การสร้าง
เทคนิค
ไฟฟ้า
การบิน
กลเม็ด
ทดสอบ
ช่วยกันทำ

คำศัพท
ถามบ่อย

หน้าหลัก
 
 
 
 
 
ทดสอบ
โครงการ PATHFINDER
โครงการ PATHFINDER 2
ประวิช 20/10/44 | 15/12/44
 

NASA Pathfinder  

PATHFINDER

ราวๆ ปี 1997 - 98 ผมเห็นเครื่องบินลำหนึ่ง ไม่แน่ใจว่ารายการใน Discovery Channel หรือ CNN เป็นเครื่องบินที่ผมทึ่งมาก เครื่องบินลำนั้นคือ Pathfinder ของ NASA ซึ่งเป็นเครื่องบินที่บินด้วยพลังงานไฟฟ้าที่เปลี่ยนมาจากพลังงานแสงอาทิตย์ เครื่องบินลำนี้มีแผง soler cell ที่แปลงพลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานไฟฟ้าจากนั้นก็ใช้พลังงานไฟฟ้าไปขับมอเตอร์ที่เป็นต้นกำลังของเครื่องบิน เครื่องบินลำนี้ ทำสถิติความสูง สูงที่สุดที่เครื่องบินใบพัดทำได้คือ ประมาณ 100,000 ฟุต เหนือพื้นโลก
หลังจากเห็นเครื่องบินลำนี้ในใจคิดว่าจะต้องสร้างเครื่องบินลักษณะแบบนี้ให้ได้ ในเวลานั้นผมเองก็มีประสบการณ์ในการสร้างเครื่องบินประเภทปีกบินแล้ว แต่เป็นปีกหลู่(sweptback wing) ถึงพอเข้าใจแนวคิดของเครื่องบินดังกล่าวในที่สุดก็ตัดสินใจออกแบบและสร้างเครื่องบินลักษณะนี้และตั้งชื่อโครงการว่า Pathfinder เหมือน

โครงการ Pathfinder

Pathfinder Pathfinder ฉบับไทยๆ


ขั้นแรกก็เริ่มเก็บข้อมูล โดยเริ่มจากเว็บของ NASA ที่ dryden ที่นั้นมีรูปเครื่องบินที่ NASA ทำการวิจัยอยู่หลายลำรวมถึง Pathfinder นี้ด้วย นอกจากนี้ยังมีแหล่งข้อมูลที่ดีอีกแห่งคือ เว็บของ Dr. Martin Hepperle ให้ข้อมูลทางด้านอากาศพลศาสตร์ และแนวทางการออกแบบปีกบินประเภทปีกตรงหรือ Plank ที่ดีมาก ในที่สุดผมก็เลือกใช้ Airfoil ของ Dr. Martin คือ MH 49 จากนั้นผมก็ทำการออกแบบ โดยให้เครื่องบินมี Wing loading ใกล้เคียงกับ Pathfinder ของ NASA แนวคิดต่างๆ ก็ออกแบบให้คล้ายๆ กัน ต่างกันตรงกลางที่บรรจุเครื่องยนต์ โดยใช้เครื่องยนต์ 1 เครื่องแทนที่จะเป็นมอเตอร์หลายๆ ตัว เพราะในเวลานั้น มอเตอร์ในบ้านเราหายากและราคาแพง
หลังจากผ่านไป 1 ปี เครื่องบินต้นแบบก็สร้างเสร็จ ช่วงนั้นได้รับความช่วยเหลือจากคุณ SID ช่วยสนับสนุนการทดลองหลายอย่างและขอขอบคุณมา ณ. ที่นี้ด้วย ตอนนั้นผมหาสนามบินอยู่นานมากเพราะต้องการสนามที่กว้างและยาว เหตุผลเพราะเครื่องบินมีขนาดใหญ่ ปีกยาว 3 เมตรกว่า พื้นสนามก็ต้องเรียบ ในที่สุดผมเลือกสนามแถว ถนนพระราม 9 ด้านหลังศูนย์วัฒนธรรมฯ
จริงๆ แล้วเป็นถนนที่สร้างเสร็จแล้วแต่ไม่สามารถสร้างช่วงสุดท้ายได้เหตุเพราะเวณคืนที่ดินไม่ได้ ทำให้ถนนเส้นนั้นไม่สามารถเปิดให้ใช้ได้ ที่สำคัญคือมีเพื่อนนักบิน บินที่สนามนี้อยู่ทุกวันอาทิตย์ แต่ข้อเสียของสนามนี้คือมีป่ากก อยู่ด้านข้างซึ่งกินพื้นที่เป็นบริเวณกว้าง แต่ในที่สุดก็ตัดสินใจเลือกใช้สนามนี้

FIRST FLIGHT ครั้งที่1
ผมและเพื่อนนักบินมารวมตัวกันที่สนามเพื่อทำการ First Flight ในวันที่ 20 ก.พ. 2000 หลังจากเตรียมตัวเรียบร้อย ก็ทำการ Taxi เพื่อ Take Off ขณะที่กำลังทำการ Taxi ปรากฏว่าเครื่องบินหมุนควงอาการนี้เรียกว่า Ground Loop ทดลองอยู่ 2 - 3 ครั้ง จนปีกเสียหายมาก ก็ยังบินขึ้นไม่ได้ ในที่สุดก็ต้องแบกของกลับบ้าน ตอนแรกผมเข้าใจว่าสาเหตุเกิดจากลมพัดขวางสนาม จากนั้นไปลองอีกหลายครั้งลองทั้งลมตรงสนามและไม่มีลม เครื่องบินก็ยังเกิดอาการดังกล่าว
เมื่อไม่หายก็ลองแก้ไขใหม่ แต่เดิมใช้ระบบบังคับล้อหาง( Tail dragger) ซึ่งเป็นระบบที่ไม่เสถียรภาพดังรูป 1(ระบบล้อแบบนี้ นิยมใช้กันมากในเครื่องบินรบในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เช่นเครื่อง P-51 Mustang, Split Fire, ME - 109 เป็นต้น) หลังจากนั้นลองเปลี่ยนไปใช้หลักการของล้อแบบล้อหน้าซึ่งมีเสถียรภาพดีกว่าดังรูปที่ 2

Tail dragger รูปที่ 1 เป็นรูปแบบการบังคับเลี้ยวโดยใช้ล้อหาง โดย CG จะอยู่หลังแนวล้อหลัก (Main Gear) ถ้ามีลมพัดด้านข้างจะทำให้เกิดการ Slip และมีแนวโมเมนท์หมุนที่พยายามให้เครื่องบินออกจากแนววิ่งเดิม ทำให้เกิด Ground Loop
( f คือแรงเสียดทานลัพธ์ของล้อ F คือแนวแรงลัพธ์อยู่ที่ตำแหน่ง CG ส่วน W คือแรงจากลมกระชาก)


Trike รูปที่ 2 ระบบควบคุมล้อหน้า แนวล้อหลักจะอยู่ข้างหลัง CG เมื่อมีลมรบกวน เครื่องบินจะพยายามหมุนกลับ เข้าทางเดิม


First Flight and Last Flight

Flying Pathfinder Pathfinder ขณะบิน

ในวันที่ 17 มิถุนายน 2000 ผมกับคุณฉกาจ ไปที่สนามพระราม 9 อีกครั้ง โดยครั้งนี้ล้อได้ทำการแก้ไขเรียบร้อย หลังจากเตรียมตัวก็ทำการ Taxi เพื่อ Take Off ปรากฏว่าเครื่องบินวิ่งไปไกลมากแต่ไม่ยอม Take Off และเกิด Ground Loop อีก สาเหตุที่เกิด Ground Loop เพราะความเร็วสูงมาก คุณฉกาจสังเกตเห็นว่าปีกกดลงแสดงว่ามุมปะทะอากาศ (Angle of Attack) คงจะติดลบแน่ทำให้เครื่องบินไม่ยอมบินขึ้น และแนะนำให้ผมเพิ่มมุม เนื่องจากว่าขณะนั้นไม่มีอุปกรณ์อะไรมากนัก ผมเลยเอาเศษกระดาษแข็งมายัดไว้ระหว่างลำตัวและปีกเพื่อเพิ่มมุมปะทะอากาศ ปรากฏว่าได้ผลครับเครื่องบินวิ่งไปเล็กน้อยก็ Take Off ขึ้นไปอย่างสวยงาม
แต่เมื่อขี้นไปแล้วปรากฏว่าเกิดอาการหางหนัก (ทั้งๆที่ไม่มีหาง!) และยังบังคับให้เครื่องบิน เชิดหัวขึ้น หรือ หันหัวลง ( Pitch up/down) ไม่ได้เพราะขนาดของแผ่นควบคุมเล็กเกินไป (แผ่นควบคุมนี้เรียกว่า Elevon มาจาก Elevator + Aileron โดยรูปร่างแล้วตัวมันแล้วจะเหมือน Aileron ทุกประการ แต่ทำงานทั้ง 2 ฟังก์ชั่น คือ Aileron และ Elevator เนื่องจากระยะตามแนวลำตัวของแผ่น Elevon ถึงจุด CG มีระยะสั้นทำให้ทำให้เกิดแรงบังคับในส่วน Elevator น้อยกว่าเครื่องบินธรรมดา เครื่องบินธรรมดาจะมีหางยาวดังนั้นพื้นที่ Elevator ไม่จำเป็นต้องใหญ่มากก็ให้แรงงัดมาก หลักการเหมือนกับคานงัดนั้นเอง) เท่านั้นยังไม่พอ การควบคุมการเลี้ยวก็มีปัญหา(ในส่วนฟังก์ชั่น Aileron) คือเลี้ยวแทบจะไม่ไปเลย (กว่าผมจะรู้ว่าปัญหาเกิดจากอะไร ก็เป็นเวลากว่า 6 เดือนหลังจากวันนี้) สาเหตุเพราะลำตัวที่ติดอยู่ 2 ข้างเป็นตัวถ่วงทำให้การหมุนต้องใช้แรงมาก ดังรูป 3 แต่ขนาดของแผ่น Elevon ใหญ่ไม่พอ

Roll Resisters  

รูปที่ 3 ลำตัวข้างของ Pathfinder จะต้านการหมุน (Roll) ทำให้เครื่องเลี้ยวยาก

P-38 P-38 Lightning

ผมมารู้เพราะว่า เกมส์ Flight Sim Combat เกมส์หนึ่ง เพราะพอผมลองขับเครื่องบิน P 38 Lightning ไปไล่ยิงเครื่อง Zero เลยรู้ว่าทำไม Pathfinder ถึงเลี้ยวไม่ไป (ถ้าท่านลองไปบินใน Flight Sim ได้นะครับ ลองบินเครื่องธรรมดาก่อน เช่น Mustang , Split Fire, Zero ฯลฯ จากนั้นลอง P38 ตอนจะเลี้ยวนั้นจะทำได้ยากมาก)
กลับมาเรื่องอาการหางหนัก คือเมื่อเครื่องขึ้นไปแล้วตอนที่เบาเครื่องยนต์แทนที่เครื่องจะกดหัวเพื่อร่อนลงกลับเป็นตรงกันข้ามเลยคือ หัวเครื่องเชิดขึ้นซึ่งหมายความว่าถ้าเบาเครื่องยนต์จนสุดเครื่องบินจะเสียความเร็วจน Stall ในที่สุด ในตอนบินขึ้นเครื่องบินค่อยๆ เลี้ยว ช้าๆ เป็นมุมกว้างมากจากนั้นเมื่อเข้าแนวบินที่ชี้ไปทางถนนรัชดา เครื่องบินไม่ยอมเปลี่ยนเส้นทาง เครื่องบินสูงขึ้นไปเรื่อยๆ เพราะอาการหางหนักผมจึงต้องเร่งเครื่องยนต์เอาไว้ จะเลี้ยว หรือ บินขึ้น ลง ก็ไม่ได้ตอนนั้นได้แต่คิดอยู่ในใจว่าจะทำอย่างไรดีถ้าเครื่องบิน บินออกไปถนนใหญ่แล้วตกใส่รถยนต์ หรือเครื่องบิน บินออกไปชนกับอาคารสูง อาจเกิดความเสียหายได้ สุดท้ายผมเลยตัดสินใจเบาเครื่องยนต์จนเครื่องบิน Stall เพื่อให้ตกลงในป่ากกแล้วค่อยมาหาเอาทีหลัง
ปรากฏว่าหลังจากเครื่องตกไม่นานฝนก็ตกทำให้ไม่สามารถที่จะหาได้ หลังจากวันนั้นผมให้คนงานที่บ้านพยายามช่วยกันหา แต่ก็หาไม่เจอ เอาเครื่องบิน Trainner ตัวเก่ามาติดตั้งกล้องถ่ายภาพทางอากาศ ก็ไม่เห็น สงสัยว่าโดนคนงานแถวนั้น"หิ้ว"ไปแล้ว

Aerial Photo รูปถ่ายทางอากาศ เพื่อการค้นหา แต่หาไม่เจอ


สรุป
ผมสร้างเครื่องบินลำนี้ 1 ปี กับอีก 6 เดือน ใช้เวลาบินประมาณ 2 นาที เครื่องบินหายทั้งลำพร้อมกับอุปกรณ์ใหม่เอี่ยมหลายอย่าง แต่ก็ได้ความรู้มากมาย

ขอขอบคุณ คุณ SID กับคุณฉกาจ มา ณ.ที่นี้อีกครั้งสำหรับความช่วยเหลือและข้อแนะนำหลายประการ


PATHFINDER 2

PATHFINDER 2 a PATHFINDER 2 a

หลังจากนั้นไม่นาน ด้วยความสงสัย ( และเจ็บใจตัวเอง ) จึงวางแผนสร้าง PATHFINDER ลำที่ 2 เพื่อแก้ข้อสงสัยต่างๆ (รวมทั้งกู้หน้าคืน) จากข้อผิดพลาดต่างๆ ตั้งแต่ระบบบังคับ ตำแหน่ง CG ขนาดของ Elevon ฯลฯ นำมาเป็นข้อมูลในการแก้ข้อผิดพลาด โดยการออกแบบครั้งใหม่นี้เครื่องบินจะมีขนาดเล็กลง เหตุผลเพราะต้องการให้เครื่องบินเสร็จอย่างเร็ว และหาวิธีการสร้างใหม่ที่ ให้เครื่องบินเสร็จได้อย่างเร็ว ประหยัดเวลา และเงินทอง จึงออกแบบด้วยปีกโฟมหุ้มด้วยกระดาษ เพราะทำได้เร็วและมีราคาถูก คราวนี้ออกแบบให้ปีกมีความยาวเหลือ 2 เมตร แต่เพิ่มขนาด Elevon ขึ้นอีก อีกทั้งยังเพิ่ม Flap ซึ่งจะใช้งาน 2 อย่าง คือ เป็น Reflex (Reflex คือ ส่วนปลายของ Airfoil ที่มีลักษณะปลายโค้งขึ้น) และเป็น Flap ที่ทำส่วนนี้เพิ่มเพื่อชดเชย ในกรณีที่ CG อยู่ผิดตำแหน่ง ครั้งนี้ยังได้เปลี่ยน Airfoil จาก MH 49 เป็น EH 2.0/12 เนื่องจากการสร้างปีกที่ใช้ Airfoil ที่มี Reflex ทำได้ยาก และเสียเวลามาก อีกทั้งมีโอกาสผิดพลาดได้ง่าย การสร้างจะสร้างเป็นปีก 3 ท่อนมาต่อกันตรงกลางมีลำตัว
เพื่อตรวจสอบปัญหาการบังคับเลี้ยว เครื่องบินลำใหม่จะไม่ใส่ลำตัวข้างก่อน เนื่องจากปีกทำด้วยโฟมกับกระดาษ เลยใช้ Motor เป็นเครื่องให้กำลังเพราะไม่ต้อง เพราะไม่ต้องการให้เลอะน้ำมัน และเนื่องจากไม่มีลำตัวข้างจึงต่อทำหางดิ่ง( Vertical tail )ต่อกับลำตัวหลัก
หลังจากสร้างเสร็จ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 6 เดือน ( การสร้างปีกแบบโฟม โดยใช้กระดาษหุ้มใช้เวลาน้อยมาก ) ในช่วงใกล้จะเสร็จ ผมได้ R/C Flight Simulation ของ Real Fight รุ่น Deluxe มา ซึ่งรุ่น Deluxe ต่างหากรุ่นเดิมตรงที่มี Servo ควบคุม Aileron แยกออก 2 ข้าง สำหรับปีกซ้าย และปีกขวา ตรงนี้สุดยอดเลยครับ เพราะเราสามารถ Set ให้ เป็น Elevon ได้จากวิทยุบังคับที่มีโปรแกรม Elevon โปรแกรม RealFlight มีความสามารถให้เราใส่ข้อมูลเครื่องบินเล็กเข้าไปแล้วฝึกบินซึ่งใน Real Flight ได้ ครั้งหนึ่งผมใส่ข้อมูล( Specification )เครื่องบินฝึกเข้าไปแล้วทำการฝึกบินบอกได้ว่าคล้ายกันมาก คราวนี้จะได้ลองปีกบินนี้ด้วย รุ่น Deluxe ผมได้เอาข้อมูลของ PATHFINDER 2 ใส่ลงไปทั้งหมด ยกเว้น
1. เครื่องยนต์ รุ่น Deluxe ไม่มี Motor ไฟฟ้า จึงใช้เครื่องยนต์ขนาดเล็กแทน
2. Airfoil เนื่องจากใน RealFlight ไม่มีรุ่นที่ใช้ จึงใช้รุ่นที่มีลักษณะใกล้เคียงแทน
หลังจากทดลองบินเครื่องบินก็ตก ( ใน Flight Sim ) สิ่งที่พบ
1. CG อยู่หลังเกินไป ในการออกแบบ PATHFINDER ผมใช้วิธีคำนวณซึ่งได้มาจาก เว็บไซด์ของ Dr. Martin Hepperle ซึ่งตามวิธีคำนวณจะได้ตำแหน่ง CG อยู่ที่ 3 ซม. จากขอบปีกหน้า ตอนกำหนด CG กับ PATH FINDER ลำแรก ก็กำหนดไว้โดยวิธีคำนวณดังกล่าว แล้วก็เกิดปัญหาเรื่องเสถียรภาพ( Longitudinal Static Stability) มาคราวนี้ ( ใน Sim ) ก็เกิดปัญหาเดียวกัน ดังนั้นใน PATH FINDER 2 ผมเลยกำหนดตำแหน่งไว้ที่ 0.5 ชม.จากขอบปีกแทน ( ใน Flight Sim ตั้งได้ถึง 2 ชม. ก่อนจะเริ่มมีปัญหาเสถียรภาพจากขอบปีก ซึ่งจะทดลองในโอกาสต่อไป )
2. แรงยกของปีกลดลง เมื่อใช้ Elevon ในกรณีทั่วๆ ไป เครื่องร่อน (เครื่องบินที่มีค่า Aspect ratio สูงๆ) เวลาร่อนลงจะลอยไม่ยอมลงง่ายๆ หรือมีความเร็วในแนวดิ่งหรืออัตราตก ( Sink rate ) ต่ำ แต่ PATH FINDER มี Sink rate สูง โดยเฉพาะหลังจากเบาเครื่องยนต์ ทำให้เวลาเตรียมลงต้องเร่งเครื่องยนต์ไว้ส่วนหนึ่ง ( อาการนี้สอดคล้องกับ ปีกบินสำแรกของผม )
ในช่วงนี้ผมก็ฝึกกัน RealFlight ไปเรื่อยๆ และสงสัยว่าเวลาบินจริงจะเหมือน RealFlight แค่ไหน

First Flight First Flight

First Flight ครั้งที่ 1
เนื่องจากการงานและภาระกิจต่างๆ ทำให้เวลา First flight ห่างจากวันที่สร้างจริงประมาณ 1 ปี ในที่สุดในวันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2544 ก็เป็น First flight ผมใช้ Motor speed 600 ใช้ Battary ( ถ่าน ) NiCd 1000 mA 9 ก้อน Runway ( ทางวิ่ง ) เป็นดินลูกรัง ปรากฎว่าเครื่องบินเกือบจะบินขึ้นได้ แค่เกือบเท่านั้น มีครั้งหนึ่งทำท่าจะขึ้น แต่กระโดดพ้นพื้นประมาณ 1 นิ้ว เท่านั้นเอง วันนั้นกลับมาด้วยความล้มเหลว แต่ลึกๆ ก็ดีใจเพราะ ถ้าบินขึ้น ( ผมเชื่อว่าบินขึ้นถ้าเป็นสนามคอนกรีตที่เรียบ ) มอเตอร์มีกำลังน้อยเครื่องบินจะบินแบบกำลังไม่พอ หรือ บินห้อยอาจจะบินไปชนต้นไม้ หรือสิ่งกีดขวางได้และ Battary จะหมดไฟเร็ว ทำให้มีโอกาสตกสูง ถ้าเวลาบินน้อยจะสังเกตอาการไม่ออก ในเมื่อบินไม่ขึ้นก็ต้องปรับปรุงใหม่

First Flight ครั้งที่ 2
คราวนี้ติดเครื่องยนต์ แทนมอเตอร์ ใช้เครื่องขนาด 0.25 ลบ.นิ้ว เครื่องของ OS รุ่น FP ใบพัด 9 x 6 นิ้วแก้ปัญหาน้ำมันเลอะปีก โดยการใส่ท่ออลูมิเนียมข้างลำตัว โดยให้ช่องออกของท่อไอเสียเป่าเข้าไปในช่องนี้ ซึ่งก็ได้ผลดี
First flight ครั้งนี้ ผมลองอาการหนึ่งที่ ปรากฏใน RealFlight คือ ขณะที่เครื่องบินพยายามจะ Take off ถ้า Up elevator ไม่มากพอ เครื่องบินจะกระโดดเพื่อดูว่าอาการจะเหมือน Real Flight หรือไม่ ขณะ Take off ผมไม่ได้ Up elevator มากพอปรากฏว่า กระโดดครับ แต่กระโดดแรงไปหน่อย ทำให้ก้านที่ยึดลำตัวกับปักหัก ต้องนำกลับมาซ่อมก่อน ( และนี้เป็นอาการแรกที่ อาการเครื่องบินตรงกับอาการใน RealFlight )

First Flight ครั้งที่ 3
ในวันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2544 หลังจาก first flight ครั้งที่ 2 สองสัปดาห์ ตอนนี้ทุกอย่างซ่อมเรียบร้อยแล้ว มีการแก้ไขโดยปรับมุมให้ Elevon ยกขึ้นเล็กน้อย โดยยกขึ้นประมาณ 5 ม.ม. จากแนวปกติ ทั้งนี้เพราะใน RealFlight ตั้งแบบนี้ไม่ได้เวลาเล่นบน RealFlight ต้อง Trim ขึ้นจนหมดก็ยังไม่พอ เวลาบินใน Sim ยังต้องกดก้าน Elevator ลงเพื่อ up อีกด้วย เมื่อแก้แล้วก็ได้เวลาบินวันนั้น เย็นแล้ว เวลาประมาณ 17:40 น. ท้องฟ้ามีเมฆมากแสงแดดเริ่มน้อยแล้ว หลังจากเติมน้ำมัน เช็คระบบ สตาร์ทเครื่องยนต์และปรับรอบจนเรียบร้อยแล้วก็ขนเครื่องบินไปที่ Runway โดยมีผู้สังเกตการณ์หลายคนและน้องบอมเป็นตากล้องให้ หลายคนอยากรู้ว่าบินอย่างไร จะร่วงไหม ฯลฯ ส่วนผมอยากรู้เพียงว่าจะบินได้เหมือนใน Fight sim หรือเปล่า ผมเร่งเครื่องจนสุด เครื่องบินก็ทะยานขึ้นฟ้า สิ่งที่ผมพะวงมากที่สุดคือการเลี้ยว เพราะนั้นคือเหตุของจุดจบของ PATHFINDERลำแรก แต่ PATHFINDER 2 เลี้ยวได้อย่างงดงาม การควบคุมดีมาก บินเร็วกว่า PATHFINDER ลำแรก( ตามความรู้สึก ) และเร็วกว่าใน RealFlight ด้วย แต่การอาการต่างๆ เหมือนใน RealFlight มาก เช่น ความไว(sensitivity)ของฟังก์ชันของ Aileron ( ซึ่งไวมาก ) และ Elevator ใกล้เคียงมาก จนแทบไม่น่าเชื่อ ผมปรับก้านทริม Elevator ยกอีกด้วย ( วิทยุที่ผมใช้คือ FF7 และยังมีก้านทริม ) ถ้าไม่นับเรื่องความเร็วแล้วอาการต่างๆ ที่ปรากฏจะเหมือนใน RealFlight มาก อีกสิ่งที่ลองคือ เวลาตัดเครื่องยนต์แล้วดูการร่อนของเครื่องบิน ปรากฏว่าเกิดอาการเสียแรงยกอย่างรวดเร็ว เหมือนที่ปรากฏใน RealFlight หลังจากบินไปประมาณ 10 นาที จนเครื่องบินชินมือแล้ว ก็ได้เวลาลงแล้วเพราะตอนนั้นเริ่มมืดแล้วการมองเห็นเริ่มลำบาก สีเครื่องบินก็มืดๆ เพราะเป็นสีน้ำตาลเข้ม เลยตัดสินใจ Landing หลังจากลองบินทาบสนามอยู่เที่ยวหนึ่ง ก็ต้องสินใจลง โดยลงตามแนวตามลม เพราะวันนั้นไม่มีลมเลย ( แนวทวนลมจะต้องบินผ่านสายไฟ ซึ่งผมลังเลพอสมควร ) ปรากฏว่าตอนตัดเครื่องยนต์ เครื่องบินมีความเร็วดิ่ง ( Sink rate ) มาก กะว่าพอใกล้พื้นจะ UP elevator แล้วเร่งเครื่องยนต์ แต่กะแนวรันเวย์ผิด เครื่องบินเลยลงเข้าไปบนแนวหญ้าหายไปทั้งลำ โชคดีครับไม่เป็นไร ชิ้นส่วนครบ 32 หลังจากมาดูวิดีโอคลิป เลยเห็นว่าเครื่องบินมี Sink rate มาก หลังจากตัดเครื่องยนต์ ถ้าลงในแนวสนามอาจเกิดความเสียหายเพราะลงแรงๆ ได้ ( Hard Landing ) เป็นอันว่าประสบผลสำเร็จ 95%

Load Vedio clip คลิกที่รูปเพื่อโหลดวิดิโอคลิป (ประมาณ 800K)

สิ่งหนึ่งที่ได้จากโครงการนี้คือ RealFlight สามารถจำลอง การบินได้ใกล้เคียงมาก ตัวผมเองให้คะแนน 80% ครับ และขอแนะนำว่าถ้าท่านใดกำลังสร้างเครื่องบิน หรือออกแบบเครื่องบินหรือซื้อเครื่องบินคนอื่นมา แล้วอยากจะลองดูว่าเวลาบินจะเป็นอย่างไร ก็สามารถนำข้อมูลมาใส่ใน RealFlight ก่อน ปรับข้อมูลต่างๆ เช่น CG หาตำแหน่งที่เหมาะสมเป็นที่พอใจแล้วค่อยลองกับเครื่องบินของท่าน ถึงแม้ว่า RealFlight อาจจะจำลองการบินพาดแผลงได้ไม่เหมือนนัก ( เท่าที่เคยลองดู ) แต่การบินพื้นฐานจะใกล้เคียงกับเครื่องบินเล็กมาก ทั้งนี้จะต้องใส่ข้อมูลให้ถูกต้องด้วย วิธีการใส่ข้อมูลต่างๆ ของ Real Flight อยู่ในไฟล์คู่มือซึ่งจะมาพร้อมกับ CD-ROM ท่านสามารถศึกษาเองได้
หลังจากนั้นยังมีการทดลองบินอีก และพบว่าตำแหน่ง CG ที่ 0.5 ซม. จากขอบปีกหน้า ทำให้หัวเครื่องบินหนัก เป็นสาเหตุให้เครื่องมีอัตราตกที่สูง หลังจากที่ทดลองใน Flight Sim พบว่า ตำแหน่ง CG ที่ดีที่สุดอยู่ที่ 1.5 ซม. จากนั้นก็ทำการเลื่อน CG ถอยหลัง แต่ด้วยข้อจำกัดบางอย่างทำให้การเลื่อนตำแหน่ง CG ของ PATHFINDER 2 ไปได้แค่ 1 ซม.จากขอบปีก เมื่อทดลองบินจริงก็พบว่า อัตราตกลดลงไปพอสมควร แต่ถึงอย่างไรก็ตามการจะร่อนลงต้องใช้กำลังเครื่องยนต์ช่วย เพราะอัตราตกยังสูงอยู่ อีกอย่างหนึ่งปีกโฟมหุ้มกระดาษก็แข็งแรงน่าประทับใจ มีครั้งหนึ่งจำเป็นต้องนำ PATHFINDER ลงโดยตัดเครื่องยนต์ ปรากฏว่าเครื่องลงกระแทกพื้นค่อนข้างแรงจนลูกล้อหลุดกระเด็นไปข้างหนึ่ง แต่ปีกไม่เป็นไรเลย แล้วจะเขียนบทความเกี่ยวกับเรื่องปีกโฟมหุ้มกระดาษโดยตรงอีกที

งานหลังจากนี้จะทำลำตัวด้านข้างเหมือน PATHFINDER ตัวจริง และจะตัดหางดิ่งออก ถ้าบินสำเร็จ Project นี้ก็คงจะจบลง ความตั้งใจแต่เดิมเคยคิดว่าจะเอา Solar cell มาใส่ เพราะเคยคำนวณดูแล้วว่าเครื่องบิน สามารถบินได้ทั้งวันตั้งแต่ ตอนสายไปยันบ่าย ถ้าวันนั้นแดดออกดี ( ผมเคยเห็นเว็บไซด์ต่างประเทศ ที่ใช้ Solar cell โดยบังเอิญที่ พื้นที่ปีกและน้ำหนักใกล้เคียงกับ PATHFINDER และบินได้ในวันที่แดดดี ) แต่หลังจากตรวจสอบราคา Solar cell ที่ขายในบ้านเราแล้วสู้ไม่ไหว ไปลองทำเครื่องบินแบบอื่นๆ ดีกว่า
หลังจากทดลองติดลำตัวข้างแล้วจะมารายงานให้ทราบต่อไป

ขอขอบคุณ น้องบอมที่ช่วยเป็นตากล้องให้ในวันนั้น และเพื่อนๆ พี่นักบินอีกหลายท่านที่คอยเป็นกำลังใจให้


 

 
 
 
 

ทีมงาน

ข่าว/กิจกรรม
แลกเปลี่ยนความรู้
Links

ชมรม/สนามบิน
แนะนำร้าน/สินค้า

รูปสวยๆ