ตำบลกระมัง
อำเภอพระนครศรีอยุธยา (เดิมกรุงเก่า)
ประกาศในราชกิจจานุเบกษา
เล่ม 52 ตอนที่ 75 วันที่ 8 มี.ค. 2487
1. วิหารพระพุทธไตรรัตนายก
2. บานประตูวิหาร
วัดพนัญเชิง
เป็นวัดที่มีมาแต่โบราณ
ก่อนการสร้างกรุงศรีอยุธยาไม่ปรากฎหลักฐาน
แน่ชัดว่าใครเป็นผู้สร้าง
ตามหนังสือพงศาวดารเหนือกล่าวว่าพระเจ้าสายน้ำผึ้งเป็นผู้สร้างและพระ
ราชทานนามว่า "วัดเจ้าพระนางเชิง"
ในพงศาวดารฉบับหลวงประเสริฐกล่าวว่า
แรกสถาปนาพระ
พุทธเจ้าพแนงเชิง พ.ศ.1867
ก่อนพระเจ้าอู่ทองสร้างกรุงศรีอยุธยา
26 ปี เป็นพระพุทธรูปขนาด
ใหญ่หน้าตักกว้าง 14 เมตรเศษ สูง 19
เมตร
เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นปางสมาธิ
ในจดหมายเหตุของ
แคมเฟอร์เขียนครั้งกรุงศรีอยุธยาว่าพระพุทธรูปองค์นี้เป็นของมอญ
ในหนังสือภูมิสถาน อยุธยา
ว่าเป็นของพระเจ้าสามโปเตียน
ซึ่งน่าจะเพี้ยนมาจากภาษาจีนว่า
ซำปอกง แปลว่ารัตนตรัยตาม
หลักฐานในประวัติศาสตร์ยังค้นไม่พบว่ากษัตริย์อโยธยาองค์ใดที่มีประนามว่าสามโปเตียน
พระพุทธรูปองค์นี้จีนนับถือมากเรียนว่าซำปอกง
คนไทยเรียกทั่วไปว่าหลวงพ่อโตหรือ
หลวงพ่อพนัญเชิง
ในสมัยกรุงศรีอยุธยาปรากฎว่าสมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงซ่อมครั้งหนึ่ง
และต่อมาพระเจ้าแผ่นดินกรุงศรีอยุธยาคงจะซ่อมแซมกันต่อมาอีกหลายพระองค์
และเรียกกันว่า
"วัดพระพแนงเชิง" บ้าง "วัดพระเจ้าแพนงเชิง"
บ้าง ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์
สมเด็จพระปฐมบรม-
ราชจักรีวงศ์ ได้ทรงปฎิสังขรณ์
และได้รับการบูรณะต่อมาหลายพระองค์
โดยเฉพาะพระบาทสมเด็จ
พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
โปรดให้บูรณะใหม่ทั้งองค์
เมื่อปลาย พ.ศ. 2397
แล้วถวายพระนามพระ
พุทธรูปว่า "พระไตรรัตนายก"
ในรัชกาลที่ 5 พ.ศ. 2444
เกิดเพลิงไหม้ผ้าห่มพระเจ้าพนัญเชิง
เสร็จเมื่อ พ.ศ. 2444
กรมศิลปากรได้ทำการซ่อมแซมอีก
เมื่อ พ.ศ. 2494
พระพุทธรูปองค์นี้เป็น
ที่นับถือทั้งชาวไทยและชาวจีน
ในพระราชพงศาวดารกล่าวว่า
เมื่อกรุงศรีอยุธยาจะเสียแก่พม่าครั้ง
ที่สองนั้นพระพุทธรูปองค์นี้มีน้ำพระเนตรไหลออกมาทั้งสองข้าง
ในกลางเดือน 10 มีงานทิ้งกระจาด
และงานนมัสการประจำปี
|