ตะลุยอังกฤษ

Final Chapter

หนึ่งปีกับอีกสองเดือนที่จากบ้านมา ตื่นเต้น สนุก ดีใจ เสียใจ เหนื่อย เหงา ท้อแท้ หล่อ ผอมลง ง่วง หิว ได้ประสบการณ์ชีวิตมากมาย ได้พบเพื่อนใหม่ๆ ยืนด้วยลำแข้งของตัวเองและเงินของพ่อแม่ เป็นหนึ่งปีกับสองเดือนที่มีค่ามากจริงๆ


อังกฤษเป็นประเทศที่อากาศไม่ได้เรื่อง เดี๋ยวก็ร้อน เดี๋ยวก็หนาว ฝนก็ตกเกือบตลอดเวลา คนที่นี่ก็พยายามนึกว่าตัวเองเป็นผู้ดี นึกว่าตัวเองเจ๋งอยู่แล้ว ไม่ค่อยสร้างสรรค์อะไรใหม่ๆ ไม่ค่อยยอมเปลี่ยนแปลงชีวิตของตัวเอง ถึงแม้ระบบสาธารณูปโภคจะดี แต่การบริการของเขาก็แย่มากๆ ทำให้ประเทศชาติพัฒนาได้ช้ากว่าที่ควร

อย่างไรก็ตาม เดี๋ยวนี้ฝรั่งพยายามเอาหลักแนวคิดของชาวเอเชียเข้ามาใช้กับชีวิตประจำวันมากขึ้น หลังจากรู้ว่าตัวเองกำลังจะแย่ถ้าไม่เปลี่ยนแปลงตั้งแต่วันนี้ มีการเอาแนวคิดพวกนี้มาประยุกต์เข้ากับสังคมของเขา แก้ไขสิ่งที่เป็นจุดอ่อนของตัวเอง เพื่อให้ตัวเองเข้มแข็งขึ้น

เช่นกัน พวกเราก็คงต้องรับแนวคิดและเทคโนโลยีมากมายของเขา เอามาดัดแปลง ประยุกต์ใช้กันบ้าง ไม่ใช่ได้มาอย่างไรก็ใช้ไปทื่อๆ แบบคนโง่ๆ ทำกัน แล้วอีกไม่นานเราก็จะเทียบเขาได้ แล้วก็แซงหน้าเขาขึ้นไปซักวัน

ถึงแม้ว่าจะมีเวลาแค่ปีเดียว แต่ก็มีโอกาสได้เที่ยวจนเกือบทั่วเกาะ ทั้งเหนือ ใต้ ออก ตก ตะลุยมันไปทุกทิศ ได้เปิดหูเปิดตากับเทคโนโลยีที่เลิศหรู และธรรมชาติที่น่าผิดหวัง พูดถึงเรื่องธรรมชาติ บ้านเขาสู้บ้านเราไม่ได้เลยจริงๆ ถ้าเทียบกับเรา เขาเรียกได้ว่าไม่มีอะไรเลย แต่เขากลับรักษาของที่เขามีน้อยอย่างดี

ได้เจอกับเพื่อนใหม่มากมาย ถึงแม้ว่าจะมีเวลาอยู่ด้วยกันไม่นาน ทุกคนก็ช่วยเหลือแบ่งปันกัน ถ้าขาดเพื่อนกลุ่มนี้ไปก็ไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไร จะจบไหม รู้แค่ภาษาอังกฤษคงดีกว่านี้ (อ้าว) หลังจากนี้ทุกคนก็คงแยกย้ายกันไป ทำงาน เรียนต่อ แต่งงาน สุดแต่ใจจะไขว่คว้า กลับมาเจอกันวันหลังก็อย่าลืมคืนเงินที่ยืมไว้ด้วยแล้วกัน (ฮา)

ตั้งแต่วันที่เข้าเรียนภาษาอังกฤษวันแรก จนถึงวันที่ 8 กันยายน 2542 วันที่ซุปบอกว่า "Congratulation, you passed." รู้สึกโล่งไปหมด ปีกว่าที่ผ่านมาไม่ได้หายไปไหน เราทำสำเร็จแล้ว ดีใจจริงๆ
















- จบการศีกษา กันยายน 2542 -