พระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญลูกา
    ลูกา บทที่ 22   LUKE Chapter 22

    6. พระทรมาน

      การวางแผนกำจัดพระเยซูเจ้า ยูดาสทรยศต่อพระองค์

      1 เทศกาลกินขนมปังไร้เชื้อที่เรียกว่าปัสกากำลังจะมาถึง
      2 บรรดาสมณะและธรรมาจารย์คิดหาหนทางเพื่อกำจัดพระองค์ แต่ยังเกรงกลัวประชาชนอยู่
      3 เวลานั้นซาตานได้เข้าสิงยูดาสที่เรียกกันว่าอิสคาริโอท และเป็นคนหนึ่งในบรรดาอัครสาวกทั้งสิบสองคน
      4 ยูดาสได้เข้าไปเจรจากับบรรดามหาสมณะและนายทหารรักษาพระวิหารว่าจะมอบพระองค์ได้อย่างไร
      5 คนเหล่านั้นมีความยินดีและตกลงจ่ายเงินให้
      6 ยูดาสยอมรับและพยายามหาโอกาสเหมาะเพื่อมอบพระองค์ให้แก่พวกเขาโดยที่ประชาชนไม่ทราบเรื่องนี้

      การเตรียมงานเลี้ยงปัสกา

      7 ก่อนจะถึงเทศกาลกินขนมปังไร้เชื้อที่ต้องฆ่าลูกแกะปัสกา
      8 พระเยซูเจ้าตรัสใช้เปโตรและยอห์นว่า "จงไปจัดเตรียมการเลี้ยงปัสกาให้เราเถิด"
      9 เขาทูลพระองค์ว่า "พระองค์ทรงพระประสงค์ให้เราจัดเตรียมที่ไหน?"
      10 พระองค์ตรัสตอบว่า "เมื่อท่านเข้าไปในกรุง ชายคนหนึ่งกำลังเดินแบกหม้อน้ำอยู่จะมาพบท่าน จงตามเขาไปในบ้านที่เขาจะเข้าไป
      11 และจงถามเจ้าของบ้านว่า "พระอาจารย์ถามว่าห้องที่เราจะกินปัสกากับบรรดาศิษย์นั้นอยู่ที่ไหน?"
      12 เขาจะชี้ให้ท่านเห็นห้องใหญ่ชั้นบน มีพรมปูไว้ จงจัดเตรียมปัสกาที่นั่น"
      13 ศิษย์ทั้งสองคนได้ออกไปและพบทุกสิ่งดังที่พระองค์ทรงบอกไว้ จึงได้เตรียมปัสกา

      อาหารค่ำมื้อสุดท้าย

      14 เมื่อถึงเวลา พระเยซูเจ้าทรงเข้านั่งโต๊ะพร้อมกับบรรดาอัครสาวก
      15 พระองค์ตรัสกับเขาว่า "เราปรารถนาอย่างยิ่งที่จะกินปัสกาครั้งนี้ร่วมกับท่านก่อนจะรับทรมาน
      16 เราบอกท่านทั้งหลายว่าเราจะไม่กินปัสกาอีกจนกว่าปัสกานี้จะเป็นความจริงในพระอาณาจักรของพระเจ้า"
      17 พระองค์ทรงหยิบถ้วยขึ้น ทรงขอบพระคุณตรัสว่า "จงรับถ้วยนี้ไปแบ่งกันดื่มเถิด
      18 เราบอกท่านทั้งหลายว่าตั้งแต่นี้ไปเราจะไม่ดื่มเหล้าจากผลองุ่นอีกจนกว่าพระอาณาจักรของพระเจ้าจะมาถึง"

      การตั้งศีลมหาสนิท

      19 พระองค์ทรงหยิบขนมปัง ทรงขอบพระคุณ ทรงบิขนมปังประทานให้บรรดาศิษย์ตรัสว่า "นี่เป็นกายของเราที่ถูกมอบเพื่อท่านทั้งหลาย จงทำดังนี้เพื่อระลึกถึงเราเถิด"
      20 ในทำนองเดียวกัน เมื่อรับประทานอาหารเสร็จแล้ว พระองค์ทรงหยิบถ้วยตรัสว่า "ถ้วยนี้เป็นพันธสัญญาใหม่ในโลหิตของเราซึ่งถูกหลั่งเพื่อท่านทั้งหลาย"

      พระเยซูเจ้าตรัสถึงการทรยศของยูดาส

      21 "แต่ผู้ทรยศต่อเราอยู่ที่นี่ ร่วมโต๊ะกับเราด้วย
      22 บุตรแห่งมนุษย์กำลังจะจากไปตามที่มีกำหนดไว้ วิบัติจงเกิดแก่ผู้ที่ทรยศต่อบุตรแห่งมนุษย์!
      23 บรรดาศิษย์จึงถามกันว่าผู้ใดหรือจะทำการนี้

      ผู้ใดยิ่งใหญ่ที่สุด?

      24 บรรดาศิษย์โต้เถียงกันว่า ในกลุ่มของตนผู้ใดควรได้รับการยกย่องว่ายิ่งใหญ่ที่สุด
      25 พระเยซูเจ้าจึงตรัสกับเขาว่า "กษัตริย์ของคนต่างชาติย่อมเป็นเจ้านายเหนือผู้อื่น และผู้ที่มีอำนาจย่อมได้รับนามว่าผู้มีบุญคุณ
      26 แต่ท่านทั้งหลายจงอย่าเป็นเช่นนั้น ท่านที่เป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดจงทำตนเป็นผู้น้อยที่สุด ผู้ที่เป็นผู้นำจงเป็นผู้รับใช้
      27 ใครเล่ายิ่งใหญ่กว่ากัน ผู้ที่นั่งโต๊ะหรือผู้รับใช้? มิใช่ผู้ที่นั่งโต๊ะดอกหรือ? แต่เราอยู่ท่ามกลางท่านเหมือนกับผู้รับใช้จริงๆ!"

      พระเยซูเจ้าทรงสัญญาจะประทานรางวัลแก่บรรดาอัครสาวก

      28" ท่านทั้งหลายเป็นผู้ที่ได้ยืนหยัดอยู่กับเราในการทดลองที่เราได้รับ
      29 เราจัดพระอาณาจักรให้ท่านทั้งหลายดังที่พระบิดาทรงจัดไว้ให้เรา
      30 ท่านจะได้กินและดื่มร่วมโต๊ะกับเราในพระอาณาจักรและจะนั่งบนบัลลังก์พิพากษาอิสราเอลทั้งสิบสองตระกูล

      พระเยซูเจ้าทรงทำนายว่าเปโตรจะปฏิเสธพระองค์

      31 "ซีโมน ซีโมน! จงฟังเถิด ซาตานได้ขอและพระเจ้าทรงอนุญาตให้ซาตานทดสอบท่านทั้งหลายเหมือนฝัดข้าวสาลี
      32 แต่เราได้อธิษฐานอ้อนวอนเพื่อท่านให้ความเชื่อของท่านมั่นคงตลอดไป และเมื่อท่านกลับใจแล้ว จงช่วยค้ำจุนพี่น้องของท่านเถิด"
      33 เปโตรทูลตอบว่า "พระเจ้าข้า ข้าพเจ้าพร้อมแล้วที่จะอยู่กับพระองค์แม้จะต้องเข้าคุกหรือจะต้องไปตายพร้อมกับพระองค์"
      34 พระองค์ตรัสว่า "เปโตรเอ๋ย เราบอกท่านว่า วันนี้ไก่ยังไม่ทันขัน ท่านจะปฏิเสธว่าไม่รู้จักเราถึงสามครั้ง"

      วิกฤตการณ์ที่จะมาถึง

      35 พระเยซูเจ้าตรัสกับบรรดาศิษย์อีกว่า "เมื่อเราได้ส่งท่านทั้งหลายไปโดยไม่มีถุงเงิน ไม่มีย่าม ไม่มีรองเท้า ท่านขาดสิ่งใดบ้าง?"
      36 เขาเหล่านั้นตอบว่า "ไม่ขาดสิ่งใดเลย" พระองค์จึงตรัสกับเขาว่า "แต่บัดนี้ ผู้ใดมีถุงเงิน จงนำไปด้วย ผู้ใดมีย่ามก็จงนำไปเช่นเดียวกัน ผู้ใดไม่มีดาบ ก็จงขายเสื้อคลุมเพื่อซื้อดาบเถิด
      37 เพราะเราบอกท่านทั้งหลายว่า ถ้อยคำที่พระคัมภีร์กล่าวถึงเราว่า "เขาจะถูกนับอยู่ในหมู่คนอธรรม" จะต้องเป็นความจริง"
      38 บรรดาศิษย์ทูลว่า "พระเจ้าข้า ที่นี่มีดาบสองเล่ม" พระองค์ตรัสว่า "พอแล้ว!"

      ภูเขามะกอกเทศ

      39 พระเยซูเจ้าเสด็จจากที่นั่นไปยังภูเขามะกอกเทศเช่นเคย บรรดาศิษย์ตามเสด็จไปด้วย
      40 เมื่อเสด็จถึงที่นั่นแล้ว พระองค์ตรัสกับเขาเหล่านั้นว่า "จงอธิษฐานภาวนาเถิด เพื่อจะไม่ถูกทดลอง"
      41 แล้วพระองค์เสด็จห่างออกไปจากบรรดาศิษย์ประมาณระยะปาก้อนหิน ทรงคุกเข่าลงอธิษฐานภาวนาว่า
      42 "พระบิดาเจ้าข้า ถ้าพระองค์ทรงประสงค์ โปรดทรงนำถ้วยนี้ไปจากข้าพเจ้าเถิด กระนั้นก็ดี อย่าให้เป็นไปตามใจข้าพเจ้า แต่ให้เป็นไปตามพระประสงค์เถิด"
      43 ทูตสวรรค์องค์หนึ่งปรากฏมาถวายพละกำลังแด่พระองค์
      44 พระองค์ทรงอยู่ในความทุกข์กังวลอย่างสาหัส จึงทรงอธิษฐานอย่างมุ่งมั่นยิ่งขึ้น พระเสโทตกลงบนพื้นดินประดุจหยดโลหิต
      45 พระองค์ทรงลุกขึ้นจากการอธิษฐานภาวนา เสด็จไปพบบรรดาศิษย์ซึ่งหลับอยู่ด้วยความโศกเศร้า
      46 พระองค์จึงตรัสกับเขาว่า "นอนหลับทำไม? จงลุกขึ้นอธิษฐานภาวนาเถิดเพื่อจะไม่ถูกทดลอง"

      พระเยซูเจ้าทรงถูกจับกุม

      47 ขณะที่พระเยซูเจ้ากำลังตรัสอยู่นั้น คนหมู่หนึ่งก็มาถึง ยูดาสหนึ่งในบรรดาอัครสาวกทั้งสิบสองคนเป็นผู้นำ ยูดาสเข้ามาใกล้พระเยซูเจ้าเพื่อจุมพิตพระองค์
      48 พระเยซูเจ้าตรัสกับเขาว่า "ยูดาส ท่านใช้การจุมพิตเพื่อทรยศบุตรแห่งมนุษย์หรือ?"
      49 เมื่อบรรดาศิษย์ที่อยู่กับพระองค์เห็นว่าเกิดอะไรขึ้นก็ทูลว่า "พระเจ้าข้า พวกเราใช้ดาบฟันได้ไหม?"
      50 แล้วศิษย์คนหนึ่งได้ฟันผู้รับใช้ของมหาสมณะ ตัดใบหูข้างขวาของเขา
      51 แต่พระเยซูเจ้าตรัสว่า "หยุดเถิด พอแล้ว" ทรงสัมผัสหูและทรงรักษาเขา
      52 พระเยซูเจ้าตรัสกับบรรดามหาสมณะ นายทหารผู้รักษาพระวิหารและบรรดาผู้อาวุโสซึ่งมาจับกุมพระองค์ว่า "เราเป็นโจรหรือ ท่านทั้งหลายจึงถือดาบ ถือไม้ตะบองมาจับเรา"
      53 เราอยู่กับท่านทุกวันในพระวิหาร ท่านก็ไม่จับกุมเราเลย แต่นี่เป็นเวลาของท่าน เป็นอำนาจของความมืด"

      เปโตรปฏิเสธพระเยซูเจ้า

      54 เขาทั้งหลายได้จับกุมพระเยซูเจ้า และนำพระองค์เข้าไปในบ้านของมหาสมณะ เปโตรติดตามไปห่างๆ
      55 คนในบ้านมหาสมณะจุดไฟขึ้นที่กลางลานบ้าน เปโตรจึงเข้าไปนั่งรวมอยู่กับคนเหล่านั้นด้วย
      56 หญิงรับใช้คนหนึ่งเห็นเปโตรนั่งข้างกองไฟ จึงจ้องหน้า พูดว่า "คนนี้อยู่กับเขาด้วย"
      57 แต่เปโตรปฏิเสธว่า "นางเอ๋ย ข้าพเจ้าไม่รู้จักเขา"
      58 ต่อมาไม่นาน อีกคนหนึ่งเห็นเปโตร จึงพูดว่า "ท่านเป็นคนหนึ่งในพวกเขาด้วย" แต่เปโตรตอบว่า "ไม่ใช่ดอก เพื่อนเอ๋ย"
      59 หนึ่งชั่วโมงต่อมา อีกคนหนึ่งกล่าวย้ำว่า "แน่ทีเดียว คนคนนี้อยู่กับเขาด้วย เพราะเป็นชาวกาลิลี"
      60 แต่เปโตรตอบว่า "เพื่อนเอ๋ย ข้าพเจ้าไม่ทราบว่าท่านกำลังพูดอะไร" เปโตรพูดยังไม่ทันขาดคำ ไก่ก็ขัน
      61 องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเหลียวมามองเปโตร เปโตรจึงระลึกถึงพระวาจาขององค์พระผู้เป็นเจ้าที่ตรัสกับเขาว่า "วันนี้ ก่อนไก่ขัน ท่านจะปฏิเสธเราสามครั้ง"
      62 เปโตรจึงออกไปข้างนอก และร้องไห้อย่างขมขื่น

      บรรดาทหารเยาะเย้ยพระเยซูเจ้า

      63 ผู้ที่ควบคุมพระเยซูเจ้าสบประมาทเยาะเย้ยและทุบตีพระองค์
      64 เอาผ้าปิดพระเนตรและถามพระองค์ว่า "ทายซิว่า! ใครตีเจ้า?"
      65 เขายังได้พูดกล่าวร้ายพระองค์อีกมากมาย

      พระเยซูเจ้าทรงถูกพิพากษาคดีในสภาสูงของชาวยิว

      66 ครั้นรุ่งเช้า บรรดาผู้อาวุโส มหาสมณะและธรรมาจารย์ร่วมประชุมกัน สั่งให้นำพระองค์มาอยู่ต่อหน้าสภาสูง
      67 และกล่าวว่า "ถ้าท่านเป็นพระคริสต์ จงบอกเราเถิด" พระองค์ตรัสตอบว่า "ถ้าเราบอกท่าน ท่านก็ไม่เชื่อ
      68 ถ้าเราถามท่าน ท่านก็ไม่ตอบ
      69 ตั้งแต่บัดนี้ บุตรแห่งมนุษย์จะประทับ ณ เบื้องขวาพระอานุภาพของพระเจ้า
      70 ทุกคนจึงกล่าวว่า "ดังนั้น ท่านเป็นบุตรของพระเจ้าใช่ไหม?"v พระองค์ตรัสตอบว่า "ท่านพูดเองนะว่าเราเป็น"
      71 คนเหล่านั้นจึงกล่าวว่า "เราจะต้องการพยานอะไรอีก? เราได้ยินจากปากของเขาแล้ว"


           
    [01] [02] [03] [04] [05] [06] [07] [08] [09] [10] [11]
    [12] [13] [14][15] [16] [17] [18] [19][20] [21] [22] [23] [24] [HOME]