|
ในปี พ.ศ.
2391 นักสรีรวิทยาชาวเยอรมัน ชื่อ
อาร์โนล เอ เบอร์โทลด์ (Arnold A. Berthold)
ได้ทำการทดลองเพื่อแสดงถึงการเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยาของลูกไก่ตัวผู้ไปเป็นไก่ตัวผู้ที่โตเต็มวัยโดยจัดการทดลองเป็น
2 ชุด การทดลองชุดแรก เบอร์โทลด์
ตัดอัณฑะของลูกไก่ออกแล้วสังเกตลักษณะของลูกไก่จนเจริญเป็นไก่ที่โตเต็มวัย
เขาพบว่าเมื่อโตเต็มวัยไก่ตัวนี้จะมีลักษณะคล้ายไก่ตัวเมีย
คือมีหงอนและเหนียงคอสั้น
ขนหางสั้น
และมีนิสัยไม่ค่อยต่อสู้กับไก่ตัวอื่นดังภาพ
ลักษณะไก่ตัวผู้ที่ถูกตัดอัณฑะตั้งแต่เล็ก
ชุดทดลองที่สอง
เบอร์โทลด์
ตัดอัณฑะของลูกไก่ทดลองออกจากนั้นนำเอาอัณฑะของลูกไก่อีกตัวหนึ่งมาปลูกลงด้านในผนังลำตัวบริเวณช่องท้องตรงตำแหน่งอัณฑะเดิมตรวจสอบจนพบว่าอัณฑะใหม่มีเส้น
เลือดมาหล่อเลี้ยงและสามารถทำงานได้
เมื่อติดตามสังเกตลักษณะของลูกไก่ทดลองจนเป็นไก่ที่โตเต็มที่
ผลปรากฎว่าไก่ทดลองตัวนี้จะมีลักษณะของไก่หนุ่มปกติทั่วไป
คือมีหงอนและเหนียง คอยาว
ขนหางยาวและมีนิสัยรักการต่อสู้
ปราดเปรียว ดังภาพ
ลักษณะไก่ตังผู้ที่มีการปลูกอัณฑะให้ใหม่
ลักษณะไก่ตัวผู้ที่มีการปลูกอัณฑะให้ใหม่
การศึกษาต่อมาพบว่าอัณฑะของไก่จะผลิตสารเคมีชนิดหนึ่งซึ้งลำเลียงไปตามระบบหมุนเวียนเลือด
สารเคมีชนิดนี้ควบคุมการเจริญของ
หงอน เหนียงคอและลักษณะอื่น ๆ
ของไก่ตัวผู้ที่โตเต็มวัย
ในภายหลังพบว่าร่างกายของมนุษย์และสัตว์มีกระดูกสันหลัง
ตลอดจนสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังบางชนิด
เช่น แมลง
มีอวัยวะสร้างสารเคมีแล้วลำเลียง
สารเคมีเหล่านี้ไปตามกระแสเลือดสู่อวัยวะเป้าหมาย
เพื่อให้ทำหน้าที่หรือแสดงบทบาท
สารเคมีดังกล่าวนี้ก็คือฮอร์โมนนั่นเอง
ฮอร์โมนส่วนฬหญ่เป็นสารประเภทเตรอยด์
เอมีน และเพปไทด์หรือโปรตีน
ฮอร์โมนมีทั้งละลายในน้ำและละลายในไขมัน