6 ส่วนท่านเมื่ออธิษฐานภาวนา จงเข้าไปในห้องส่วนตัว ปิดประตู อธิษฐานต่อพระบิดาของท่านผู้ทรงสถิตอยู่ทั่วทุกแห่ง แล้วพระบิดาของท่านผู้ทรงหยั่งรู้ทุกสิ่ง จะประทานบำเหน็จให้ท่าน
วิธีอธิษฐานภาวนา บทภาวนาของพระเยซูเจ้า
7 "เมื่อท่านอธิษฐานภาวนา อย่าพูดซ้ำเหมือนคนต่างศาสนา เขาคิดว่าพระเจ้าจะทรงสดับฟังเพราะเขาพูดมาก
8 อย่าทำเหมือนเขาเลย เพราะพระบิดาของท่านทรงทราบแล้วว่าท่านต้องการอะไร ก่อนที่ท่านจะขอเสียอีก
9 เพราะฉะนั้น ท่านทั้งหลายจงอธิษฐานภาวนาดังนี้ ข้าแต่พระบิดาของข้าพเจ้าทั้งหลาย พระองค์สถิตในสวรรค์ พระนามของพระองค์จงเป็นที่สักการะ
10 พระอาณาจักรจงมาถึง พระประสงค์จงสำเร็จในแผ่นดิน เหมือนในสวรรค์
11 โปรดประทานอาหารประจำวันแก่ข้าพเจ้าทั้งหลายในวันนี้
12 โปรดให้อภัยความผิดของข้าพเจ้าทั้งหลาย เหมือนที่ข้าพเจ้าทั้งหลายให้อภัยแก่ผู้ทำผิดต่อข้าพเจ้าทั้งหลาย
13 อย่านำข้าพเจ้าทั้งหลายเข้าไปในการถูกผจญ แต่โปรดช่วยให้พ้นจากความชั่วเทอญ
14 "เพราะว่า ถ้าท่านให้อภัยความผิดแก่ผู้อื่น พระบิดาของท่านผู้สถิตในสวรรค์ ก็จะทรงให้อภัยความผิดของท่านด้วย
15 แต่ถ้าท่านไม่ให้อภัยความผิดแก่ผู้อื่น พระบิดาของท่านก็จะไม่ทรงให้อภัยความผิดของท่านเช่นกัน
การจำศีลอดอาหาร
16 "เมื่อท่านทั้งหลายจำศีลอดอาหาร อย่าทำหน้าเศร้าหมองเหมือนบรรดาคนหน้าซื่อใจคด เขาทำหน้าหมองคล้ำ เพื่อแสดงให้ผู้คนรู้ว่าเขากำลังจำศีลอดอาหาร เราบอกความจริงแก่ท่านว่า เขาได้รับบำเหน็จของเขาแล้ว
17 ส่วนท่านเมื่อจำศีลอดอาหาร จงล้างหน้า เอาน้ำมันหอมเจิมศีรษะ
18 เพื่อไม่แสดงให้ผู้คนรู้ว่าท่านกำลังจำศีลอดอาหาร แต่ให้พระบิดาของท่าน ผู้สถิตอยู่ทั่วทุกแห่งทรงทราบ และพระบิดาของท่านผู้ทรงหยั่งรู้ทุกสิ่ง ก็จะประทานบำเหน็จให้ท่าน
สมบัติแท้
19 "ท่านทั้งหลายอย่าสะสมทรัพย์สมบัติบนแผ่นดินนี้เลย ที่นี่ทรัพย์สมบัติทั้งหลายถูกสนิมและขมวนกัดกิน และขโมยเจาะช่องลงมาล้วงลักเอาไปได้
20 แต่จงสะสมทรัพย์สมบัติในสวรรค์เถิด ที่นั่น ไม่มีสนิมหรือขมวนกัดกิน และขโมยก็ไม่เจาะช่องมาล้วงลักเอาไปได้
21 เพราะว่าทรัพย์สมบัติของท่านอยู่ที่ใด ใจของท่านก็จะอยู่ที่นั่นด้วย
ประทีปของร่างกาย
22 "ประทีปของร่างกายคือดวงตา ดังนั้น ถ้าดวงตาของท่านเป็นปกติดี สรรพางค์กายของท่านก็จะสว่างไปด้วย
23 แต่ถ้าดวงตาของท่านไม่ดี สรรพางค์กายของท่านก็จะมืดไปด้วย ฉะนั้น ถ้าความสว่างในท่านมืดไปแล้ว ความมืดจะยิ่งมืดมิดสักเพียงใด!
พระเจ้าและเงินทอง
24 "ไม่มีใครเป็นข้าสองเจ้าบ่าวสองนายได้ เขาจะชังนายหนึ่งและจะรักอีกนายหนึ่ง เขาจะจงรักภักดีต่อนายหนึ่งและจะดูหมิ่นอีกนายหนึ่ง ท่านทั้งหลายจะปรนนิบัติรับใช้พระเจ้าและเงินทองพร้อมกันไม่ได้
ความวางใจในพระเจ้า
25 "ฉะนั้น เราบอกท่านทั้งหลายว่า อย่ากังวลถึงชีวิตของท่านว่าจะกินอะไร อย่ากังวลถึงร่างกายของท่านว่าจะนุ่งห่มอะไร ชีวิตย่อมสำคัญกว่าอาหาร และร่างกายสำคัญกว่าเครื่องนุ่งห่มมิใช่หรือ!
26 จงดูนกในอากาศเถิด มันมิได้หว่าน มิได้เก็บเกี่ยว มิได้สะสมไว้ในยุ้งฉาง แต่พระบิดาของท่านผู้สถิตในสวรรค์ทรงเลี้ยงมัน ท่านทั้งหลายมิได้มีค่ามากกว่านกหรือ?
27 ท่านใดที่กังวลแล้วสามารถต่อชีวิตของตนให้ยาวออกไปอีกสักหนึ่งวันได้?
28 ท่านจะกังวลถึงเครื่องนุ่งห่มทำไม? จงพิจารณาดอกไม้ในทุ่งนาเถิด มันเจริญงอกงามขึ้นได้อย่างไร มันไม่ทำงาน มันไม่ปั่นด้าย
29 แต่เราบอกท่านทั้งหลายว่า กษัตริย์ซาโลมอนเมื่อทรงเครื่องอย่างหรูหรา ก็ยังไม่งดงามเท่าดอกไม้นี้ดอกหนึ่ง
30 ถ้าหญ้าในทุ่งนา ซึ่งมีชีวิตอยู่วันนี้ และรุ่งขึ้นจะถูกโยนทิ้งในเตาไฟ พระเจ้ายังทรงตกแต่งเช่นนี้แล้ว พระองค์จะไม่สนพระทัยท่านมากกว่านั้นหรือ? ท่านช่างมีความเชื่อน้อยจริง
31 ดังนั้น อย่ากังวลและกล่าวว่า "เราจะกินอะไร? หรือจะดื่มอะไร? หรือเราจะนุ่งห่มอะไร?"
32 เพราะสิ่งต่างๆเหล่านี้คนต่างศาสนาแสวงหา พระบิดาของท่านผู้สถิตในสวรรค์ทรงทราบแล้วว่าท่านต้องการทุกสิ่งเหล่านี้
33 จงแสวงหาพระอาณาจักรของพระเจ้าและความชอบธรรมของพระองค์ก่อน แล้วพระองค์จะทรงเพิ่มทุกสิ่งเหล่านี้ให้
34 เพราะฉะนั้น ท่านทั้งหลายอย่ากังวลถึงวันพรุ่งนี้ เพราะวันพรุ่งนี้จะกังวลสำหรับตนเอง แต่ละวันมีทุกข์พออยู่แล้ว"