สารศิลปยาไทย

ฉบัีบที่ ๑๘

 

พริกขี้หนู

     ชื่อวิทย์    Capsicum  frutescens Linn.
       ชื่อวงศ์    SOLANACEAE
       ชื่ออื่น     พริกนก, พริกแด้, ดีปลี,ดีปลีนก

 

สมาคมผผู้ประกอบโรคศิลปแผนไทย
เชียงใหม่

 

 














 

มนุษย์ต้องทำงาน
มนุษย์ฉลาดทำงานด้วยความเต็มใจ
มนุษย์ไม่ฉลาดทำงานด้วยความจำใจ







 

 








พริกขี้หนู

    ชื่อวิทย์   Capsicum  fretescens Linn.
    ชื่อวงศ์   SOLANACEAE
    ชื่อทั่วไป  พริกนก พริกแด้ ดีปลี ดีปลีขี้นก
                 พริกขี้นก พริกแจว

สรรพคุณ

ผล




ต้น


ผงถ่านพริกขี้หนู 



รสเผ็ดร้อน แก้ลมจุกเสียด แก้ท้องขึ้นอืดเฟ้อ ขับผายลม เจริญอาหาร ผสมวาสลินใช้ทาถูนวด แก้เคล็ดขัดยอก ฟกช้ำดำเขียว แก้ปวดตามข้อ ทำให้การไหลเวียนของเลือด ดีขึ้น

สุมเป็นถ่านแช่น้ำ ขับปัสสาวะ แก้กระษัย แก้เส้น เอ็นพิการปวดเมื่อยตามร่างกาย

ใช้กินกับน้ำส้มสายชู เพื่อขับน้ำคาวปลาให้ตก ถ้าน้ำ คาวปลาไม่ตกในสตรีคลอดบุตร จะทำให้มีอาการหน้า มืด กัดกรามแน่น จุกแน่นในท้องในอก รู้สึกอึดอัด ใจคอหงุดหงิด หนาวสั่น แน่นอก หูดับ เป็นลมหลับ ผลอยไป แก้ไม่ทันอาจถึงสิ้นชีิวต


 

 

 



ความลับของพริกขี้หนู

๑.   แก้ปวดหัว ปวดหัวเนื่องมาจากไข้หวัด หรือตััวร้อน ใช้ใบพริกขี้ หนูสดๆ ตำกับดินสอพองปิดขมับ

๒.   แก้เจ็บคอ เสียงแหบ   ใช้น้ำต้มหรือยาชงพริกขี้หนู กลัวคอแก้ เจ็บคอและเสียงแหบได้ โดยใช้พริกขี้หนูป่น ๑ หยิบมือ เติมน้ำเดือดลง ไป ๑ แก้ว ทิ้งไว้พออุ่น ใช้น้ำกลัวคอ

๓.   ช่วยขับลม  แก้อาหารไม่ย่อย เจริญอาหาร โดยกินพริกขี้หนูสวน รักษากระเพาะที่ไม่มีกำลังย่อยอาหาร

๔.   แก้ปลาดุกยัก  ใช้พริกขี้หนูสดเขียวหรือแดงก็ได้ ขยี้ตรงที่ปลาดุก แทงจะหายปวด ขยี้แล้วจะรู้สึกเย็น(ธรรมดาพริกขี้หนูร้อน) ไม่บวม ไม่ฟกช้ำด้วย

๕.   แก้เท้าแตก  ใช้พริกขี้หนูทั้ง ๕ ปูนขาว สื่งละพอควร เอาไปต้ม เอาน้ำมาแช่เท้าที่แตก ถ้าไม่หายเอาต้นสลัดได รากหนอนตากยาก ใส่ลงไปด้วย

๖.   แก้บวม  ใบพริกขี้หนู บดผสมนำ้มะนาว พอกบริเวณที่บวม

๗.   รักษาแผลสดและแผลเปื่อย  ใช้ใบพริกขี้หนู ตำพอกรักษาแผล สดและแผลเปื่อย(อย่าใช้พริกขี้หนูปิดแผลมากเกินไปเพราะจะทำให้ร้อน

๘.   ใบ้ใบเป็นอาหาร  ใบพริกขี้หนูมีคุณค่าทางอาหารสูงมาก เพราะมี ธาตุ แคลเซี่ยม ฟอสฟอรัส ไวาตามินเอ และบีอยู่มาก บำรุงกระดูก บำรุง ประสาท

๙.   แก้พิษตะขาบและแมลงป่องกัด  ใช้พริกขี้หนููแห้ง ตำผงละลาย น้ำมาะนาว ทาแผลตะขาบกัด แมลงป่องต่อย หายเจ็บปวดดีนัก

๑๐. มดคันไฟกัด   ใช้ใบหรือดอกพริกขี้หนูก้ได้ ถูบริเวณถูกกัด หายแล

 

 

 


ตำรับยาพริกขี้หนูขับน้ำคาวปลา


ตัวยา


วิธีปรุงยา


วิธีใช้



ข้อห้ามใช้


ข้อควรรู้เกี่ยวกับยา




วิธีทำผงถ่านพริกขี้หนู   

๑.  พริกขี้หนู(ผงถ่าน)           ๑    ช้อนโต๊ะ
๒.  น้ำส้มสายชู                    ๑    ถ้วยชา

นำผงถ่านพริกขี้หนู ๑ ช้อนโต๊ะ ผสมกับ น้ำส้มสายชู ๑ ถ้วย ชา

กินครั้งละ ๑/๒ - ๑ ถ้วยชา  กินครั้งเดียว ครั้งต่อไปให้ใช้ เหล้าแทนน้ำส้มสายชู กิน วันละ ๒-๓ ครั้ง

ห้ามกินยานี้ก่อนคลอด เพราะจะทำให้ คลอดลูก ไม่ออก ทำให้ถึงตายได้

ให้กินพริกขี้หนูกับน้ำส้มสายชู เพียงครั้งเดียว เพราะน้ำส้มสายชูมีฤทธิแรง กินบ่อยๆ จะเป็น อัน ตราย ส่วนการใช้เหล้า จะมีฤทธิ์อ่อนกว่า เหมาะ ที่จะใช้บ่อยๆได้

เอาพริกขี้หนูแห้ง ๑ กำมือ ใส่กระทะตั้งไฟ จน ควันขึ้น จุดไม้ขีดแหย่ลงไป พริกขี้หนูจะ ติดไฟ ทิ้งไว้สักพักจนเห็นว่า ไหม้ดำเป็นถ่าน หมด จึงตักออกจากกระทะใส่จาน หากะลา หรือถ้วยครอบพริกเผา เอาไว้จนไฟดับหมด จึงเอามาบดให้ละเอียด จึงได้ผงถ่านพริกขี้หนู ตามต้องการ


 


 

 

 


ยาลดความอ้วนบำรุงร่างกาย

 

๑.  บอระเพ็ด
๒.  มะตูมอ่อน
๓.  หัวกระชาย
๔.  หัวแห้วหมู
๕.  เหงือกปลาหมอ
๖.  พริกไทย





๑๐
๑๐
บาท
บาท
บาท
บาท
บาท
บาท

        วิธีทำ  บดเป็นผง ผสมน้ำผึ้งปั้นเป็นเม็ด ขนาดเม็ดพุทรา

        ขนาดรับประทาน   ครั้งละ ๑ เม็ดก่อนนอน

        สรรพคุณ   ลดความอ้วน เพิ่มความแข็งแรงของร่างกาย

 

 

 

 



ของฝากจาก
อ.สุรเกียรติ อาชานุภาพ

 

คาถาเยี่ยมไข้

     วิกฤติคือโอกาส

สังขารย่อมแปรเปลี่ยน

   จงตั้งสติมั่น

โรคกายให้รักษา

   ภาระปัจจุบัน

พยุงใจให้ดีดี

โรคาพาธคือบทเรียน

มองให้เห็นเป็นธรรมดา

อย่าครั่นคร้ามสิ่งตามมา

ตามมรรคาอันว่าดี

จงหมั่นเจริยสติ

ทุกนาทีสุขีจัง

 

 

 

 

 



การงานคือการปฎิบัติธรรม


อันการงาน  คือคุณค่า  ของมนุษย์
ของมีเกียรติ  สุงสุด   อย่าสงสัย
ถ้าสนุก ด้วยการงาน  เบิกบานใจ
ไม่เท่าไร   ได้รู้ธรรม  ฉ้ำซึ้งจริง

เพราะการงาน  เป็นตัวการ  ประพฤติธรรม
กุศลกรรม  กล้ำปนมา   มีค่ายิ่ง
ถ้าจะเปรียบ  ก็เปรียบคน  ฉลาดยิ่ง
นัดเดียววิ่ง  เก็บนก  หลายพกมา

คือการงาน  นั้นต้องทำ  ด้วยสติ
มีสมาธิ  ขันติ  มีอุตส่าห์
มีสัจจะ มีทมะ  มีปัญญา
มีศรัทธา  และกล้าหาญ  รักงานจริง



 

HOME