พระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญลูกา
    ลูกา บทที่ 24   LUKE Chapter 24

    7. หลังการกลับคืนพระชนมชีพ

      พระคูหาว่างเปล่า ข่าวดีจากทูตสวรรค์

      1 ตั้งแต่เช้าตรู่ วันอาทิตย์บรรดาสตรีได้นำเครื่องหอมที่เตรียมไว้มาที่พระคูหา
      2 เขาพบว่าก้อนหินได้ถูกกลิ้งออกไปจากพระคูหาแล้ว
      3 เมื่อเข้าไปในพระคูหาก็ไม่พบพระศพของพระเยซู องค์พระผู้เป็นเจ้า
      4 ขณะที่บรรดาสตรีกำลังประหลาดใจกับเหตุการณ์นี้ ก็มีบุรุษสองคนสวมเสื้อที่เป็นประกายรุ่งโรจน์มายืนอยู่ใกล้ๆ
      5 สตรีเหล่านั้นตกใจกลัวและก้มหน้าลงมองพื้นดิน แต่บุรุษทั้งสองคนกล่าวว่า "ทำไมท่านทั้งหลายแสวงหาผู้เป็นท่ามกลางผู้ตายเล่า?
      6 พระองค์มิได้ประทับอยู่ที่นี่ พระองค์ได้ทรงกลับคืนพระชนมชีพแล้ว จงระลึกถึงพระวาจาที่พระองค์ตรัสกับท่านขณะที่ยังประทับอยู่ในแคว้นกาลิลี
      7 ว่า บุตรแห่งมนุษย์จำต้องถูกมอบในเงื้อมมือของคนบาป จะต้องถูกตรึงกางเขนและจะกลับคืนพระชนมชีพในวันที่สาม"
      8 บรรดาสตรีจึงระลึกถึงพระวาจาของพระองค์ได้

      อัครสาวกไม่ยอมเชื่อสตรี

      9 เมื่อบรรดาสตรีกลับจากพระคูหาแล้ว ได้เล่าเรื่องทั้งหมดนี้แก่อัครสาวกทั้งสิบเอ็ดคนและแก่ศิษย์ทุกคน
      10 สตรีเหล่านี้คือมารีย์ชาวมักดาลา โยอันนา และมารีย์มารดาของยากอบ สตรีอื่นๆที่ไปพร้อมกันก็ได้เล่าเรื่องนี้ให้อัครสาวกฟังด้วย
      11 แต่เขาคิดว่าถ้อยคำเหล่านี้เป็นเรื่องเหลวไหลและไม่เชื่อ

      เปโตรไปที่พระคูหา

      12 เปโตรวิ่งไปที่พระคูหา ก้มลงไปดู และเห็นแต่ผ้าห่อพระศพเท่านั้น จึงกลับมาบ้านด้วยความประหลาดใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

      การเดินทางไปหมู่บ้านเอมมาอูส

      13 ในวันนั้นเอง ศิษย์สองคนกำลังเดินทางไปยังหมู่บ้านเอมมาอูส ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงเยรูซาเล็มประมาณ 11 กิโลเมตร
      14 ทั้งสองคนสนทนากันถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด
      15 ขณะที่เขากำลังสนทนาและถกเถียงกันอยู่นั้น พระเยซูเจ้าเสด็จเข้ามาร่วมเดินทางไปกับเขา
      16 แต่เขาจำพระองค์ไม่ได้ เหมือนดวงตาถูกปิดบัง
      17 พระองค์ตรัสถามว่า "ท่านสนทนาเรื่องอะไรกันมาตามทาง? ทั้งสองคนก็หยุดเดิน ใบหน้าเศร้าหมอง
      18 ศิษย์ที่ชื่อเคลโอปัสถามว่า "ท่านเป็นเพียงคนเดียวในกรุงเยรูซาเล็มหรือที่ไม่รู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นที่นั่นเมื่อสองสามวันมานี้"
      19 พระองค์ตรัสถามว่า "เรื่องอะไรกัน?" เขาตอบว่า "ก็เรื่องพระเยซู ชาวนาซาเร็ธ ประกาศกทรงอำนาจในกิจการและคำพูดเฉพาะพระพักตร์ของพระเจ้าและต่อหน้าประชาชนทั้งปวง
      20 บรรดามหาสมณะและผู้นำของเราได้มอบพระองค์ให้ต้องโทษประหารชีวิต และได้ตรึงพระองค์บนไม้กางเขน
      21 เราเคยหวังไว้ว่าพระองค์จะทรงปลดปล่อยอิสราเอลให้เป็นอิสระ แต่นี่เป็นวันที่สามแล้วตั้งแต่เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น
      22 สตรีบางคนในกลุ่มของเราทำให้เราประหลาดใจ เขาได้ไปที่พระคูหาตั้งแต่เช้าตรู่
      23 เมื่อไม่พบพระศพ เขาได้กลับมาเล่าว่าได้เห็นนิมิตของทูตสวรรค์ซึ่งกล่าวว่า พระองค์ยังทรงพระชนม์อยู่
      24 บางคนในกลุ่มของเราได้ไปที่พระคูหา และได้พบเหมือนกับที่บรรดาสตรีได้เล่าให้ฟัง แต่ไม่เห็นพระองค์"
      25 พระองค์จึงตรัสกับเขาว่า "เจ้าคนเขลาเอ๋ย! ใจของเจ้าช่างเชื่องช้าที่จะเชื่อข้อความที่บรรดาประกาศกได้กล่าวไว้!
      26 พระคริสตเจ้าจำเป็นต้องทนทรมานเช่นนี้เพื่อจะเข้าไปรับพระสิริรุ่งโรจน์ของพระองค์มิใช่หรือ?"
      27 แล้วพระองค์ทรงอธิบายพระคัมภีร์ทุกข้อที่กล่าวถึงพระองค์ให้เขาฟังโดยเริ่มตั้งแต่โมเสสจนถึงบรรดาประกาศกทั้งมวล
      28 เมื่อพระองค์ทรงพระดำเนินพร้อมกับศิษย์ทั้งสองคนใกล้จะถึงหมู่บ้านที่เขาตั้งใจจะไป พระองค์ทรงทำท่าว่าจะทรงพระดำเนินเลยไป
      29 แต่เขาทั้งสองได้รบเร้าพระองค์ว่า "จงพักอยู่กับพวกเราเถิด เพราะใกล้ค่ำและวันก็ล่วงไปมากแล้ว" พระองค์จึงเสด็จเข้าไปพักกับเขา
      30 ขณะประทับที่โต๊ะกับเขา พระองค์ทรงหยิบขนมปัง ทรงถวายพระพร ทรงบิขนมปังและยื่นให้เขา
      31 เขาก็ตาสว่างและจำพระองค์ได้ แต่พระองค์ได้อันตรธานไปจากสายตาของเขา
      32 ศิษย์ทั้งสองจึงพูดกันว่า "ใจของเราไม่ได้เร่าร้อนเป็นไฟอยู่ภายในหรือเมื่อพระองค์ตรัสกับเราตามทาง และอธิบายพระคัมภีร์ให้เราฟัง?"
      33 เขาทั้งสองคนจึงรีบออกเดินทางกลับไปกรุงเยรูซาเล็มในเวลานั้น ได้พบบรรดาอัครสาวกทั้งสิบเอ็ดคนกำลังชุมนุมกันอยู่กับศิษย์อื่นๆ
      34 เขาเหล่านี้ได้บอกว่า "องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงกลับคืนพระชนมชีพแล้วจริงๆ และได้ทรงสำแดงพระองค์แก่ซีโมน"
      35 ศิษย์ทั้งสองคนจึงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นตามทางและเล่าว่าตนจำพระองค์ได้เมื่อทรงบิขนมปัง

      พระเยซูเจ้าทรงสำแดงพระองค์แก่บรรดาอัครสาวก

      36 ขณะที่บรรดาศิษย์กำลังสนทนากันอยู่นั้น พระเยซูเจ้าทรงยืนอยู่ท่ามกลางพวกเขา ตรัสว่า "สันติสุขจงดำรงอยู่กับท่านทั้งหลายเถิด!"
      37 เขาต่างตกใจกลัว คิดว่าได้เห็นผี
      38 แต่พระองค์ตรัสว่า "ท่านวุ่นวายใจทำไม? เพราะอะไรท่านจึงมีความสงสัยขึ้นในใจ?
      39 จงดูมือและเท้าของเราซิ เป็นเราเองจริงๆ จงคลำตัวเราดูเถิด ผีไม่มีเนื้อ ไม่มีกระดูกอย่างที่ท่านเห็นว่าเรามี"
      40 ตรัสดังนี้แล้ว พระองค์ทรงแสดงพระหัตถ์และพระบาทให้เขาเห็น
      41 เขามีความยินดีและแปลกใจจนไม่อยากเชื่อ พระองค์จึงตรัสกับเขาว่า "ท่านมีอะไรกินบ้าง?"
      42 เขาได้ถวายปลาย่างชิ้นหนึ่งแด่พระองค์
      43 พระองค์ทรงรับมาเสวยต่อหน้าเขา

      คำแนะนำสุดท้ายแก่บรรดาอัครสาวก

      44 หลังจากนั้น พระองค์ตรัสกับเขาว่า "นี่คือความหมายของถ้อยคำที่เราได้กล่าวไว้ขณะที่ยังอยู่กับท่าน ทุกสิ่งที่มีเขียนไว้เกี่ยวกับเราในธรรมบัญญัติของโมเสส บรรดาประกาศกและเพลงสดุดีจะต้องเป็นความจริง"
      45 แล้วพระองค์ทรงเปิดดวงปัญญาของเขาให้เข้าใจพระคัมภีร์
      46 ตรัสว่า "มีเขียนไว้ดังนี้ว่า พระคริสตเจ้าจะต้องรับทนทรมานและจะกลับคืนพระชนมชีพจากบรรดาผู้ตายในวันที่สาม
      47 จะต้องประกาศในพระนามของพระองค์ให้นานาชาติได้กลับใจเพื่อรับอภัยบาปโดยเริ่มจากกรุงเยรูซาเล็ม
      48 ท่านทั้งหลายเป็นพยานถึงเรื่องทั้งหมดนี้
      49 "บัดนี้ เรากำลังจะส่งพระผู้ที่พระบิดาทรงสัญญาไว้มาเหนือท่านทั้งหลาย เพราะฉะนั้นท่านจงคอยอยู่ในกรุงจนกว่าท่านจะได้รับพระอานุภาพจากเบื้องบนมาปกคลุมไว้"

      การเสด็จสู่สวรรค์

      50 พระองค์ได้ทรงนำบรรดาศิษย์ออกไปใกล้หมู่บ้านเบธานี ทรงยกพระหัตถ์ขึ้นอวยพระพร
      51 และขณะที่ทรงอวยพระพรอยู่นั้น พระองค์ได้ทรงแยกไปจากเขา และทรงถูกนำขึ้นสู่สวรรค์
      52 บรรดาศิษย์ได้กราบนมัสการพระองค์ แล้วกลับไปกรุงเยรูซาเล็มด้วยความยินดียิ่ง
      53 เขาอยู่ในพระวิหารตลอดเวลา ถวายพระพรแด่พระเจ้า


           
    [01] [02] [03] [04] [05] [06] [07] [08] [09] [10] [11]
    [12] [13] [14][15] [16] [17] [18] [19][20] [21] [22] [23] [24]

    [ พระคัมภีร์ ] [ พระวรสารสหทรรศน์ ] [ รายนามพระคัมภีร์] [พระวรสารเปรียบเทียบ] [ ชีวประวัติพระเยซูเจ้า]
    [ฉบับ น.มัธทิว] [ฉบับ น.มาระโก] [ฉบับ น.ลูกา] [ฉบับ น.ยอห์น] [กิจการอัครสาวก] [Know John] [ กลับสู่เมนูหลัก ]