เทคนิคการแต่งหน้า..ง่าย
ๆ
การแต่งหน้าเป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้น
และเต็มไปด้วยสีสัน
คุณสามารถแต่งหน้าได้มากหรือน้อยแค่ไหนก็ได้เท่าที่คุณพอใจ
แต่สิ่งสำคัญก็คือ
คุณจะต้องแต่งให้เหมาะกับตัวคุณและเหมาะกับโอกาส..
การแต่งหน้า คือ
วิธีที่จะทำให้ผู้หญิงสวยขึ้น
ดูมีเสน่ห์มากขึ้น
ผู้หญิงจึงควรรู้วิธีเพิ่มมุมมองให้น่าสนใจต่อผู้พบเห็นและเพศตรงข้ามมาดูวิธีเพิ่มเสน่ห์ของคุณด้วยขั้นตอนง่าย
ๆ
ที่ทำได้ด้วยตัวคุณเองกันเถอะค่ะ...
เทคนิคการแต่งหน้า..ง่าย ๆ
การแต่งหน้าเป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้น
และเต็มไปด้วยสีสันคุณสามารถแต่งหน้าได้มากหรือน้อยแค่ไหนก็ได้เท่าที่คุณพอใจแต่สิ่งสำคัญก็คือ
คุณจะต้องแต่งให้เหมาะกับตัวคุณ
และเหมาะกับโอกาส.. การแต่งหน้า
คือ
วิธีที่จะทำให้ผู้หญิงสวยขึ้นดูมีเสน่ห์มากขึ้นผู้หญิงจึงควรรู้วิธีเพิ่มมุมมองให้น่าสนใจต่อผู้พบเห็นและเพศตรงข้าม
มาดูวิธีเพิ่มเสน่ห์ของคุณด้วยขั้นตอนง่าย
ๆ
ที่ทำได้ด้วยตัวคุณเองกันเถอะค่ะ...
1.
เตรียมพร้อมก่อนการแต่งหน้า
ในการแต่งหน้าให้ออกมาแล้วดูดี
สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือ
ควรมีกระจกขนาดใหญ่พอที่จะเห็นใบหน้าเราได้ทั้งหน้ามีแสงพอเพียง
และมีอุปกรณ์ในการแต่งหน้าที่จำเป็น
อาจใช้ที่คาดผมหรือรวบผมขึ้น
ล้างหน้าให้สะอาดแล้วใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ก่อนการแต่งหน้าทุกครั้ง
ตอนนี้คุณก็พร้อมที่จะเริ่มการแต่งหน้าแล้วล่ะค่ะ
2. ครีมรองพื้นปรับสีผิว
ใช้ในกรณีที่คุณมีสีผิวที่ไม่เสมอกันเท่านั้น
และไม่จำเป็นต้องใช้ทั้งใบหน้าเพราะจะทำให้หน้าลอย
สีของครีมรองพื้นปรับสีผิวจะมีให้เลือกหลายสีเช่น
สีเขียวหรือสีเหลืองจะใช้บริเวณที่สีผิวมีความแดงมากกว่าส่วนอื่น
ๆ เช่น จมูก หน้าผาก หรือแก้ม
ส่วนสีม่วงหรือสีชมพู
จะใช้เพื่อเพิ่มเลือดฝาดบริเวณแก้ม
ส่วนมากจะใช้เวลาแต่งหน้าเจ้าสาว
ซึ่งไม่ว่าจะเลือกใช้สีใด
ควรเกลี่ยทันที
เพราะรองพื้นประเภทนี้จะแห้งเร็วมาก
และใช้ก่อนลงรองพื้นประเภทอื่น
ๆ ค่ะ
3.
ครีมรองพื้นปกปิดริ้วรอย
ช่วยพรางรอยฝ้า กระ จุดด่างดำ
ต่าง ๆ บนใบหน้าได้
โดยเลือกสีให้เข้มกว่าสีผิว 1
ระดับ
แตะบริเวณที่ต้องการปกปิดและใช้ปลายนิ้วเกลี่ยให้เนียน
4. ครีมรองพื้น
เลือกสีครีมรองพื้นให้ตรงกับสีผิวบริเวณคอ
ไม่ใช่เหมือนสีผิวบริเวณท้องแขน
แตะครีมรองพื้นบริเวณที่ไม่มีริ้วรอยก่อนค่อย
ๆ เกลี่ยไล่ไปให้ทั่ว
ระวังอย่าให้มีขอบบริเวณกรอบหน้า
โดยเกลี่ยรองพื้นให้หายเข้าไปในไรผมและควรเกลี่ยรองพื้นบริเวณริมฝีปากด้วย
5. แป้งฝุ่น / แป้งแข็ง
ควรเลือกใช้แป้งฝุ่นชนิดโปร่งแสง
เพราะจะไม่ทำให้สีของรองพื้นที่เลือกแล้วเปลี่ยนไป
คือไม่ขาวขึ้นหรือคล้ำลงใช้พัฟ
หรือ ใช้แปรงด้ามใหญ่สุด
จุ่มแป้งฝุ่นหรือแป้งแข็ง
เกลี่ยให้ทั่วใบหน้า
6. ดินสอเขียนคิ้ว
หลีกเลี่ยงดินสอเขียนคิ้วสีดำ
เพราะจะทำให้หน้าดุ
และดูสูงอายุ
ควรใช้ดินสอเขียนคิ้วสีน้ำตาล
จะดูเป็นธรรมชาติมากกว่าไม่ควรเริ่มเขียนคิ้วจากหัวคิ้ว
จะทำให้คิ้วแข็งดูไม่ธรรมชาติเหมือนคิ้วถาวรโดยเริ่มเขียนห่างจากหัวคิ้วประมาณ
1 ซม. ไล้ไปตามเส้นขนคิ้ว
ไม่กดดินสอจนถึงผิวหนัง
จากนั้นใช้แปรงเขียนคิ้วเกลี่ยตามแนวเดิม
อาจแตะอายแชโดว
สีน้ำตาลเกลี่ยทับอีกครั้ง
เพื่อให้เส้นขนคิ้วดูนุ่มนวลขึ้น
และฝุ่นของอายแชโดว์จะช่วยทำให้หางคิ้วไม่หายไปในระหว่างวัน
จากนั้นใช้แปรงเขียนคิ้วเท่าที่มีสีติดอยู่
ไม่ต้องจุ่มสีใหม่
เกลี่ยย้อนมาทางหัวคิ้วให้เบลอหายมาทางสันจมูก
ความยาวของคิ้ววัดโดยใช้พู่กัน
ทาบจากปลายจมูก มาทางหางตา
จบตรงไหนหางคิ้วควรจะจบตรงนั้นจะเป็นสัดส่วนคิ้วที่สวยงามค่ะ
7. อายแชโดว์
ก่อนทาอายแชโดว์ ควรแตะแป้งฝุ่น
บริเวณใต้ตา
เพื่อป้องกันอายแชโดว์สีเข้ม
ตกลงมาเลอะ
เริ่มใช้อายแชโดว์สีอ่อน เช่น
สีครีม สีชมพูอ่อน
ทาให้ทั่วเปลือกตา
-
ถ้าในวันนั้นใส่เสื้อผ้าสีโทนร้อน
เช่น สีเหลือง สีส้ม สีน้ำตาล
ก็เลือกใช้อายแชโดว์สีส้ม
เกลี่ยจากแนวหางตาเข้ามาทางหัวตา
เว้นแนวโหนกคิ้วไว้
แล้วใช้อายแชโดว์สีน้ำตาลเกลี่ยชิดแนวขอบตา
เริ่มจากหางตาเข้ามากึ่งกลางตาทำเช่นเดียวกันกับขอบตาล่าง
เพื่อให้เกิดความสมดุลย์ของสีสันค่ะ
- แต่ถ้าใส่เสื้อผ้าสีโทนเย็น
เช่น สีชมพู สีฟ้า สีม่วง
ก็เลือกใช้อายแชโดว์สีชมพู
หรือสีม่วง
เกลี่ยจากแนวหางตาเข้ามาทางหัวตา
เว้นแนวโหนกคิ้วไว้เช่นเดียวกัน
แล้วใช้อายแชโดว์สีเทา
หรือสีน้ำเงิน
เกลี่ยชิดแนวขอบตา
เริ่มจากหางตาเข้ามากึ่งกลางตา
และทำเช่นเดียวกันกับขอบตาล่าง
เช่นเดียวกันค่ะ
8. ดินสอเขียนขอบตา
นิยมใช้ในการแต่งหน้างานกลางคืน
หรือในโอกาสพิเศษ
เพื่อเน้นดวงตาให้คมขึ้น
หลังจากใช้ดินสอเขียนขอบตาแล้ว
ควรใช้พู่กันปลายฟองน้ำเกลี่ยทับอีกครั้งเพื่อลดความแข็งของเส้นดินสอ
และอาจใช้แปรงแตะอายแชโดว์สีใกล้เคียงกัน
ทาทับอีกครั้ง
เพื่อความเป็นธรรมชาติมากขึ้นค่ะ
9. มาสคาร่า
ควรดัดขนตาก่อนปัดมาสคาร่าทุกครั้ง
ควรปัดมาสคาร่าทั้งขนตาบนและขนตาล่าง
เลือกใช้มาสคาร่าชนิดที่ป้องกันการเลอะเทอะ
(smudgeproof)
เพื่อป้องกันมาสคาร่าเลอะใต้ตาในระหว่างวัน
โดยเฉพาะถ้าคุณเป็นคนผิวมันค่ะ
10. บลัชออน
ใช้แปรงปัดแก้ม
ปัดบลัชออนบริเวณโหนกแก้ม
ให้หายไปทางไรผม
โดยเลือกสีบลัชออนให้เข้ากับสีของอายแชโดว์ที่ใช้ในวันนั้น
คือ โทนร้อน เลือกใช้สีบลัชออน
สีส้ม สีน้ำตาล ส่วนโทนเย็น
ใช้สีชมพู ค่ะ
11. ดินสอเขียนขอบปาก
ใช้เพื่อสร้างกรอบ
ทำให้ลิปสติกไม่เลอะออกมานอกริมฝีปากเวลาทานของร้อน
ๆ
และใช้แก้ไขรูปปากให้ได้รูปมากขึ้น
โดยเลือกสีให้เข้ากับสีสันของอายแชโดว์และบลัชออนเช่นกันค่ะ
12. ลิปสติก
ควรใช้พู่กันป้ายสีจากลิปสติกแล้วทาลงบนริมฝีปาก
จะทำให้ลิปสติกไม่เป็นคราบ
และประหยัดลิปสติกมากกว่าค่ะโดยเลือกสีลิปสติกให้ใกล้เคียงกับสีของดินสอเขียนขอบปาก
คำแนะนำเพิ่มเติม
-
ไม่ควรให้ใครยืมอุปกรณ์การแต่งหน้า
เพราะคุณสามารถติดโรคตา
หรือโรคหวัดได้
- การเลือกสีครีมรองพื้น
ควรทดสอบในขณะที่ไม่ได้แต่งหน้า
โดยเกลี่ยรองพื้นบริเวณแนวขากรรไกรให้ได้สีที่เหมือนกับสีผิวบริเวณคอ
-
เครื่องสำอางประเภทดินสอทุกชนิด
ควรเหลาให้แหลมก่อนใช้ทุกครั้ง
- รักษาความสะอาดของพัฟพ์
และแปรงแต่งหน้าเป็นประจำ
โดยล้างทำความสะอาดอย่างน้อยอาทิตย์ละ
1 ครั้ง
|