิกษุ  เมื่อ พ.ศ. ๒๔๒๒  สมเด็จ
กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์  ทรงเป็นพระอุปัชฌาย์ และพระจันทรโคจรคุณ (ยิ้ม จันท
รังสี)  เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ทรงพระผนวชแล้วประทับวัดบวรนิเวศวิหาร ตลอดพระ
ชนมชีพเป็นระยะเวลาที่ทรงเสียสละบำเพ็จกรณียกิจสำคัญแก่ชาติและพระศาสนาอย่างใหญ่
หลวง  ต่อการจัดการศึกษาแผนใหม่ในระบบโรงเรียน  พระองค์สนับสนุนให้วัดและพระ
สนองพระราชประสงค์ ร.๕ ในการปฏิรูปการศึกษาต่อการพระศาสนาโดยตรง  โดยทรงจัด
การปกครองคณะสงฆ์  จัดการศึกษาพระสงฆ์  ทรงจัดตั้งมหากุฎราชวิทยาลัย เสด็จตรวจ
การคณะสงฆ์ในหัวเมือง ทรงมีพระมหาสมณวินิจฉัยในปัญหาต่างๆ ของคณะสงฆ์  ทรง
จัดทำตำรา แบบเรียนและวางระเบียบวิธีวัดผลการศึกษาของพระภิกษุสามเณรให้ทันสมัย  
ทรงตั้งโรงพิมพ์สำหรับพิมพ์หนังสือเผยแพร่พระศาสนา ทรงออกนิตยสารชื่อธรรมจักษุ  
ส่วนงานพระนิพนธ์อื่นๆ มีทั้งทรงค้นคว้าเรียบเรียงเป็นตำราแบบเรียน ที่ยังใช้ในวงการ
ศึกษาของพระภิกษุสามเณรและผู้สนใจศึกษาพระพุทธศาสนา ทั้งพระนิพนธ์แปลหรือทรง
ชำระรวมผลงานเป็นจำนวนมาก รวมทั้งหนังสือนวโกวาท  ซึ่งเป็นคู่มือผู้เข้ารับการอุปสมบท
มาถึงจนทุกวันนี้ ทรงรับพระราชทานสมณศักดิ์สูงสุดที่สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กระพระยา
วชิรญาณวโรรส  เมื่อวันที่ ๑๒ เมษายน  ๒๔๖๔ เบื้องปลายพระชนมชีพทรงพระประชวร
ด้วย โรควัณโรคเรื้อรัง สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ ๒ สิงหาคม ๒๔๖๔


กลับไปผู้แต่งประเภทศาสนา ,ปรัชญา