







- เครื่องปรับอากาศ

|
 |
(สหรัฐ) แม้ว่าวิธีการเล่นของเล่นสำหรับเด็กๆ นั้นอาจยังคงเหมือนเดิม แต่ว่ากฎเกณฑ์
ในด้านความปลอดภัยอาจเปลี่ยนแปลงไปบ้าง เช่นปัจจุบันจะไม่ค่อยได้เห็นเด็กๆ เล่นลูกหิน หรือลูก
แก้วกันเท่าไหร่นัก เพราะผู้ปกครองอาจกลัวว่าลูกจะอมเข้าไป และง่ายต่อการ
ลื่นเข้าปาก แต่แม้ว่ามาตรฐานความปลอดภัยสำหรับของเล่นจะปรับปรุงให้เข้ากับยุคสมัย
แต่ก็ยังคงมีเด็กจำนวนมากกว่า 121,000 คน ที่อายุต่ำกว่า 14 ขวบเข้ารับการรักษาในแผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลในแต่ละปี
ของเล่นที่อันตรายชนิดหนึ่งสำหรับเด็กๆ ก็คือ ลูกโป่ง โดยเฉพาะลูกโป่งที่ผลิตจากวัสดุ Latex (เป็นยางชนิดที่ใช้ผลิตถุงมือยาง)
โดยDr Ellen Schuman โฆษกของสถาบันกุมารแพทย์ระบุว่า เป็นเรื่องง่ายมากที่เด็กจะเคี้ยวเล่นเศษลูกโป่งที่แตกแล้ว และหากเผลอกลืนเข้าไป
อาจทำให้อุดหลอดลมได้ นอกจากนั้นยังไม่แนะนำให้ซื้อของเล่นประเภทรถที่มีแบตแตอรี่ ซึ่งเด็กสามารถเข้าไปนั่งและขับขี่ไปเรื่อยๆ
ที่จัดว่าไม่ปลอดภัยเพราะว่าเด็กๆ ยังไม่สามารถกะระยะทางเองได้ เนื่องจากยังไม่มีทักษะทางด้านนี้
สาเหตุอีกประการหนึ่งก็คือ ของเล่นไม่เหมาะสมกับวัยของเด็ก โดย Angela Mickalide ซึ่งเป็น Program Director ของ National Safe Kids Campaign
ระบุว่า ปัญหาก็คือว่า เมื่อซื้อของเล่นสำหรับเด็กที่อายุมากกว่าไปให้เด็กที่อายุน้อยกว่าเล่น ของเล่นชนิดนั้น อาจจะมีชิ้นส่วนเล็กๆ
ที่เด็กเล็กๆ สามารถกลืนเข้าปากด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือของเล่นอาจมีมุมที่แหลมคม อาจบาดมือ, ทิ่มตำได้ ถ้าไม่ระวัง
หรือมีแผ่นเหล็กเล็กที่อาจหลุดออกมาได้ ทั้งนี้เป็นสิ่งที่ควรคำนึงเวลาเลือกซื้อของเล่นให้ลูก ปัญหาอาจจะเกิดเพราะบางครั้งผู้ปกครองเดินเข้าไปในร้านของเล่น
แล้วเห็นฉลากแนะนำติดไว้ที่เล่นว่าเหมาะสมกับเด็กอายุ 4 ขวบขึ้นไป แต่ก็ยังซื้อไปให้ลูกอายุ 2 ขวบเล่น เพราะคิดว่าลูกเราฉลาด คงเล่นได้
และยังสามารถเล่นได้อีกตั้งนานอีกด้วย หรือญาติๆ ซื้อมาให้เด็กโดยที่ไม่ดูอายุว่าเหมาะสมหรือไม่ ฉะนั้น ควรศึกษาข้อแนะนำเบื้องต้นต่อไปนี้
คำแนะนำเบื้องต้น สำหรับพิจารณาว่าของเล่นใดเหมาะสมกับอายุของเด็กวัยใด
อ่านข่าวอื่นประจำสัปดาห์นี้
เตือนภัยใกล้ตัวคนกรุงเสี่ยงไวรัสเอ
ระบุสายการบินดองปัญหาอีโคโนมีซินโดรมนาน 30 ปี
- ร้านเสริมสวยส่วนใหญ่ไม่ได้มาตรฐาน
- สธ. พบเด็กกทม. 40% ดูทีวีวันละ 2 ชั่วโมงขึ้นไป
- กินฟาส์ตฟูดทำให้เด็กกระดูกนิ่ม
|
|
|