








|
ชีวิตและสุขภาพ > โรคน่ารู้
โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (1)
|
 |
- ซิฟิลิส (Syphilis)
- หนองใน (Gonorrhoea)
- แผลริมอ่อน (Chancroid)
- กามโรคของต่อมและท่อน้ำเหลือง (Lymphogranuloma venereum)
- แผลกามโรคเรื้อรังที่ขาหนีบ (Granuloma inguinale)
- หนองในเทียม (Non-Specific Urethritis)
- เชื้อราในช่องคลอด (Vaginal candidiasis)
- หิด (Scabies)
- พยาธิในช่องคลอด (Vaginal trichomoniasis)
ซิฟิลิส (Syphilis)
สาเหตุ
เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่มีชื่อว่า Treponema pallidum
ระยะฟักตัว
ประมาณ 10 - 90 วัน
การติดต่อ
- โดยทางเพศสัมพันธ์
- มารดาที่กำลังตั้งครรภ์ และเป็นโรคซิฟิลิส ทารกจะติดโรคไปด้วย
อาการ
- มีแผลที่อวัยวะเพศ และอาจเกิดที่อื่นๆ แผลไม่เจ็บ ถ้าไม่ได้รับการรักษาก็หายได้เอง
- มีผื่นขึ้นทั่วตัว ที่ฝ่ามือ ฝ่าเท้า ไม่เจ็บ ไม่คัน ผมร่วง คิ้วร่วง ฯลฯ อาการเหล่านี้จะหายได้เอง แต่เชื้อยังคงอยู่ในร่างกาย ดังนั้น ถ้าตรวจเลือดจะพบว่า "เลือดบวก"
- หากปล่อยทิ้งไว้ไม่ได้รับการรักษา โรคจะลุกลาม ทำลายอวัยวะที่สำคัญของร่างกาย เช่น หัวใจ เส้นเลือด สมอง กระดูก ทำให้พิการและตายได้
ซิฟิลิสแต่กำเนิด
ทารกที่ติดโรคซิฟิลิสจากมารดา ทำให้ทารกแท้งหรือตายได้ ทารกบางคนที่รอดชีวิตเมื่อโตขึ้น อาจจะดั้งจมูกยุบ ปากแหว่ง เพดานโหว่ ตาบอด
Back
หนองใน (Gonorrhoea)
สาเหตุ
เกิดจากแบคทีเรียที่มีชื่อว่า Neisseria gonorrhoeae
ระยะฟักตัว
ประมาณ 2-10 วัน (โดยทั่วไป 5 วัน)
การติดต่อ
โดยทางเพศสัมพันธ์
อาการ
ในผู้ชาย: จะมีอาการปัสสาวะขัด แสบ มีหนองไหลจากท่อปัสสาวะ ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการแทรกซ้อน เช่น ต่อมลูกหมากอักเสบ เป็นฝีที่ผนังของท่อปัสสาวะ ท่อปัสสาวะตีบตัน อัณฑะอักเสบ จนทำให้เป็นหมันได้
ในผู้หญิง: จะมีอาการตกขาวมีกลิ่นเหม็น ไม่คัน มีการอักเสบที่ท่อปัสสาวะ ปาดมดลูก ทวารหนัก ผู้ป่วยบางรายมีอาการแทรกซ้อน เช่น ต่อมบาร์โทลินอักเสบ ปีกมดลูกอักเสบ ถ้ามีอาการอักเสบรุนแรง เมื่อหายแล้วอาจทำให้ท้องนอกมดลูกได้
ในทารกแรกเกิด: เชื้อหนองในอาจเข้าตา ขณะคลอดผ่านช่องคลอดมารดาที่มีเชื้อหนองในอยู่ ถ้าไม่รีบรักษาอาจตาบอดได้
Back
แผลริมอ่อน (Chancroid)
สาเหตุ
เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่มีชื่อว่า Haemophilus ducreyi
ระยะฟักตัว
ประมาณ 4 - 7 วัน
การติดต่อ
ทางเพศสัมพันธ์
อาการ
จะมีแผลเล็กๆ ที่อวัยวะเพศ คล้ายแผลเปื่อย ขอบไม่แข็ง และไม่เรียบ มีเลือดออก เจ็บปวดมาก มักมีหลายแผล บางคนต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบบวมเป็นฝี เมื่อฝีแตกจะเป็นแผลใหญ่
Back
กามโรคของต่อมและท่อน้ำเหลือง (Lymphogranuloma venereum)
สาเหตุ
เกิดจากแบคทีเรียที่มีชื่อว่า Chlamydia trachomatis
ระยะฟักตัว
ประมาณ 3 - 30 วัน
การติดต่อ
โดยทางเพศสัมพันธ์
อาการ
จะมีตุ่มนูน ตุ่มใสหรือแผลเกิดขึ้นที่อวัยวะเพศ และหายไปเองภายใน 2-3 วัน ต่อมาต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบจะบวมเป็นฝี เจ็บมาก ผิวหนังบริเวณที่เป็นฝีจะมีอาการอักเสบ บวม แดง ร้อน บางรายฝีอาจยุบหายได้เองภายใน 2-3 สัปดาห์ หรือเป็นเดือน แต่บางรายฝีอาจแตกมีหนองไหลกลายเป็นแผลเรื้อรัง ลุกลามจนทำให้ทวารหนักอักเสบตีบตัน ถ่ายอุจจาระไม่ออก
Back
แผลกามโรคเรื้อรังที่ขาหนีบ (Granuloma inguinale)
สาเหตุ
เกิดจากแบคทีเรียที่มีชื่อว่า Calymmato bacterium granulomatis
ระยะฟักตัว
ประมาณ 2 สัปดาห์ ถึง 6 เดือน
การติดต่อ
โดยทางเพศสัมพันธ์
อาการ
เป็นแผลเรื้อรังที่อวัยวะเพศ ขาหนีบ ซอกขา หรือบริเวณหน้า คอ ปาก ปัจจุบันยังไม่มีรายงานว่า พบผู้ป่วยโรคนี้ในประเทศไทย
Back
หนองในเทียม (Non-Specific Urethritis)
สาเหตุ
เกิดจากเชื้อโรคหลายชนิด แต่ส่วนใหญ่เกิดจากแบคทีเรียที่มีชื่อว่า Chlamydia trachomatis
ระยะฟักตัว
ประมาณ 1 - 4 สัปดาห์
การติดต่อ
โดยทางเพศสัมพันธ์
อาการ
ในผู้ชาย: จะมีอาการแสบที่ปลายท่อปัสสาวะ ปัสสาวะขัด มีหนองไหล หนองมักจะเป็นมูกใส หรือมูกขุ่นๆ ไม่เป็นหนองข้นแบบหนองใน บางคนอาจมีอาการแสบที่ท่อปัสสาวะ และมีมูกออกเล็กน้อย โดยเฉพาะในช่วงเช้า
สำหรับผู้หญิง: ส่วนมากมักไม่มีอาการแสดง ส่วนน้อยอาจมีตกขาว
วิธีป้องกัน
- หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์
- ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งเมื่อมีการร่วมเพศ
- รักษาความสะอาดของร่างกาย และอวัยวะเพศอย่างสม่ำเสมอ
การปฏิบัติตัว ขณะที่ป่วยและรักษา
- งดการร่วมเพศโดยเด็ดขาด รวมทั้งการสำเร็จความใคร่ด้วยตนเอง เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโรค และการอักเสบลุกลาม
- งดดื่มเหล้า เบียร์ และของมึนเมาทุกชนิด
- รักษาอวัยวะเพศ และบริเวณใกล้เคียงให้สะอาดและแห้ง
- นำคู่นอนไปตรวจและรักษาโดยเร็ว
- ในผู้ชาย: ห้ามรีดอวัยวะเพศ เพื่อดูหนองเป็นอันขาด เพื่อป้องกันการอักเสบลุกลาม และให้กลั้นปัสสาวะ อย่างน้อย 4-6 ชั่วโมง ก่อนมาตรวจครั้งต่อไป
- อย่าซื้อยารักษาตนเอง ให้ตรวจรักษากับแพทย์เท่านั้น
- ไปรับการตรวจตามนัดทุกครั้ง และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
ควรได้รับการตรวจเลือดเมื่อ:-
- ก่อนแต่งงาน
- เมื่อเริ่มตั้งครรภ์ (ไม่ควรเกิน 3 เดือน)
- เมื่อมีเพศสัมพันธ์กับบุคคลอื่น โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัย
- เมื่อสงสัย หรือมีอาการผิดปกติ
Back
เชื้อราในช่องคลอด (Vaginal candidiasis)
สาเหตุ
เกิดจากเชื้อรา Candida albicans
การติดต่อ
จากการสัมผัสทางเพศกับผู้ป่วย
อาการ
ในผู้หญิง: จะมีอาการคันมากน้อยต่างกันไป บางคนมีอาการปวดแสบ ปวดร้อน ระคายเคือง มีปัสสาวะขัด หรือบ่อยกว่าปกติ เจ็บในช่องคลอด ระหว่างร่วมเพศ อาจมีตกขาวใสๆ หรือขาวข้น เป็นหนอง อาการที่พบบ่อยที่สุด คือ บริเวณปากช่องคลอด มีสีแดงจัด บางรายพบได้ที่ขาหนีบ ต้นขารอบทวารหนัก และหัวเหน่า
ในผู้ชาย: มีอาการคันปวดแสบ ปวดร้อน หรือเจ็บที่อวัยวะเพศ บางครั้งมีเมือกสีขาว หรือมีหนองเล็กน้อยออกจากท่อปัสสาวะถุงอัณฑะ ขาหนีบอาจมีผื่นแดงเป็นขุย
Back
หิด (Scabies)
สาเหตุ
เกิดจากตัวไรชนิดหนึ่งชื่อ Sarcoptes scabiei
ระยะฟักตัว
ประมาณ 2-6 สัปดาห์
การติดต่อ
โดยการสัมผัสใกล้ชิด หรือสัมผัสทางเพศ
อาการ
จะมีตุ่มน้ำใส และตุ่มหนอง คัน ขึ้นกระจายทั้ง 2 ข้างของร่างกาย มักจะพบที่ง่ามนิ้วมือ นิ้วเท้า ข้อศอก รักแร้ รอบหัวนม ก้น อวัยวะสืบพันธุ์ ข้อเท้า หลังเท้า ผู้ป่วยมักมีอาการคันมาก โดยเฉพาะตอนกลางคืน
Back
พยาธิในช่องคลอด (Vaginal trichomoniasis)
สาเหตุ
เกิดจากเชื้อโปรโตซัว ชื่อ Trichomonas vaginalis
การติดต่อ
สัมผัสทางเพศกับผู้ป่วย
อาการ
ในผู้หญิง: จะมีอาการตกขาวผิดปกติ มีกลิ่นเหม็น ระคายเคืองบริเวณอวัยวะเพศ เจ็บปวดเวลาร่วมเพศ คัน แสบปากช่องคลอด
ในผู้ชาย: จะมีอาการเพียงเล็กน้อย มีของเหลวเป็นเมือกใสไหลออกมา หรือมีเมือกปนหนอง มีอาการคัน หรือเจ็บในท่อปัสสาวะ
Back
ข้อมูล: กองกามโรค กรมควบคุมโรคติดต่อ กระทรวงสาธารณสุข
| |
ข่าวสุขภาพ
|