พระนางมะลิกา เป็นธิดาของพระเจ้าอุดมสินแห่งเมืองฝางกับพระนางสามผิว ประสูติราวปี พ.ศ. ๒๑๓๑ ก่อนตั้งพระครรภ์พระมารดาทรงสุบินว่า มีช้างเผือกนำดอกมะลิมาถวาย จึงขนานพระนามว่า "มะลิกา" ตามพระสุบิน
เมื่อพระชันษาได้ ๑๘ ทรงมีพระสิริโฉมงดงาม ได้มีราชบุตรต่างเมืองมาสู่ขอ พระนางไม่สนพระทัย กลับรบเร้าให้พระบิดาสร้างเวียง(พระตำหนัก)ให้ ในปี พ.ศ. ๒๑๕๐ พระบิดาได้ทรงสร้างเวียงขึ้นอยู่ทางทิศเหนือของเมืองฝาง ตั้งอยู่บนเนินเขา มีคูเวียงกำแพงล้อมรอบ มีประตู ๔ ด้าน ให้แก่พระนาง
ในวันเดินทางเข้าสู่เวียงใหม่ พระนางได้พาไพร่พลส่วนหนึ่งติดตาม พร้อมกันนั้นได้มีชาวบ้านที่อยู่ในเส้นทางที่ผ่านไปสู่เวียงได้ติดตามไปด้วย ไปถึงเวียงใหม่ได้เวลาพลบค่ำ จึงได้ตั้งชื่อเวียงใหม่นี้ว่า "เวียงสนธยา"
ต่อมาในปี ๒๑๗๒ ทัพพม่าได้ยกมาตีเมืองฝาง พระนางมะลิกาได้พาไพร่พลของตนเข้าต่อสู้กับพม่าช่วยบิดาต้านทานได้ ๓ ปี ในที่สุดก็ต้านไม่ไหวเพราะกำลังที่มีน้อย พระเจ้าอุดมสินกับพระนางสามผิวมารดา ไม่ทรงยอมจำนนต่อข้าศึกได้กระโดดลงน้ำบ่อซาววา สิ้นพระชนม์ ส่วนพระนางสามผิวได้พาไพร่พลที่เหลือกลับไปตั้งหลักที่เวียงสนธยา และครองเวียงอยู่ได้ ๔๐ ปี ทรงสวรรคตในปี  ๒๑๙๐  รวมพระชนมายุได้ ๕๘ ปี
ต่อมาเวียงสนธยาขาดผู้นำ เกิดโจรปล้นชิงกัน และเกิดโรคร้ายขึ้น ชาวเมืองจึงได้อพยพหลบหนีไปสู่แหล่งอื่น จนเมืองกลายเป็นเมืองร้างตั้งแต่นั้นมา
ปัจจุบัน อนุสาวรีย์ของพระนางมะลิกาประดิษฐานอยู่ที่บริเวณเมืองสนธยา ตำบลมะลิกา


อนุสาวรีย์เจ้าแม่มะลิกา