ท่านพุทธทาสภิกขุ
พุทธทาส เป็นฉายานามที่ท่านตั้งขึ้นด้วยปณิธานแน่วแน่ เพื่ออุทิศตนเป็นทาส
พระพุทธศาสนา เดิมชือ เงื่อม พานิช บุตรนายเซี้ยงและนางเคลื่อน พานิชเกิดเมื่อวันที่
๒๗ พฤษภาคม ๒๔๔๙ ที่บ้านกลาง ต.พุมเรียง จ.ไชยา (ปัจจุบันเป็น อ.ไชยา จ.สุราษฎร์
ธานี)
นายเงื่อมบวชเป็นพระภิกษุ ฉายา อินทฺปัญโญ จำพรรษาที่วัดพุมเรียง ปี
๒๔๗๓ จากนั้นก็เข้ากรุงเทพฯ อยู่วัดปทุมคงคาเพื่อศึกษาบาลี เขียนบทความชิ้นแรก
เรื่อง "ประโยชน์แห่งทาน" พิมพ์ในงานพระราชทานเพลิงศพอุปัชฌาย์ พระครูโสภณ
เจตสิการาม (คง วิมโล) ปลายปีนั้นสอบได้เปรียญธรรม ๓ ประโยค เป็นมหาเงื่อม
อินทฺปัญโญ
ปี พ.ศ.๒๔๗๕ เดินทางกลับพุงเรียง เข้าอยู่วัดร้างตระพังจิก ซึ่งเป็นจุด
เริ่มต้นของสวนโมกขพลาราม ท่านเริ่มเขียน "ตามรอยพระอรหันต์" ในเดือนสิงหาคม
ปี พ.ศ.๒๔๗๖ ออกหนังสือพุทธศาสนา ราย ๓ เดือน เริ่มเขียนบทความ
วิพากษ์วิจารณ์สภาพพระสงฆ์และพระพุทธศาสนา ใช้นามปากว่า "ธรรมโยธ" "ชินวาทก์"
ฯลฯ
เมื่อคณะธรรมทานซื้อแท่นพิมพ์มาพิมพ์หนังสือเอง งานเขียนงานแปลด้าน
พระพุทธศาสนาก็เริ่มเผยแพร่สู่สาธารณะนับตั้งแต่บัดนั้น ต่อมาในปี ๒๔๗๙ คณะธรรม
ทานได้เปิดโรงเรียนพุทธนิคมขึ้น
ในปี ๒๔๘๐ หัวหน้ากองตำรามหามกุฎราชวิทยาลัย ประกาศใช้พุทธประวัติ
จากพระโอษฐ์ เป็นหนังสือประกอบแบบเรียน
ผลงานเผยแพร่พระพุทธศาสนาได้ออกมามากมาย จนกระทั่งปี ๒๔๘๗ ได้
รับแต่งตั้งเป็นหัวหน้าฝ่ายองค์การเผยแผ่ ประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี ขณะเดียวกันก็
ย้ายมาจำพรรษาที่สวนโมกข์แห่งใหม่ บริเวณธารน้ำไหล เขาพุทธทอง (สวนโมกข์ปัจจุบัน)
ในปีต่อมาก็ได้รับแต่งตั้งเป็น พระครูอินทปัญญาจารย์ และเป็นหัวหน้าองค์การเผยแผ่
ประจำภาค ๕ (ภาคใต้) ปี ๒๔๙๒ ในปี ๒๕๐๑ ตั้งสำนักปฏิบัติธรรม "สวนอุศม" และ
อุศมมูลนิธิที่กรุงเทพฯ เป็นอีกองค์กรหนึ่งในเครือข่ายสวนโมกข์
ปี พ.ศ.๒๕๐๕ เริ่มสร้างโรงมหรสพทางวิญญาณ และเริ่มมีงานล้ออายุ เป็น
ครั้งแรกในปี ๒๕๐๙ ท่านเป็นประธานในการอบรมพระธรรมทูตรุ่นแรก เพื่อไปเผยแพร่
พุทธศาสนาในต่างประเทศปี ๒๕๑๐ กระทั่งได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระเทพ
วิสุทธิเมธี ในปี ๒๕๑๔
ภายหลังได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาพุทธศาสตร์ จากมหา
จุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เมื่อสวนโมกข์อายุครบ ๕๐ ปี ก็พิมพ์แถลงการณ์ ๕๐ ปี สวน
โมกข์ และพิมพ์กฎบัตรของพุทธบริษัท ในวันวิสาขบูชา (ปี ๒๕๒๕) ได้รับพระราชทาน
สมณศักดิ์เป็นพระธรรมโกศาจารย์ ท่านพุทธทาสภิกขุ มรณภาพเมื่อวันที่ ๘ กรกฎาคม
พ.ศ.๒๕๓๖