19 ประชาชนทุกคนพยายามสัมผัสพระองค์ เพราะมีพระอานุภาพออกมาจากพระองค์ รักษาทุกคนให้หาย
ธรรมเทศนาบทแรก ความสุขแท้จริง และคำสาปแช่ง
20 แล้วพระองค์ทอดพระเนตรบรรดาศิษย์ ตรัสว่า ท่านทั้งหลายที่ยากจนย่อมเป็นสุข เพราะพระอาณาจักรของพระเจ้าเป็นของท่าน
21 ท่านที่หิวในเวลานี้ย่อมเป็นสุข เพราะท่านจะอิ่ม ท่านที่ร้องไห้ในเวลานี้ย่อมเป็นสุข เพราะท่านจะหัวเราะ
22 ท่านทั้งหลายเป็นสุข เมื่อคนทั้งหลายเกลียดชังท่าน ผลักไสท่าน ดูหมิ่นท่าน รังเกียจนามของท่านประหนึ่งนามชั่วร้ายเพราะท่านเป็นศิษย์ของบุตรแห่งมนุษย์
23 จงชื่นชมในวันนั้นเถิด จงโลดเต้นยินดีเถิด! -เพราะบำเหน็จรางวัลของท่านนั้นยิ่งใหญ่นักในสวรรค์ บรรดาบรรพบุรุษของเขาเหล่านั้นเคยกระทำเช่นนี้กับบรรดาประกาศกมาแล้ว
24 วิบัติจงเกิดแก่ท่านที่ร่ำรวย เพราะท่านได้รับความเบิกบานใจแล้ว
25 วิบัติจงเกิดแก่ท่านที่อิ่มเวลานี้ เพราะจะเป็นทุกข์และร้องไห้
26 วิบัติจงเกิดแก่ท่านเมื่อทุกคนกล่าวยกย่องท่าน! เพราะบรรดาบรรพบุรุษของเขาเหล่านั้นเคยกระทำเช่นนี้กับบรรดาประกาศกเทียมมาแล้ว
ความรักศัตรู
27 "แต่เรากล่าวแก่ท่านทั้งหลายที่กำลังฟังอยู่ว่า จงรักศัตรู จงทำดีต่อผู้ที่เกลียดชังท่าน
28 จงอวยพรผู้ที่สาปแช่งท่าน จงอธิษฐานภาวนาให้ผู้ที่ทำร้ายท่าน
29 ผู้ใดตบแก้มท่านข้างหนึ่ง จงหันแก้มอีกข้างหนึ่งให้เขาตบด้วย ผู้ใดเอาเสื้อคลุมของท่านไป จงปล่อยให้เขาเอาเสื้อยาวไปด้วย
30 จงให้แก่ทุกคนที่ขอท่าน และอย่าทวงของของท่านคืนจากผู้ที่ได้แย่งไป
31 ท่านอยากให้เขาทำต่อท่านอย่างไร ก็จงทำต่อเขาอย่างนั้นเถิด
32 ถ้าท่านรักเฉพาะผู้ที่รักท่าน ท่านจะเป็นที่พอพระทัยพระเจ้าได้อย่างไร? คนบาปก็ยังรักผู้ที่รักเขาด้วย
33 ถ้าท่านทำดีเฉพาะผู้ที่ทำดีต่อท่าน ท่านจะเป็นที่พอพระทัยพระเจ้าได้อย่างไร?
34 คนบาปยังให้คนบาปด้วยกันยืมโดยหวังจะได้คืนจำนวนเท่ากัน
35 แต่ท่านจงรักศัตรู จงทำดีต่อเขา จงให้ยืมโดยไม่หวังอะไรกลับคืน แล้วบำเหน็จรางวัลของท่านจะใหญ่ยิ่ง ท่านจะเป็นบุตรของพระผู้สูงสุด เพราะพระองค์ทรงพระกรุณาต่อคนอกตัญญูและต่อคนชั่วร้าย
ความเมตตากรุณาและความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่
36 จงเป็นผู้เมตตากรุณาดังที่พระบิดาของท่านทรงพระเมตตากรุณาเถิด
37 อย่าตัดสินเขาและพระเจ้าจะไม่ทรงตัดสินท่าน อย่ากล่าวโทษเขา และพระเจ้าจะไม่ทรงกล่าวโทษท่าน จงให้อภัยเขาและพระเจ้าจะทรงอภัยท่าน
38 จงให้ และพระเจ้าจะประทานแก่ท่าน ท่านจะได้รับเต็มสัดเต็มทะนานอัดแน่นและล้นเหลือ เพราะว่าท่านตวงให้เขาอย่างไร พระเจ้าก็จะทรงตวงตอบแทนให้ท่านอย่างนั้นด้วย"
ความดีบริบูรณ์
39 พระเยซูเจ้ายังตรัสอุปมาให้เขาเหล่านั้นฟังอีกว่า "คนตาบอดจะนำทางคนตาบอดได้หรือ? ทั้งคู่จะตกลงไปในคูมิใช่หรือ?
40 ศิษย์ย่อมไม่อยู่เหนืออาจารย์ แต่ทุกคนที่ได้รับการฝึกฝนอย่างดีแล้วก็จะเป็นเหมือนอาจารย์ของตน
41 ทำไมท่านจึงมองดูเศษฟางในดวงตาของพี่น้อง แต่ไม่สังเกตเห็นท่อนซุงในดวงตาของตนเลย?
42 ท่านจะกล่าวแก่พี่น้องได้อย่างไรว่า "พี่น้อง ปล่อยให้ฉันเขี่ยเศษฟางออกจากดวงตาของท่านเถิด" ขณะที่ท่านไม่เห็นท่อนซุงในดวงตาของตนเอง? ท่านคนหน้าซื่อใจคดเอ๋ย! จงเอาท่อนซุงออกจากดวงตาของท่านก่อนเถิด แล้วท่านจะเห็นได้ชัดจึงค่อยไปเขี่ยiเศษฟางออกจากดวงตาของพี่น้อง
43 ต้นไม้ที่เกิดผลเลวย่อมไม่ใช่ต้นไม้ที่ดี หรือต้นไม้เลวย่อมไม่ให้ผลดีเช่นกัน
44 เรารู้จักต้นไม้แต่ละต้นได้จากผลของต้นไม้นั้น เราย่อมไม่เก็บผลมะเดื่อเทศจากพงหนาม หรือเก็บผลองุ่นจากกอหนาม
45 คนดีย่อมนำเอาสิ่งที่ดีออกมาจากขุมทรัพย์ที่ดีในใจของตน ส่วนคนเลวย่อมเอาสิ่งที่เลวออกมาจากขุมทรัพย์ที่เลวของตน เพราะว่าปากย่อมกล่าวสิ่งที่อัดอั้นอยู่ในใจออกมา
ศิษย์ที่แท้จริง
46 ทำไมท่านจึงเรียกเราว่า "ข้าแต่พระเจ้า ข้าแต่พระเจ้า และไม่ปฏิบัติตามที่เรากล่าวเล่า?
47 ทุกคนที่มาหาเรา ย่อมฟังคำของเราและนำไปปฏิบัติ -เราจะชี้ให้ท่านทั้งหลายเห็นว่า เขาเปรียบเสมือนผู้ใด
48 เขาเปรียบเสมือนคนที่สร้างบ้าน เขาขุดหลุม ขุดลงไปลึก และวางรากฐานไว้บนหิน เมื่อเกิดน้ำท่วม น้ำในแม่น้ำไหลมาปะทะบ้านหลังนั้น แต่ไม่สามารถทำให้บ้านนั้นหวั่นไหว เพราะบ้านนั้นได้สร้างไว้อย่างดี
49 แต่ผู้ที่ฟังและไม่ปฏิบัติตาม ก็เปรียบเสมือนคนที่สร้างบ้านไว้บนพื้นดินโดยไม่มีรากฐาน เมื่อน้ำในแม่น้ำไหลมาปะทะ บ้านนั้นก็พังทลายลงทันที และความเสียหายของบ้านนั้นก็ใหญ่ยิ่ง!