วอลเดน เบลโลซักฟอกธนาคารโลกและไอเอมเอฟ
บทความแปลสรุปความ : นิธิ เอียวศรีวงศ์
|
นิทานเรื่องที่ ๑
ธนาคารโลกและไอเอมเอฟ
เป็นผู้สนับสนุนธรรมาภิบาลหรือธรรมรัฐ
(good governance)
ข้อเท็จจริง
ตลอดเวลาส่วนใหญ่ของ ๓๐
ปีที่ผ่านมา
ทั้งไอเอมเอฟและธนาคารโลก
ได้เข้าไปเกี่ยวพันอย่างใกล้
ชิดกับรัฐบาลที่ทุจริตอย่างยิ่ง
และผู้ละเมิดสิทธิมนุษยชน
เผด็จการทหาร บราซิล,
เฟอร์ดินานด์ มาร์โกส,
นายพลออกุสโต ปิโนเชต์,
พรรค PRI ของเมกซิโก
และระบอบซุฮาร์โต
มีอะไรที่เหมือนกัน
ทั้งหมดเหล่านี้
ล้วนเป็น รัฐบาลหรือหัวหน้ารัฐบาล
ที่ธนาคารโลกจัดว่าเป็นประเทศ
ที่ต้องเน้นความช่วยเหลือเป็นพิเศษ
นั่นก็คือ
เป็นประเทศที่
ทรัพยากรของ
ธนาคารไหลเข้าไปมากกว่า
ประเทศอื่น
ที่มีขนาดหรือรายได้เท่าๆ
กัน
ตลอด ๓๐ ปีที่ผ่านมา เงินของธนาคารโลกกว่า ๓๐ พันล้านเหรียญ สหรัฐไหลเข้าไปสู่ระบอบเผด็จการ ของซุฮาร์โต จากรายงานหลายชิ้น รวมทั้งรายงานภายในของธนาคารโลกในพ.ศ.๒๕๔๒ เอง กล่าวว่า ธนาคาร สมยอมกับการทุจริต ยอมรับสถิติจอมปลอมของรัฐบาลอินโดนีเซีย ว่าเป็นข้อเท็จจริง ให้ความชอบธรรมแก่ระบอบ เผด็จการนี้โดยประกาศว่า เป็นตัวแบบให้แก่ประเทศอื่นๆ และพอใจกับสภาวะสิทธิมนุษยชนและ เศรษฐกิจของอินโดนีเซีย ทั้งนี้เกิดขึ้นภายใต้การจับตาดูของคุณ - คุณ วู&ลฟ์เฟนซัน - ประชาชนอินโดนีเซียจะไม่มีวันให้อภัยธนาคารโลกเลย
ข้อเท็จจริง
การศึกษาครั้งแล้วครั้งเล่าเกี่ยวกับโปรแกรมปรับโครงสร้างของไอเอมเอฟ-ธนาคารโลกได้แสดง
เป็นต้นว่า
ในประเทศฟิลิปปินส์ของผม
วิกฤตซึ่งเกิดจากการปรับโครงสร้างในกลางทศวรรษ
๑๙๘๐ กระทบทั้ง งานศึกษาชี้ให้เห็นว่าในต้นทศวรรษ ๑๙๙๐ ประเทศลูกหนี้อันดับต้นๆ ๑๕ ประเทศ (ซึ่งล้วนต้องถูกบังคับให้ปรับโครงสร้างทั้งสิ้น) ได้ทำลายป่าของตนเอง ไปมากกว่าอัตรา ในปลายทศวรรษ ๑๙๗๐ ถึงสามเท่า นี่ก็คือปรากฏการณ์ ที่เกิดจากโปรแกรมปรับโครงสร้าง ซึ่งผลักดันให้ประเทศ เหล่านี้เพิ่มรายได้จากการส่งออกเพื่อชดใช้หนี้ต่างประเทศนั่นเอง โครงการที่ธนาคารโลกสนับสนุนอย่างแข็งขัน เช่น โครงการวางท่อระหว่าง ประเทศชาด-แคมเมอรูน จะทำ ภยันตรายให้เกิดแก่ป่าดิบชื้นในแคมเมอรูน ส่วนโครงการ ความยากจนตะวันตกของจีนซึ่งได้รับการอุดหนุน จากธนาคารโลก ก็กลับละเมิดกฎของธนาคารเกี่ยวกับ สิ่งแวดล้อมเอง เช่น มีการบังคับอพยพประชาชนพื้นเมือง ออกจากพื้นที่ เพื่อเปลี่ยนระบบนิเวศน์แบบ แห้งแล้งซึ่ง คนเลี้ยงแกะชาวมองโกลและทิเบตใช้ประโยชน์อยู่ ให้กลายเป็น ที่ดินเพื่อการเกษตรสำหรับรองรับคนจีนอพยพ หันไปดูตัวเลขสถิติของธนาคารเองก็จะเห็นความเป็นจริงที่อยู่เบื้องหลังโวหารเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมเหล่านี้ จำนวนเงินกู้สำหรับสิ่งแวดล้อม ในจำนวนเงินกู้ทั้งหมดของธนาคารลดลงจากเดิมใน ๒๕๓๗ ซึ่งมี ๓.๖๕% เหลือเพียง ๑.๐๒% ใน ๒๕๔๑ เงินที่ใช้สำหรับอุดหนุนโครงการสิ่งแวดล้อมลดลงระหว่าง ๒๕๔๑-๒๕๔๒ ถึง ๓๒.๗% และใน ๒๕๔๑ มากกว่าครึ่งของเงินกู้ที่ให้แก่ภาคเอกชน ล้วนให้แก่โครงการที่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมทั้งนั้น เช่นทำเหมือง, ทำถนน และพลังงาน อันที่จริง เจ้าหน้าที่ด้านสิ่งแวดล้อมของธนาคารก็มีความสำคัญน้อยเสียจนกระทั่งนัก เศรษฐศาสตร์ สิ่งแวดล้อม ที่มีชื่อบางคนลาออก เนื่องจากเห็นว่าเขาและแผนกสิ่งแวดล้อมไม่สามารถส่งผลกระทบ ต่อนโยบาย ของธนาคาร ได้เลย
|
นิทานเรื่องที่ ๓ ไอเอมเอฟและธนาคารโลกมุ่งมั่นที่จะต่อสู้กับความยากจน
ข้อเท็จจริง ความจริงเป็นตรงกันข้ามต่างหาก ไอเอมเอฟและธนาคารโลกนั่นแหละ เป็นแกนกลางของการสร้าง ความยากจนให้เกิดขึ้นทีเดียว โปรแกรมปรับโครงสร้างซึ่งบังคับให้ประเทศกำลังพัฒนากว่า ๙๐ ประเทศต้องยอมรับ ในระยะ ๒๐ ปีที่ผ่านมา ทำให้การชะงักงันทางเศรษฐกิจกลายเป็นภาวะปรกติธรรมดา ทำให้ความยากจนเพิ่มขึ้น และทำให้ความไม่เท่าเทียมกันยิ่งเลวร้ายลงไปในดินแดนเหล่านั้น
อันที่จริงแล้ว งานศึกษาของธนาคารโลกเองยอมรับว่า ความยากจนในช่วงทศวรรษ ๑๙๙๐ เลวร้ายลงไป ในยุโรปตะวันออก, แอฟริกาใต้ซาฮารา, ละตินอเมริกา, หมู่เกาะในแคริบเบียน, และในเอเชียใต้ - ทั้งหมดนี้ล้วนเป็น ภูมิภาคที่ตกอยู่ใต้อำนาจโปรแกรมปรับโครงสร้างของธนาคารโลก-ไอเอมเอฟ การปรับโครงสร้างไม่มีความสำเร็จ อะไรเลยจนกระทั่ง แลรีซัมเมอร์ ร.ม.ต.คลังสหรัฐ ซึ่งเป็นหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารในช่วงต้นทศวรรษ ๑๙๙๐ ซึ่งเป็นฝ่ายที่สนับสนุนให้ปรับโครงสร้างเอง ก็ยอมรับแก่สภาผู้แทนของสหรัฐเมื่อปีที่แล้วว่า ถึงเวลาที่ต้องเอาวิธี แก้ปัญหาเศรษฐกิจมหภาคที่เอาไอเอมเอฟเป็นศูนย์กลางขึ้นหิ้งได้แล้ว เพราะมันใช้ไม่ได้เลย
ไม่นานมานี้ ไอเอมเอฟก็กำลังตั้งหน้าตั้งตาสร้างความยากจนในเอเชียตะวันออกอีก หลังจากเกิดวิกฤตทาง การคลังในเอเชีย บัดนี้เป็นที่ยอมรับกันทั่วหน้าแล้วว่า โปรแกรมที่เข้มงวดในการตั้งอัตรา ดอกเบี้ยสูงและตัด งบประมาณซึ่งไอเอมเอฟได้บังคับใช้ ได้เปลี่ยนวิกฤตเศรษฐกิจไปเป็นการถดถอยทางเศรษฐกิจอย่างเต็มรูปแบบ จนทำให้ความเติบโตทางเศรษฐกิจถดถอยลงในประเทศไทย, อินโดนีเซีย และเกาหลีใต้ ตามมาด้วยการเพิ่มขึ้น อย่างมากของคนตกงานและอัตราคนยากจน อย่างน้อยคนประมาณ ๑ ล้านคนกลายเป็นคนยากจนในประเทศไทย และ ๒๑ ล้านคนในอินโดนีเซีย ในเกาหลีแนวโน้มที่คนจนลดลงระหว่าง ๒๕๑๘-๒๕๓๘ กลับพลิกกลับใน ๒๕๔๑ สถิติ ฆ่าตัวตายในปีนั้นเพิ่มขึ้นกว่าปีก่อนหน้าถึง ๕๙.๔%
ในส่วนธนาคารโลก การต่อสู้กับความยากจนของคุณวูล์ฟเฟนซันได้รับการเปิดเผยจาก คณะกรรมาธิการ เมลท์เซอร์ ซึ่งสภาผู้แทนสหรัฐได้ตั้งขึ้นเพื่อพิจารณาสถิติต่างๆ ของสถาบันซึ่งเกิดจากข้อตกลงที่เบรตตันวูดส์ (ธนาคารโลก-ไอเอมเอฟ) ปรากฎว่า ๗๐% ของเงินกู้ที่ไม่ใช่ความช่วยเหลือของธนาคารมุ่งให้แก่ประเทศเพียง ๑๑ ประเทศเท่านั้น ส่วนประเทศสมาชิกอีก ๑๔๕ ประเทศต้องแย่งชิงกันกู้เงินจากส่วนที่เหลือ ๓๐% นอกจากนี้ ๘๐% ของทรัพยากรของธนาคาร ไม่ได้จ่ายไปแก่ประเทศกำลังพัฒนาที่ยากจนที่สุด แต่กลับจ่ายไปยังประเทศ ที่พอมีฐานะดีกว่า ซึ่งมีอัตราความน่าเชื่อถือในเรื่องหนี้สินสูงกว่า อันทำให้สามารถระดมทุนจากตลาด ทุนเอกชน ได้อยู่แล้ว อัตราความล้มเหลวของธนาคารในประเทศที่ยากจนที่สุดสูงถึง ๖๕-๗๐% ส่วนในประเทศกำลังพัฒนา ทั้งหมดก็สูงถึง ๕๕-๖๐%
เหตุใดธนาคารจึงยังคุยโม้เกี่ยวกับภาระอันสูงส่งในการยุติความยากจนอยู่อีก? เหตุผลก็เพราะธนาคาร ได้เรียนรู้จากโจเซฟ เกิบเบิลส์ (รัฐมนตรีโฆษณาการของฮิตเลอร์) ว่า คำโกหกที่พูดซ้ำๆ หลายครั้งพอแล้วก็จะ บรรลุสถานะของความจริงในที่สุด
ข้อเท็จจริง ความจริงก็คือธนาคารโลกและไอเอมเอฟสนใจแต่จะใช้กลุ่มประชาสังคม เพื่อให้ความชอบธรรม แก่วิธีการแบบเดิมของตนเอง โดยอาศัยการปรึกษาหารือซึ่งที่จริงแล้ว เป็นการพูดฝ่ายเดียว ธนาคารและกองทุนฯ สนใจที่จะทำความแตกแยกให้แก่กลุ่มประชาสังคม โดยเรียกกลุ่มประชาสังคมบางกลุ่มว่าเป็นเอนจีโอที่มีเหตุผล และเรียกกลุ่มที่ต่อต้านอย่างรุนแรงว่ากลุ่มเอนจีโอที่ไม่มีเหตุผล คุณวูล์ฟเฟนซันไม่ยอมถกเถียงกับ กลุ่มที่ต่อต้าน การวางท่อชาด-แคมเมอรูน แต่กลับประณามกลุ่มที่ต่อต้านแทน
คุณคูห์เลอร์ (ผอ.ไอเอมเอฟ) คุณจะให้อำนาจตัดสินใจของคณะกรรมการกองทุน แก่ประเทศ กำลังพัฒนา หรือไม่ คุณจะให้อำนาจเช่นนี้ได้โดยการทำให้อำนาจการลงมติ ของสหรัฐและสหภาพยุโรป ซึ่งปัจจุบัน ครอบงำ คณะกรรมการ เบาบางลงหรือไม่ คุณคูห์เลอร์ คุณจะเสนอให้เลิกแบบปฏิบัติล้าสมัยและไม่โปร่งใสของไอเอมเอฟ ซึ่งทำให้ชาวยุโรป เท่านั้นที่จะเป็นผอ.ได้หรือไม่ คุณวูล์ฟเฟนซัน คุณจะสนับสนุนให้ยกเลิกประเพณีที่ล้าสมัย และไม่โปร่งใสพอๆ กัน ที่ต้องให้ประธานธนาคารโลกต้องเป็นอเมริกันเสมอหรือไม่?
|
(เก็บความจาก Agencies have a lot to answer for" BKK Post, October 18, 2000)
ในวันที่ ๒๓ ก.ย. พ.ศ.๒๕๔๓ ได้มีการจัดโต้วาทีระหว่างกลุ่มผู้วิพากษ์ธนาคารโลกและไอเอมเอฟ กับผู้อำนวยการ ของสองสถาบันนั้นขึ้นที่กรุงปร๊าก ประเทศเชคโกสโลวาเกีย โดยมีประธานาธิบดีวาคลาฟ ฮาเวลเป็น เจ้าภาพ ต่อไปนี้เป็นคำกล่าวของวอลเดน เบลโล ผู้อำนวยการองค์กร Focus on the Global South ซึ่งเจ้าตัวเขียนขึ้น จากการสรุปรวมคำกล่าวในที่ประชุมสองครั้ง
เบลโลกล่าวขอบคุณท่านประธานาธิบดีฮาเวล ที่จัดให้เกิดการโต้วาทีนี้ขึ้นได้สำเร็จ เพราะทั้งไอเอมเอฟ และธนาคารโลก ได้พยายามหลีกเลี่ยงการโต้เถียงกันกับกลุ่มประชาสังคมที่วิพากษ์ตัวมานานแล้ว ในครั้งนี้ ตัวแทนของสองสถาบันได้ยอมเข้ามาพูดคุยโต้เถียงกันอย่างเปิดเผย เพราะสองสถาบันนั้นได้ตระหนักแล้วว่า ตัวกำลังเผชิญกับวิกฤตความชอบธรรมที่เลวร้ายที่สุด นับตั้งแต่สองสถาบันดังกล่าวถือกำเนิดขึ้นเป็นต้นมา
ทั้งสองสถาบันได้ตระหนักแล้วว่า
การใช้ยุทธวิธีแบบเดิม
คือปฏิเสธเสียงแข็
และไม่ยอมเผชิญหน้าใดๆ
กับผู้วิพากษ์ตัว
เป็นยุทธวิธีที่ใช้ไม่ได้เสียแล้ว
เบลโลขอสรุปการนำเสนอของเขาด้วยการชำแหละนิทาน ๔ เรื่องที่ธนาคารโลกและไอเอมเอฟสร้างขึ้น หลอกชาวโลก