ฮอร์โมนจากต่อมหมวกไต

ในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนม ต่อมจากหมวกไต(adrenal gland) เป็นต่อมไร้ท่อที่อยู่เหนือไตทั้งข้าง ต่อมนี้ประกอบด้วยเยื่อ 2 ชั้น คือ เนื้อเยื่อชั้นนอกเรรยกว่า อะดรีนัลคอร์เทกซ์  (adrenal cortex) เนื้อเยื่อชั้นมนเรียกว่า อะดรีนัลดัลลา (adrenal medulla) ซึ่งเนื้อเยื่อทั้งสองชั้นนี้ ผลิตฮอร์โมนได้แตกต่างกัน

    อะดรีนัลคอร์เทกซ์

เนื้อเยื่อชั้นนี้ผลิตฮอร์โมนมากกว่า 50 ชนิด ฮอร์โมนที่ผลิตขึ้น มีสมบัติเป็นสเตรอยด์ ซึ่งร่างกายสังเคราะห์ได้จากคอเลสเทอรอล ฮอร์โมนกลุ่มที่สำคัญที่จะกล่างถึงคือ
    กลูโคคอร์ติคอยด์ฮอร์โมน (glucocortcoid hormone) ทำหน้าที่ควบคุมเมแทบอลิซึมของคาร์โบไฮเดรต ตัวอย่างของฮอร์โมนกลุ่มนี้คือ คอร์ติซอล(cortisol) ฮอร์โมนชนิดนี้มีหน้าที่สำคัญในการเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดให้สูงขึ้น โดยกระตุ้นเซลล์ตับให้เปลี่ยนอะมิโนและกรดไขมันให้เป็นคาร์โบไฮเดรตและเก็บสะสมไว้ในรูปของไกลโคเจน จากนั้นจึงกระตุ้นให้ตับเปลี่ยนไกโคเจนเป็นกลูโคสส่งเข้ากระแสเลือดนอกจากนี้ยังมีหน้าที่ควบคุมสมดุลของแร่ธาตุได้เล็กน้อยอีกด้วย
การมีฮอร์โดมนกลูโดคคอร์ติคอยด์นี้มากเกิดไปทำให้โรคคูชชิง(Cushing'ssyndrome)คนไข้จะมีความผิดปกติ
ิเกี่ยวกับเมแทบอลิซึมของคาร์โบไฮเดรต ไขมันและโปตีน ระดับน้ำตาลในเลือดบริเวณแขนขา แต่มีการสะสมไขมันที่บริเวณแกนกลางของลำตัว เช่นใบหน้า ทำให้หน้ากลมเหมือนพระจันทร์ บริเวณต้นคอมีหนอกยื่นออกมาอาการเช่นนี้อาจพบได้ในผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยยาที่มีคอร์ติโคสเตรอยด
์เป็นส่วนผสมติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน เพื่อปกกันการแพ้หรืออักเสบ
    มิเนราโลคอร์ติคอยด์ฮอร์โมน(mineralocorticoid hormone)มีหน้าที่ควบคุมสมดุลของน้ำและแร่ธาตุมนร่างกาย ฮอร์โมนสำคัญชนิดหนึ่งในกลุ่มนี้ คือ แอลโดสเตอโรน (aldosterone) ซึ่งจะควบคุมการทำงานของไตในการดูดน้ำและโซเดียมเข้าสู่เส้นเลือด   และขับโพแทสเซียมออกจากท่อของหน่วยไตให้สมดุลกับความต้องการของร่างกาย ทั้งยังควบคุมสมดุลของความเข้มข้นของฟอสเฟตในร่างกายอีกด้วย การขาดแอลโดสเตอโรนจะมีผลให้สูญเสียน้ำและโซเดียมไปพร้อมกับปัสสวะเป็นจำนวนมากและส่งผลให้ปริมาณเลือด
ในร่างกายลดลงจนอาจทำให้ผู้ป่วยตายเพราะความดันเลือดต่ำได้
     

                                        Image-14.JPG (16446 bytes)

 

                                                                                  ตำแหน่งและโครงสร้างภายในของหมวกไตด้านขวา

    ฮอร์โมนเพศ (sex hormone) ในภาวะปกติฮอร์โมนเพศที่สร้างจากอะดรีนัลคอร์เทกซ์มีเพียงเล็กน้อยเมื่อเปรียบกับฮอร์โมนเพศจากอวัยวะเพศ และส่วนใหญ่ฮอร์โมนเพศจากเนื้อเยื่อนี้จะเป็นฮอร์โมนเพศชาย มีฮอร์โมนเพศหญิงน้อยมาก จึงมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงร่างกายไม่มากนัก ซึ่งนักเรียนจะได้ศึกษาบทบาทและหน้าที่ของฮอร์โมนเพศในหัวข้อฮอร์โฒนจากอวัยวะ อย่างไรก็ดีถ้าต่อมนี้สร้างฮอร์โมนเพศมากเกินปกติ จะทำให้มีความความผิดปกติทางเพศได้ โดยเด็กจะแสดงอาการหนุ่มสาวเร็วขึ้น ขนาดของอวัยวะเติบโตมากขึ้น มีขนขึ้นตามร่างกายมากกว่าปกติ เสียงห้าว ในผู้หญิงที่โตเป็นสาวแล้ว ถ้ามีฮอร์โมนเพศจากต่อมนี้มาก จะมีหนวดเคราเกิดขึ้น
ถ้าอะดรีนัลคอร์เทกซ์ถูกทำลายจนไม่สามาถรสร้างฮอร์โมนได้จะทำให้เป็นโรคแอคดิสัน(Addison'sdisease)
คนไข้จะซูบผอมผิวหนังตกกระ ร่างกายไม่สามาถรรักษาสมดุลของแร่ธาตุได้ ซึ่งจะเป็นสาเหตุให้ผู้ป่วยถึงแก่ความตายได้

   อะดรีนัลเมดัลลา

   เนื้อเยื่อชั้นนี้จะทำหน้าที่สร้างฮอร์โมน 2 ชนิด คือ อะดรีนาลินฮอร์โมน และนอร์อะดรีนาลินฮอร์โมน
      อะดรีนาลินฮอร์โมน (adrenalin hormone) หรือเอพิเนฟรินฮอร์โมน (epinephrine hormmone) ซึ่งเมื่อหลั่งออกมาแล้วมีผลทำให้น้ำตาลในเลือดเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ยังกระตุ้นให้หัวใจเต้นเร็ว ความดันเลือดสูง ทำให้เส้นเลือดอาร์เตอรีขนาดเล็กที่บริเวณผิวหนังและช่องท้องหดตัว
     นอร์อะดรีนาลินฮอร์โมน (noradrenalin hormonne) หรือ นอร์เอพิเนฟรินฮอร์โดมน (norepinephrine homone) ฮอร์โมนชนิดนี้จะหลั่งออกมาจากปลายเส้นประสาทซิมพาเทติกได้ด้วย ผลของฮอร์โดมนชนิดนี้คล้ายกับอะดรีนาลินฮอร์โมนมากคือทำให้ความดันเลือดสูงขึ้น ทำให้เส้นอาร์เตอรีที่ไปเลี้ยงอวัยวะภายในต่าง ๆ บีบตัว การหลั่งฮอร์โมนจากต่อมหมวกไตส่วนนี้จะอยู่ภายใต้การควบคุมของไฮโพทาลามัส ซึ่งในภาวะปกติจะหลั่งฮอร์โมนทั้ง 2 ชนิดในปริมาณที่เหมาะสมกับร่างกาย แต่นักเรียนหลายคนคงจะเคยเห็นเหตุการณ์พิเศษบางอย่างเกิดขึ้น เช่น คนขนของหนีไฟไหม้สามาถรแบกของหนัก ๆ ได้ ทั้งในภาวะปกติไม่สามารถทำได้ ในภาวะเช่นนี้ อะดรีนัลเมดัลลาจะถูกกระตุ้นให้หลั่งอะดรีนาลินฮอร์โมนออกมามากว่าระดับปกติ ทำให้มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น เมแทบอลิซึมเพิ่มมากขึ้น ร่าางกายจึงมีพลังงานมากกว่าปกติ
                                                                                            
กลับไปหน้าแรก