







- เครื่องปรับอากาศ

- ขับรถตอนกลางคืน 
|
การวางแผนกลับไปทำงานหลังจากลาคลอด |
การกลับไปทำงานต่อหลังจากลาคลอด
และต้องทิ้งลูกน้อยของคุณให้อยู่ในความดูแลของผู้อื่น
นับเป็นสิ่งที่ลำบากใจไม่น้อยสำหรับคุณ
แต่ว่าในปัจจุบันนี้ คุณแม่ทั้งหลายส่วนมากก็มักจะทำงานนอกบ้านกันทั้งนั้น จึงนับเป็นข้อดีที่ได้รับรู้ว่าไม่ใช่คุณคนเดียวที่ตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ นี่คือคำแนะนำที่จะช่วยให้คุณรู้สึกดีขึ้น
ก่อนที่คุณจะกลับไปเริ่มงานอีกครั้ง มีอยู่ 2-3
เรื่องที่คุณสามารถจะทำได้เพื่อให้การกลับไป
ทำงานหลังจากลาคลอดของคุณเป็น ไปอย่างราบรื่นเท่าที่จะเป็นไปได้
1) ติดต่อกับเพื่อนร่วมงานสม่ำเสมอ
เป็นความคิดที่ดีในการติดต่อกับเพื่อน
ร่วมงานอย่างสม่ำเสมอไม่ว่าจะเป็นเจ้านาย
หรือเพื่อนร่วมงานระหว่างที่คุณลาคลอด
เพื่อคุณจะได้ทราบข่าวคราวการเปลี่ยนแปลงด้านบุคลากร
หรือแผนงานของบริษัทในอนาคตอันใกล้
พาลูกไปแวะทักทายเพื่อนร่วมงานบ้าง (ถ้าเป็นไปได้) หรือโทรศัพท์ไปคุยเป็นครั้งคราว
2) หาความรู้เพิ่มเติม
ถ้าการกลับไปเริ่มงานใหม่ของคุณเป็นไปหลังจากที่คุณลาคลอด 3 เดือนเต็ม (90 วัน)
คุณอาจวิตกกังวลเพิ่มอีกข้อ
คือรู้สึกสูญเสียความเชื่อมั่นในตัวเอง
และความเชื่อมั่นในความสามารถของคุณที่จะทำงาน
ให้ประสบความสำเร็จ ทั้งนี้เพราะตลอดเวลาที่
ผ่านมาคุณมัวแต่ยุ่งอยู่กับการเปลี่ยนผ้าอ้อม,
อาบน้ำ สระผมลูก ให้นมลูก จิปาถะ
สิ่งหนึ่งที่ช่วยคุณได้คือ พยายามหาความรู้เพิ่มเติม
เช่นติดตามความเคลื่อนไหวของธุรกิจ จากนสพ.ธุรกิจ
หรือฟังรายการวิทยู, ดูทีวีที่ให้ความรู้ด้านธุรกิจ หรือข่าวคราวที่เป็นประโยชน์
3) ยืดหยุ่นการกลับไปเริ่มงาน
นายจ้างบางรายอาจเสนอให้คุณกลับมาทำงานเป็นช่วงๆ
เช่น 2-3 ชั่วโมงต่อวันก่อนที่จะเริ่มงานประจำเต็มเวลา
เป็นการดีถ้าคุณรับข้อเสนอนี้ เป็นการปรับเวลาระหว่างคุณกับลูก
หรือขอทำงาน part-time ประมาณ 1-2 อาทิตย์
แต่ทั้งนี้คุณต้องแจ้งให้นายจ้างทราบล่วงหน้าและ ได้รับการอนุมัติถึงวันที่คุณจะกลับมาเริ่มงานอีกครั้ง
4) จัดตารางเวลาให้พร้อม
เมื่อใกล้ถึงเวลาที่คุณต้องกลับมาเริ่มงานอีกครั้ง คุณควรวางแผนในการจัดตารางเวลาของชีวิตประจำวันกับคู่ของคุณให้ชัดเจน ตกลงกันว่าใครจะเป็นผู้ไปรับ-ส่งลูกของคุณถ้าคุณฝากลูกไว้ที่สถานรับเลี้ยงเด็ก และควรเช็คกันล่วงหน้าเพื่อป้องกันการเขาใจผิดคิดว่าอีกคนจะไปรับลูก นอกจากนั้นควรวางแผนว่าใครจะรับผิดชอบในกิจกรรมอะไร
วันใดบ้าง รวมทั้งใครจะพาลูกไปฉีดวัคซีน
หรือตรวจสุขภาพเป็นระยะๆ ถ้าหากคุณทำงานนอกบ้านด้วยกันทั้งคู่
หรือแม้แต่การพูดคุยกันว่า ใครจะผลัดกันตื่นขึ้นมาดูแลลูก,
ชงนม (ถ้าคุณให้นมผสม) ในคืนไหน
อย่างน้อยคุณจะได้นอนหลับสบายตลอดคืนเว้นคืน
ซึ่งจะช่วยให้คุณเหนื่อยน้อยลงจากการต้องทำงานทั้งวัน
(คุณพ่ออ่านแล้วคงไม่ว่ากันนะคะ การเลี้ยงลูกเป็นงานที่ต้องช่วยกันทั้งสองฝ่ายค่ะ)
5) การจัดการกับปัญหาฉุกเฉิน
ไม่ว่าคุณจะวางแผนไว้ล่วงหน้าอย่างดีประการใด
อาจจะต้องมีเหตุการณ์บางอย่างที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้
เช่น ความเจ็บป่วย คุณควรจดเบอร์โทรศัพท์ที่จำเป็น
เช่น เบอร์โทรศัพท์ที่ทำงาน, เบอร์โทร.หมอเด็กประจำตัวลูกคุณ,
หมอฟัน, รพ.ที่ใกล้ที่สุดกับบ้านของคุณ, รวมทั้งเบอร์เพื่อนฝูง
ญาติพี่น้องที่อยู่ใกล้บ้านคุณซึ่งสามารถที่จะมาช่วยดูแล
ลูกคุณในช่วงฉุกเฉินหากคุณติดงานหรือยังมาไม่ถึง
ควรติดเบอร์เหล่านี้ไว้ในที่เห็นได้ชัด เช่นใกล้โทรศัพท์ หรือหน้าตู้เย็น
6) ความกังวลเรื่องอาหารการกินของลูก
การวางแผนเรื่องอาหารสำหรับลูกคุณนั้น ขึ้นอยู่กับอายุและการพัฒนาของลูกคุณในแต่ละช่วงกล่าวคือ
หากลูกคุณอยู่ในระยะให้นมแม่ และคุณต้องการให้นมแม่ต่อไป
คุณอาจจะต้องปั๊มนมแม่ขณะอยู่ที่ทำงาน
ฉะนั้นควรลงทุนซื้ออุปกรณ์ปั๊มนมที่มีประสิทธิภาพ
หากคุณไม่มีห้องทำงานส่วนตัวเฉพาะ
ลองติดต่อแผนก HR/Admin.เพื่อขอใช้ห้องที่ค่อนข้าง
จะให้ความส่วนตัวได้ เช่น ห้องพยาบาล (ถ้าบริษัทคุณมี)
หรือห้องประชุมเล็กๆ ที่ยังไม่ใครใช้และสามารถล็อคได้
บอก Admin. หรือผู้ที่ดูแลห้องเหล่านี้ว่า
คุณต้องการใช้ห้องนี้ไม่เกิน 30 นาที และทุกๆ 3 ชั่วโมง เพื่อคุณจะได้ไม่ต้องกังวลว่าจะมีใครได้ยินคุณปั๊มนมขณะอยู่ในห้องน้ำ
แต่ถ้าคุณไม่สามารถหาห้องได้จริงๆ ล่ะก็ คงต้องพึ่งพาห้องน้ำนั่นล่ะค่ะ เพียงแต่ต้องล้างมือให้สะอาดก่อนและหลังการ
ปั๊มนมทุกครั้ง
หากคุณให้ลูกทานนมแม่และนมผสม (นมขวด) คุณควรวางแผนแต่เนิ่นๆ
โดยการให้นมแม่สลับกับนมขวดประมาณ 2-3 อาทิตย์ก่อนกลับมาทำงาน จะเป็นการให้โอกาสลูกคุณในการปรับตัวด้วยเช่นกัน
อาหารเสริม
กรณีนี้อาจเกิดกับคุณที่ลาคลอด 90 วัน และลาเพิ่มอีก 45 วัน (โดยไม่ได้รับเงินเดือนแต่คุณต้องมีใบรับรองแพทย์ยืนยันในการลาเพิ่ม) คุณจะต้องวางแผนการให้อาหารเสริมกับผู้ที่ดูแลลูกของคุณ
โดยอาจเขียนโน้ตให้ชัดเจนว่า ลูกคุณจะทานอะไร,
มากน้อยแค่ไหน, เวลาใด และลูกคุณชอบหรือไม่ชอบอะไร
ถ้าคุณต้องการควบคุมให้มากกว่านี้ คุณควรเตรียมอาหารเสริมด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นอาหารเสริมที่มีขายตามซุปเปอร์มาร์เก็ต หรือชนิดที่คุณทำเอง
7) บุคลิกภายนอกของคุณ
ก่อนที่คุณจะกลับมาทำงาน ควรสำรวจตู้เสื้อผ้าของคุณ
เพื่อเช็คดูว่าเสื้อผ้าคุณยังเรียบร้อยดีหรือไม่
กระดุมครบทุกเม็ดหรือไม่ มีรอยปริแยกตรงไหน
ถ้ามีควรจัดการซ่อมแซมให้เรียบร้อย,
เสื้อผ้า - ควรซักรีดหรือซักแห้ง, รองเท้า - ถ้าสึกหรอก็นำไปซ่อมให้ดูดี
ถ้าลองสวมรองเท้าแล้วรู้สึกคับไป ควรซื้อใหม่ 1-2 คู่ ฯลฯ
หวังว่านี่จะช่วยให้คุณหายตื่นตกใจและ
ช่วยเรียกความมั่นใจของคุณให้กลับมาอีก ครั้งหลังจากที่คุณหยุดงานเป็นเวลานาน
8) เมื่อคุณกลับมาทำงาน
อย่าคาดหวังว่าทุกสิ่งทุกอย่างจะต้องกลับมาราบรื่นเหมือนเดิมในทันที คุณต้องปรับตัวให้เข้ากับงานหนักและความเคยชินที่จะต้องอยู่ห่างลูกคุณตลอดวัน
9) ขอให้ลดความวิตกกังวลลงบ้าง ผู้ที่ดูแลลูกแทนคุณจะเข้าใจหากคุณต้องการโทร.
กลับไปเช็คลูกคุณในตอนกลางวันหรือหลายครั้ง
แต่หลังจาก 3-4 อาทิตย์แรกผ่านไปคุณควรพยายามลดการโทร.ลง
เพื่อแสดงว่าคุณไว้ใจขึ้น อาจเป็นวันละ 1-2 ครั้ง ในการถามว่าลูกคุณเป็นอย่างไรบ้าง
10) รับมือกับความเหน็ดเหนื่อย
ความเหน็ดเหนื่อยจะเป็นศัตรูตัวร้ายกาจของคุณเลยทีเดียวในช่วง 2-3
เดือนแรกที่กลับไปทำงาน คุณควรเข้านอนแต่หัวค่ำ,
จัดลำดับความสำคัญของงาน, มอบหมายงานให้ลูกน้องหรือผู้อ่านทำบ้าง
ให้เวลาสำหรับตัวเองได้พักผ่อนบ้าง เช่น นอนแช่น้ำอุ่น, อ่านหนังสือที่อยากอ่าน
หวังว่าวิธีต่างๆ ที่นำเสนอไปนั้นคงจะช่วยให้คุณลดความวิตกกังวลลงได้บ้างนะคะ หากคุณมีเทคนิคที่ต้องการแชร์ให้คุณแม่ท่านอื่นๆ ได้รับทราบ หรืออยากเขียนเล่าถึงความรู้สึกเป็นกังวลเมื่อคุณต้องกลับไปทำงาน ส่ง E-mail มาคุยกันได้นะคะ
สำหรับคุณที่กำลังจะกลับไปทำงานอีกครั้งหลังจากลาคลอด ขอให้โชคดีกับการกลับไปเริ่มงานอีกครั้งค่ะ!
|
|
|