ได้มีการทดลองเพื่อศึกษาการทำงานของฮอร์โมนจากต่อมใต้สมองในสัตว์เลือดเย็นบางชนิดที่สามารถเปลี่ยนสีผิวของร่างกายได้ เช่น กบ โดยนำกบทดลองกลุ่มหนึ่งมาตัดต่อมใต้สมองออกอีกกลุ่มหนึ่งไม่ตัด จากนั้นแยกกบแต่ละกลุ่มใส่ในภาชนะที่มีพื้นสีดำ กลุ่มละใบเมื่อสังเกตผลการทดลองพบว่าเฉพาะกลุ่มที่ไม่ต้องต่อมใต้สมองเท่านั้นที่มีผิวสีเข้มกลมกลืนกับสีภาชนะ ส่วนกลุ่มที่ถูกตัดต่อมใต้สมองสีผิวจะจางเหมือนเมื่อเริ่มทดลอง ต่อมานำสารละลายของต่อมใต้สมองที่บดระเอียดมาฉีดให้กับกบกลุ่มที่ถูกตัดต่อมใต้สมอง แล้วนำไปใส่ในภาชนะสีดำใบเดิม เมื่อสังเกตผลในเวลาต่อมาพบว่าสีผิวของกบกลุ่มนี้เข้มกลมกลืนกับสีภาชนะได้

        ต่อมามีผู้ทดลองหยดสารละลายของต่อมใต้สมองที่บดละเอียดลงไป บนหนังกบที่มีสีจางและเพิ่งลอกออกจากตัวกบใหม่ๆ พบว่าสีผิวหนังของกบเปลี่ยนเป็นสีเข้มขึ้น จากนั้นจึงนำผิวหนังไปส่องดูการกระจายของรงควัตถุในเซลล์ เปรียบเทียบกับผิวหนังในช่วงก่อนหยดสาร ได้ผล ดังภาพ

                                                ก.                                                                                                                                                     ข.

ภาพ   การเปรียบเทียบการกระจายของรงควัตถุในเซลล์ผิวหนังกบ

ก. สีจางก่อนหยดสารละลายจากต่อมใต้สมอง

      ข. สีเข้มหลังจากหยดสารละลายจากต่อมใต้สมอง

        จากการทดลองสรุปได้ว่าสารละลายจากต่อมใต้สมองนี้กระตุ้นให้รงควัตถุดังกล่าวนี้กระจายตัวไปทั่วเซลล์ เป็นผลให้สีผิวเข้มขึ้น จากการศึกษาต่อมาพบว่าสารนี้เป็นฮอรน์โมนที่สร้างจากต่อมใต้สมองส่วนกลาง คือ เมลาโนไซต์สติมิวเลติงฮอร์โมน (melanocyte stimulating hormone) เรียกย่อว่า MSH มีหน้าที่กระตุ้นการสังเคราะห์รงควัตถุสีน้ำตาลที่เรียกว่า เมลานิน (mlanin) ในเซลล์เมลาโนไซต์ที่ผิวหนัง

        ต่อมายังพบว่าในปลา สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ และสัตว์เลื่อยคลาน MSH นี้ จะกระตุ้นให้เมลานินในเซลล์ผิวหนังกระจายไปทั่วเซลล์ ทำให้สีผิวเข้มขึ้นเช่นกัน แต่ลักษณะความเข้มอาจเข้มขึ้นเฉพาะบางบริเวณหรือเข้มทั้งทั้งตัว ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับธรรมชาติของสัตว์นั้นๆและจัดว่าการเปลี่ยนสีผิวเช่นนี้เป็นการพรางตัวแบบหนึ่ง ซึ่งสัตว์จะใช้เวลาในการปรับเปลี่ยนสีผิวเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น

        ในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม MSH มีบทบาททำให้เซลล์เมลาโนไซต์ที่ผิวหนังมีสีเข้มขึ้นเช่นกัน แต่จะเป็นไปอย่างช้าๆ และด้วยวิธีการที่แตกต่างจากกลุ่มสัตว์อื่นๆที่กล่าวมาแล้ว เช่น ในคนพบว่า หลังจากมีการหลั่ง MSH จากต่อมใต้สมองส่วนกลางแล้ว สีผิวจะไม่เข้มขึ้นในทันทีทันใด แต่จะใช้เวลานานหลายชั่วโมงที่จะเข้มขึ้นอย่างช้าๆ และความเข้มหรือคล้ำของผิวจะติดอยู่นาน 3-5 สัปดาห์ จึงจะหายไป

        การที่คนผึ่งแดดหรืออาบแดดจนผิวเปลี่ยนสีเป็นสีน้ำตาลเข้ม คาดว่าเป็นผลจากอิทธิพล MSH ที่หลั่งจากต่อมใต้สมองส่วนกลางเข้าสู่กระแสเลือดแล้วไปกระตุ้การสร้างและการกระจายเมลานินในเซลล์เมลาโนไซต์ที่ผิวหนังผิวจึงมีสีเข้มขึ้น ส่วนสีผิวที่คล้ำขึ้นในกรณีนี้จะซีดจางกับสู่สภาพเดิมได้มีเพียงวิธีเดียวเท่านั้น คือ การลอกของผิวชั้นหนังกำพร้า