สิทธินำคดีอาญามาฟ้องระงับ
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
มาตรา 39 บัญญัติว่า
"สิทธินำคดีอาญามาฟ้องย่อมระงับไปดั่งต่อไปนี้
(1)
โดยความตายของผู้กระทำผิด
(2)
ในคดีความผิดต่อส่วนตัว
เมื่อได้ถอนคำร้องทุกข์
ถอนฟ้อง
หรือยอมความกัน
โดยถูกต้องตามกฎหมาย
(3)
เมื่อคดีเลิกกันตามมาตรา
37
(4)
เมื่อมีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดในความผิดซึ่งได้ฟ้อง
(5)
เมื่อมีกฎหมายออกใช้ภายหลังการกระทำผิด
ยกเลิกความผิดเช่นนั้น
(6)
เมื่อคดีขาดอายุความ"
ฟ้องคดีแพ่งเรียกเงินตามเช็คแล้วทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันในศาล
มีผลอย่างไรในคดีอาญาตาม
พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คฯ
ศาลฎีกาได้วินิจฉัยไว้ในคำพิพากษาศาลฎีกาที่
433/2542 ว่า
โจทก์และจำเลยได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความในศาลแพ่ง
และศาลได้มี
คำพิพากษาตามยอม
คดีถึงที่สุดแล้ว
ทำให้หนี้ที่จำเลยได้ออกเช็คเพื่อใช้เงินนั้น
สิ้นผลผูกพันไปก่อนที่ศาลซึ่งพิจารณาคดีนี้มีคำพิพากษาถึงที่สุด
คดีจึงเลิกกันตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค
พ.ศ.2534 มาตรา 7
สิทธิของโจทก์
ในการนำคดีอาญามาฟ้องย่อมระงับไปตาม
ป.วิ.อ. ม.39(3)
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้
จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ย่อมมีผลเท่ากับว่า
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์
จึงต้องห้ามมิให้คู่ความฎีกา
ตาม ป.วิ.อ. ม.220
(คำพิพากษาศาลฎีกาของสำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ปี 2542 เล่ม 3 หน้า 56)
|