ขาโก่งออกนอก สามารถเกิดจากโรคได้หลายสาเหตุ โรคที่เป็นเหตุให้ขาโก่งในเด็กที่พบบ่อยได้แก่โรค
เบลาท์ (Blount disease)
ส่วนสาเหตุอื่นๆเช่น โรค osteogenic imperfecta(กระดูกอ่อน) , metaphyseal dysplasia,ricket,achondroplasia,
หรือพวกเนื้องอก เช่น fibrous dysplasia ,bone cyst, enchondroma หรือ การติดเชื้อที่กระดูก
สุดท้ายส่งผลให้ เยื่อเจริญกระดูกที
ส่วนต้นของ tibia เจริญไม่สมดุล ทำใ้ห้ขาโก่ง หรืออาจเกิดตามหลังอุบัติเหตุที่มีการแตกหักของกระดูกเข้าไปในเยื่อเจริญ
ในที่นี้จะให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโรค เบลาท์ (blount) โดยละเอียด
เนื่องจากพบบ่อยและสร้างความสับสนให้กับแพทย์ ทั่วไป
เนื่องจากเป็นโรคที่ไม่หายเอง และ่ในระยะเริมต้นของโรค จะ แยกออกได้ยากจากภาวะขาโก่งแบบธรรมชาติ
(physiologic bowleg) ซึ่งหายได้เอง
ขาโก่งออกนอกแบบเป็นโรค Pathologic Genu varum
Blount disease (tibia vara or osteochondrosis deformans tibiae)
รายงานครั้งแรกโดย Erlacher ในปี 1922 ได้รับการวิเคราะห์รายละเอียดโดย Blount
ในปี 1937 มีอยู่ 2 รูปแบบด้วยกัน
1.infantile tibia vara ขาโก่งออกนอกที่เกิดขึ้นในช่วงอายุ 1-3 ปี เป็นรูปแบบที่พบบ่อยและแยกยากจาก
physiologic bowleg
มักเป็นกับขาทั้งสองข้างถึง 80 เปอร์เซนต์ ความโก่งจะมากขี้นเรื่อยๆเมื่ออายุโตขี้น
ไม่หาย กระดูกขา tibia จะหมุนเข้าใน
สาเหตุ ยังไม่สามารถตอบได้ชัดเจนร้อยเปอร์เซนต์ พบว่าเยื่อเจริญทางด้านในของกระดูก
tibia มีการเจริญที่ผิดปกติ คือเจริญได้
ช้า มักพบในเด็กที่อ้วน และยืนเดินเร็ว
ถ้าปล่อยไว้ไม่ได้รักษา ขาโก่งจะเป็นมากขึ้นดังภาพ เยื่อเจริญด้านในของกระดูก tibia
จะผิดรูป ในขณะที่ด้านนอกเจริญดี
จึงทำให้ความโก่งมากขึ้น
2.adolescent tibia vara เกิดในเด็กช่วงอายุ 8-14 ปี พบน้อยกว่ามาก มักเป็นข้างเดียว