Review After Play

Heavy Gear
Heavy Gear

From : Activision
Scores

90


Review

แม้มันจะตัวเล็กกว่า Mech แต่มิได้หมายความว่าความมันจะน้อยกว่า Mech เลย


หลังจากไม่ได้เขียนรีวิวมาเป็นเวลาเดือนกว่า ซื้อตอนแรกสืบเนื่องมาจากผมติดสอบ และพอสอบเสร็จ และกำลังจะมีเวลาเล่นเกม ผมก็พบว่าซีดีรอม ไดร์ว ของผมนั้นเป็นอะไรก็ไม่รู้ อยู่ดีๆก็ดื้อ ไม่ยอมทำงานขึ้นมาเฉยๆ ผมก็เลยไม่ได้เล่นเกมเลยในช่วงนั้น แต่เมื่ออาทิตย์ที่แล้วนี่เอง ผมก็ไม่ทราบว่าเป็นเพราะอะไร แต่อยู่ดีๆ ไดร์วซีดีของผมก็ใช้ได้ขึ้นมาเฉยๆ ผมเองก็งงเหมือนกัน ก็เลยทำให้ผมหยิบเกมขึ้นมาเล่นแก้เซ็งอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเกมที่ผมหยิบขึ้นมา (หลังจากดองไว้นาน) ก็คือ Heavy Gear นี่เอง เซียนเกมเก่าๆคงยังจำได้ดีถึงความสำเร็จของ Mech Warrior2 ในช่วงหลายปีก่อน ซึ่งประสบความสำเร็จมาก แต่หลังจากที่เกมประสบความสำเร็จนั้น ทาง FASA เจ้าของลิขสิทธิ์เจ้า Mech นี้ก็ได้ นำลิขสิทธิ์กลับคืนไป ทิ้งให้ Activision เหลืออยู่กับความสำเร็จของ Mech 2 ซึ่งทาง Activision ก็ไม่ได้ยืนดูเฉยๆ จึงจับมือกับ Dream Pod 9 สร้าง Heavy GearHeavy Gear ขึ้นมา ซึ่งทุกๆท่านก็คงจะสงสัยว่าเจ้า Gear นี่มันต่างกับ Mech อย่างไร? Gear นั้นจะมีขนาดที่เล็กกว่า Mech โดยคนบังคับจะอยู่ที่ส่วนตัวของหุ่น (ดังจะเห็นได้จากใน title เกม) ซึ่งขนาดที่เล็กกว่าของ Gear นั้น ก็ทำให้ Gear มีความคล่องตัวที่มากกว่า Mech โดย Gear นี้สามารถที่จะคลาน และกระโดดได้ (แต่ใครจะรู้ Mech ในภาค 3 ก็อาจจะทำได้ก็ได้) และที่ผมชอบก็คือ Gear นี้ยังล้มได้อีกด้วย โดยเมื่อล้มแล้วก็ต้องกดปุ่ม Gear ถึงจะลุกขึ้นมาได้ และถ้าโดนยิงขาขาดก็เป็นอันจบเกม หุ่นของคุณก็จะล้มแอ้งแม้ง ลุกไม่ได้ นอนรอความตาย อยู่อย่างนั้น ตัวเกมนั้นเรียกได้ว่าคล้าย Mech2 มาก แต่ก็ปรับปรุงในหลายๆด้านให้ดีขึ้น ใน Heavy Gear นี้นั้นไม่ได้มีการกำหนดน้ำหนักหุ่นสูงสุดเหมือนใน Mech แต่ในเกมจะถือว่า ถ้าMission ยากก็จะมีของออกมาให้ใช้เยอะ และหุ่นแต่ละตัวก็จะสามารถบรรทุกของได้จำนวนหนึ่ง ซึ่งถ้าคุณบรรทุกของมากเกินไปนิดหน่อย ก็จะทำให้เกียร์ของคุณ ช้าลง แต่ถ้าคุณบรรทุกเกินน้ำหนักมากๆ ก็จะทำให้มีผลต่อโครงสร้างของเกียร์ของคุณ ผมเองนั้นได้ลองเล่นแต่แบบ story mode ยังไม่เคยลองเล่นใน mode อื่นเลย แต่ในด้าน story mode นั้น ผมว่าทำได้ดีทีเดียว โดยคุณนั้นรับบทเป็นทหารในกองทัพฝ่ายเหนือ ที่ดันโชคร้ายถูกศัตรูจับไปพร้อมกับลูกชายของผู้บังคับบัญชา แล้วลูกชายของผู้บังคับบัญชาดันมาตายซะอีก คุณก็เลยถูกผู้บังคับบัญชา ของคุณเกลียดขี้หน้าแบบสุดๆ และมักจะส่งคุณไปใน mission ที่เหมือนจะฆ่าตัวตายเสมอ ส่วนเรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป ก็ติดตามกันเอาเองละกันครับ จากในเกม ซึ่งเกมนี้จะดำเนินเรื่องโดยมี cutscene ที่ใช้คนแสดง ดูแล้วก็เพลินดีครับ มาพูดถึงทางด้าน กราฟฟิกของเกมนี้บ้างดีกว่า กราฟฟิกใน Heavy Gear นั้นได้รับคำวิจารณ์ว่าใช้ engine ที่ ค่อนข้างจะล้าสมัย ซึ่งผมเองก็ค่อนข้างเห็นด้วย เพราะภาพที่ออกมานั้นไม่ต่างจากสมัย Mech2 เท่าไรเลย แต่ผมเองยังไม่เคยได้ ลองเล่นในแบบที่ใช้การ์ดเร่ง 3d (ผมหมายถึงพวก 3dfx นะครับ) ตัวผมเองนั้นมี Matrox Mystique โดยทาง Matrox นั้นบอกว่า เกมนี้นั้น support Mystique แต่ทาง Activision ไม่เห็นพูดถึงเลยแม้แต่น้อย โดยใน readme นั้นกล่าวถึงเฉพาะ 3dfx กับ Rendition Verite เท่านั้น ผมลองเล่นดู ก็ปรากฎว่า Mystique ก็สามารถเล่นใน mode Direct 3d ได้ครับ แต่ทั้งนี้นั้นต้องเป็น version 1.0 ถ้าใช้ patch upgrade เป็น version 1.1 เมื่อไร ก็จะเล่นไม่ได้ (ฟังดูโง่ๆแต่ก็เป็นไปแล้ว) ผมได้อีเมล์ไปถามทาง Activision แล้วHeavy Gear ก็ได้คำตอบกลับมาว่า ให้ผมรอ patch version 1.2 ที่กำลังจะออกในไม่นานนี้ (เฮ้อ !) ว่าแล้วผมก็ต้อง uninstall เกมเพื่อติดตั้ง version 1.0 ใหม่ ซึ่ง version 1.1 นี้ได้มีการแก้ bug ที่น่ารำคาญตัวนึง คือท่านที่ชอบใช้ mouse pointer แปลกๆ สวยๆนะครับ พอเข้าในเกมก็จะพบกับปัญหารูป mouse pointer จะไปลบตัวอักษรโน่นนี่ในจอ ต้องไปเปลี่ยน pointer ให้เป็นแบบ windows default ก็จะแก้ปัญหาได้ ซึ่งใน patch 1.1 ก็จะแก้ปัญหานี้ให้เรียบร้อย ส่วนด้านเนื้อเรื่องนี่ผมว่าทำได้ดีทีเดียวครับ และ mission ก็ยังมีส่วนต่อ เนื่องเป็นอย่างดีกับเนื้อเรื่อง เช่น ตอนที่เราโดนจับไป แล้วจะหนีออกมานั้น คุณไม่สามารถเลือก Gear ได้ เพราะว่าในเรื่องพระเอกไปขโมย gear มาดังนั้นคุณจึงต้องขับเกียร์ตามเนื้อเรื่อง เป็นต้น ส่วนในด้านความมันนี่ ผมว่าไม่ได้ด้อยกว่า Mech เลยครับ เรื่องอาวุธนี่ก็มีอาวุธ แปลกๆใหม่ๆ มาให้ลองใช้มากมาย และตัวหุ่นก็มีรายละเอียดภายในอีกด้วย เช่นมี option ในการใส่ hydrolic ภายในขา, สามารถเลือกความ หนาของวัสดุที่ใช้ทำตัวหุ่นได้ เป็นต้น ด้านเสียงนี่ก็เยี่ยมทีเดียวครับ ทั้งเพลง soundtrack ที่สามารถนำไปใส่เครื่องเล่น cd ฟังได้ และ ตัวเกมยังมีระบบเสียง 3 มิติอีกด้วย (แม้จะเป็น 3 มิติปลอมๆก็เหอะ) เสียงในเกมนี้ออกมาน่าประทับใจดีเดียว และใน mission ก็ยังมีการ พูดตอบโต้ระหว่างพระเอกกับคนอื่นๆ ทางวิทยุด้วย โดยสรุปแล้ว ผมคิดว่าทาง FASA นั้นคงต้องคิดหนักทีเดียวครับ กับการที่ถอนลิขสิทธิ์ Mech ออกไป ทำให้มีคู่แข่งที่น่ากลัวอย่าง Heavy Gear นี้ออกมา โดยภาคสองของเกมนี้ก็กำลัง จะตามมา ในขณะที่ MechWarrior 3 นั้นก็ยังไม่ไปไหนเลยครับ เกมนี้นั้นรับไปเลย 90 คะแนนจากผม

ความต้องการของระบบเพนเทียม 90, แรม 16 MB, ที่ว่างบนฮาร์ดดิสก์ 195 MB, ซีดีรอมความเร็ว 4 เท่า, การ์ดจอที่มี VRAM 1 MB Windows 95 Sound Blaster-compatible sound card

<-------กลับไปที่หน้าแรก

Note
- การวิจารณ์เกมนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของผมเท่านั้น
- ถ้าท่านใดมีคำแนะนำก็ไม่ต้องรีรอ นะครับส่งมาได้เลยที่ tarx@oocities.com รวมถึง comment ในการวิจารณ์เกมของผมด้วยครับ ผมจะได้นำไปปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น
- ผมแนะนำให้ใช้ font ขนาด 16 ในการดู homepage ผมนะครับ