นายสมัชชา   โพธิ์ถาวร  ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา  ได้ดำริโครงการพัฒนาเขานางหงส์ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์  โดยมอบหมายให้

รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา (นายจิต  ผสมพงษ์)  ดำเนินการจัดเตรียมความร้อม

เมื่อวันที่  10  กันยายน  2546  นายจิต  ผสมพงษ์  ได้นำหัวหน้าส่วนราชการจังหวัดพังงา  นายอำเภอทับปุด  นายอำเภอเมืองพังงา  สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลถ้ำทองหลาง  กำนัน  ผู้ใหญ่บ้าน  ตำบลถ้ำทองหลาง  ปลูกต้นไม้บริเวณสองข้างทางบริเวณจุดต่อแดนระหว่างอำเภอทับปุด  และอำเภอเมืองพังงา  บนเขานางหงส์  มีการปรับแต่งสภาพถนนและสองข้างทางโดยความร่วมมือจากส่วนราชการ  และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

   

สำหรับเขานางหงส์  มีสภาพป่าที่อุดมสมบูรณ์ มีพันธุ์ไม้ป่านานาพันธุ์   มีจุดชมวิวสามารถมองเห็นตัวเมืองพังงา  และบริเวณอ่าวพังงาได้  และตำนานที่น่าสนใจดังนี้

เขานางหงส์ อยู่ในเขตจังหวัดพังงา เป็นเขาแบ่งเขตระหว่างอำเภอทับปุด กับอำเภอเมืองพังงา สูง 400เมตร มียอดเขาสลับซับซ้อน

ถ้ามองเขานางหงส์มาจากถนนสายตะกั่วป่า – พังงา (ถนนสายใหม่) ณ บริเวณวัดชนาธิการาม ตำบลนบปริง อำเภอเมืองพังงา

จะเห็นเขานางหงส์ มีสัณฐานคล้ายภาพนางหงส์นอนตะแคงข้าง หันหัวไปทางทิศเหนือคล้ายรูปเนรมิตร มีตำนานเล่าเหตุที่มีชื่อ

เขานางหงส์สืบต่อๆ กันมา ดังต่อไปนี้

 

กาลครั้งหนึ่ง มีชาย 2 คน เป็นเพื่อนรักกัน คนหนึ่งชื่อเฒ่า อยู่บ้านทับปุด อำเภอทับปุด  จังหวัดพังงา อีกคนหนึ่งชื่อเต่า อยู่ที่เมืองพังงา อำเภอเมืองพังงา นายเต่ามีลูกสาวสวยมากชื่อว่านางหงส์  ไม่ยอมแต่งงานกับชายใด ต่อมานายเฒ่ามาสู่ขอจากนายเต่า นายเต่าเห็นว่านายเฒ่าเป็นคนดี รูปร่างก็ยังหล่อเหลาก็ยกลูกสาวให้ ครั้นเมื่อถึงวันดีนายเฒ่าก็ยกขันหมากแห่แหนกันมาอย่างมโหฬาร เดินทางจากทับปุดมายังพังงา นายเฒ่าก็จัดการเตรียมหุงข้าวหุงแกงด้วยกะทะเพื่อรับรอง ฝ่ายนางหงส์เห็นขบวนขันหมากมา สอบถามจนรู้ว่านายเฒ่าจะมาแต่งงานกันตน ก็โกรธแค้นว่าแก่เฒ่าแล้วยังไม่เจียมตัว เพราะนางสำคัญผิดว่า “ เฒ่า” หมายถึงคนเฒ่าคนแก่ จึงตะโกนด่าว่าต่างๆ นานา ไม่ยอมแต่งงานด้วย นายเฒ่า ทั้งโกรธทั้งอาย ถึงกับเหวี่ยงขันหมากทิ้ง ขันหมากนั้นจึงกลายเป็น “เขาขันหมาก” ฝ่ายนายเต่าก็พาลโกรธลูกสาว เตะกระทะพลิกคว่ำ กระทะนั้นก็กลายเป็น “เขากระทะ” ครั้นล่วงมานางหงส์ได้ไปเที่ยวงานแห่งหนึ่ง ได้แอบเห็นนายเฒ่าเข้าก็ตกตะลึง เพราะเป็นคนหนุ่มรูปงาม ไม่ได้เฒ่าเหมือนอย่างชื่อ นางหงส์นึกเสียดาย รีบกลับบ้านจัดพานข้าวตอกดอกไม้ ธูปเทียน เดินทางไปขอขมาโทษต่อนายเฒ่าทันที ครั้นไปถึงก็รีบกราบขอขมาและบอกว่ายินดีจะแต่งงานด้วย  นายเฒ่ากลับตวาดด่าว่าต่างๆ แล้วขว้างพานข้าวตอกดอกไม้ทิ้ง นางหงส์ได้รับความอับอายอย่างยิ่ง จึงวิ่งกลับบ้านด้วนความแค้นสุดขีด จึงขาดใจตายอยู่ในป่าระหว่างทางนั้น ร่างของนางหงส์ก็กลายเป็นเขานางหงส์ กั้นเขตแดนระหว่างอำเภอเมืองพังงากับอำเภอทับปุด มาจนทุกวันนี้ ฝ่ายนายเฒ่าครั้นทราบข่าวร้ายก็เสียใจ เดินไปทรุดนั่งเหม่อมองไปกลางทะเลจนขาดใจตาย ร่างของนายเฒ่าก็กลายเป็น “เขาเฒ่า” อยู่ชายทะเลในเขตอำเภอทับปุดนั้นเอง

"คัดมาจาก สารานุกรมวัฒนธรรมภาคใต้"