วัดไชยวัฒนาราม ( Wat ChaiWatThaNaRam)
สมเด็จพระเจ้าปราสาททองทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
ให้สร้างวัดไชยวัฒนารามขึ้น
เมื่อ พ.ศ. 2137 ในบริเวณบ้านเดิมของพระองค์เพื่ออุทิศพระราชกุศลถวายพระราชมารดา สมเด็จพระบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงสันนิษฐานว่าวัดนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็น อนุสรณ์แห่งชัยชนะเหนือประเทศเขมร โดยตั้งใจจำลองแบบปราสาทนครวัดมาก่อสร้าง วัดไชยวัฒนารามสร้างปรางค์ประธานและปรางค์มุมอยู่บนฐานทักษิณเดียวกัน ล้อมรอบด้วย ระเบียงคตภายในระเบียงคตประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัยลงรักปิดทองจำนวน 120 องค์ ตามแนวระเบียงคต ตรงทิศทั้งแปดสร้างเมรุทิศ เมรุมุม ภายในเมรุทุกองค์ประดิษฐานพระพุทธรูปทรง เครื่อง ภายในซุ้มเรือนแก้วล้วนลงรักปิดทอง ฝ้าเพดานทำด้วยไม้ประดับลวดลายและดาวเพดานลงรัก ปิดทองเช่นกัน ผนังภายในเมรุเขียนภาพจิตรกรรมฝาผนัง ผนังด้านนอกของเมรุมีภาพปูนปั้นเรื่องพุทธ ประวัติ จำนวน 12 ภาพ พระอุโบสถสร้างอยู่ทางด้านตะวันออกนอกระเบียงคต เจดีย์ย่อมุมไม้ 12 สร้างอยู่ทางด้านหน้าซ้ายขวาของพระอุโบสถ มีกำแพงล้อมรอบโบราณสถานสำคัญแหล่านี้ถึง 3 ชั้น ปรางค์ และเจดีย์ขนาดย่อมอีกจำนวนหนึ่งสร้างเพื่อเติมในสมัยต่อๆ มา ปรางค์ประธานนำรูปแบบของปรางค์สมัยอยุธยาตอนต้นมาก่อสร้าง แต่ปางค์ประธานที่วัด ไชยวัฒนารามทำมุขทิศยื่นออกมามากกว่า ส่วนปรางค์มุมนั้นมีลักษณะตามสมัยนิยม เมรุเป็นทรงปราสาท คือเป็นเรือนหรืออาคารซ้อนลดหลั่นกันขึ้นไป 7 ชั้น รองรับส่วนยอดที่ ทำอย่างยอดปรางค์ การเรียกชื่อสถาปัตยกรรมแบบนี้ว่าเมรุ ชวนให้นึงถึงต้นแบบที่น่าจะนำมาจากเมรุ พระบรมศพพระมหากษัตริย์สมัยพระนครศรีอยุธยา ซึ่งมีแนวความคิดมาจากคติเขาพระสุเมรุอีกต่อหนึ่ง แผนผังและรูปแบบทางสถาปัตยกรรมของวัดไชยวัฒนารามน่าจะแสดงภาพของเมรุพระบรม ศพอย่างเป็นรูปธรรม คือปรางค์ประธานหมายถึงพระเมรุมาศแวดล้อมด้วยเมรุทิศ เมรุราย ดังนั้นหาก สมเด็จพระเจ้าปราสาททองนำอัฐบุพการีของพระองค์ใส่ไว้ในปรางค์ประธาน หรือที่ใดที่หนึ่งก็ตามย่อม หมายถึงการถวายพระเกียรติสูงสุดต่อบุพการีของพระองค์แล้ว วัดไชยวัฒนารามเป็นวัดหลวงที่บำเพ็ญพระราชกุศลของพระมหากษัตริย์สืบต่อมาทุกพระองค์ จึงได้รับการปฏิสังขรณ์สืบต่อมาทุกสมัย เป็นสถานที่ถวายพระเพลิงศพพระเจ้าลูกเธอ ลูกยาเธอและ พระบรมวงศานุวงศ์ เมื่อเจ้าฟ้าธรรมาธิเบศก์พระกวีองค์สำคัญสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศสิ้น พระชนม์ก็ได้ถวายพระเพลิงที่วัดนี้ สงครามพม่าล้อมกรุงศรีอยุธยา พ.ศ. 2310 วัดไชยวัฒนารามถูกแปลงเป็นค่ายตั้งรับศึก ครั้งนั้น เมื่อเสียกรุงศรีอยุธยาวัดไชยวัฒนารามจึงถูกปล่อยให้ทิ้งร้าง ผู้ร้ายเข้าไปลักลอบขุดหาสมบัติ เศียรพระพุทธรูปถูกขโมย มีการรื้ออิฐที่พระอุโบสถ และกำแพงวัดไปขาย ต่อมาปี พ.ศ. 2530 กรมศิล- ปากรจึงได้ดำเนินการอนุรักษ์และพัฒนาสืบมาจนแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2535 จากหนังสือทะเบียนโบราณวัตถุสถานทั่วราชอาณาจักรกรมศิลปากร |