พิพิธภัณฑ์รถม้าพระที่นั่ง, พระที่นั่งในพระราชวังดุสิต กรุงเทพมหานคร

รถม้าพระที่นั่งแบบเก๋ง แบบกลาส สเตท โคช (Glass State Coach)
ปัจจุบันพื้นที่ทางด้านเหนือและและด้านใต้ของพระตำหนักสวนหงส์ได้สร้างอาคารใหม่ 2 หลัง
เพื่อใช้เป็นอาคารพิพิธภัณฑ์จัดแสดงรถม้าพระที่นั่ง และได้ทำพิธีเปิดเมื่อวันที่
12 สิงหาคม 2532 เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกติ์ พระบรมราชินีนาถ

รถม้าพระที่นั่งชนิดต่าง ๆ ในบริเวณด้านทิศเหนือของพระที่นั่งวิมานเมฆ
รถม้าเริ่มเข้ามาสู่ประเทศไทยในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น
แต่ในยุคนั้นยังไม่เป็นที่นิยมแพร่หลายนัก มีใช้เฉพาะพระเจ้าแผ่นดินและพระบรมวงศานุวงศ์ชั้นผู้ใหญ่เท่านั้น
แต่หลังจากที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่
5 เสด็จพระราชดำเนินกลับจากเยือนยุโรป ในปีพุทธศักราช
2440 ก็เริ่มมีการใช้รถม้ากันอย่างแพร่หลาย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ
ให้เจ้าพระยาเทเวศรวงศ์วิวัฒน์และพระยานิเทศพานิช กงสุลสยามประจำสิงคโปร์เป็นผู้จัดหาม้าจากต่างประเทศมาเทีนมรถม้าพระที่นั่ง

อาคารเก็บราชยานพาหนะพระที่นั่งเทียมม้าชนิดต่าง ๆ บริเวณด้านทิศใต้ของพระตำหนักสวนหงส์
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่
6 รถม้าเป็นที่นิยมมากขึ้น ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งกรมพระอัศวราชขึ้น
กรมนี้มีหน้าที่จัดหาม้าและรถม้าเข้ามาเพื่อใช้ในราชการ รวมถึงการบำรุงรักษาและดูแลรถม้าพระที่นั่ง
นอกจากนี้ยังมีหน้าที่ฝึกซ้อมสารถีและฝึกซ้อมม้า เพื่อเข้าประจำการรถม้าพระที่นั่งด้วย

ราชยานพาหนะพระที่นั่ง ในอาคารด้านทิศใต้ของพระตำหนักสวนหงส์
รถม้าได้รับความนิยมจนถึงสมัยรัชกาลที่ 8 ก็เริ่มเสื่อมความนิยม
เพราะเริ่มมีรถยนต์เข้ามาแทน ประกอบกับสภาพรถม้าที่ใช้อยู่เริ่มทรุดโทรม
หลังจากสมัยรัชกาลที่ 8 การใช้รถม้าก็เริ่มเสื่อมลง

ราชยานพาหนะเทียมม้า ในอาคารด้านทิศใต้ของพระตำหนักสวนหงส์
รถม้าพระที่นั่งที่จัดแสดง ณ พิพิธภัณฑ์รถม้านี้ ส่วนใหญ่แล้วเป็นรถม้าพระที่นั่งในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวและพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
รถม้าพระที่นั่งที่ใช้ในการเสด็จพระราชดำเนินจะประกอบด้วย รถม้าพระที่นั่ง
รถม้าพระที่นั่งรองและรถม้าพระประเทียบ