DETECTIVE CONAN VOL.2
File 01 : สะกดรอยตาม ดร. อากาสะทำอุปกรณ์ใหม่ให้โคนัน เป็นรองเท้าเพิ่มพลังเตะ แถมยังจับโคนันเข้าโรงเรียนประถมเทตันด้วย เหตุผลว่าถ้าไม่ไปโรงเรียนคนอื่นจะสงสัยเอา วันแรกในโรงเรียนประถมโคนันก็โดนเพื่อนๆ หัวเราะเยาะชื่อ ตลกๆ ซะแล้ว โคนันทดลองใช้รองเท้าเพิ่มพลังเตะในชั่วโมงพละ ปรากฏว่ารองเท้าแรงมากจริงๆ ขนาดทำให้ ต้นไม้ใหญ่หักได้ ระหว่างทางกลับบ้าน โคนันพบโคโกโร่กำลังสะกดรอยตามคนอยู่ โคโกโร่ดีใจมากที่ได้งานง่ายๆ ตามดูคน 3 วันก็ได้ 5 แสนเยนแล้ว เย็นวันนั้นโคโกโร่ก็พูดถึงโคนันว่าจะอยู่ไปถึงเมื่อไหร่ รันก็บอกว่า ดร.อากาสะบอกว่าพ่อแม่ของโคนันออกจากโรงพยาบาลแล้วแต่ต้องไปต่างประเทศกะทันหัน เลยต้องขอฝาก ต่อไปอีก โคโกโร่รู้สึกคุ้นๆ หน้าโคนันว่าเคยเห็นตอนรันยังเด็กๆ แต่ก่อนที่จะถูกเปิดโปง โคโกโร่ก็ได้ยินข่าวจาก ทีวีว่า เนกิชิ มาซากิ คนที่เขาสะกดรอยตามมา 3 วันเต็ม ตายแล้วในกองไฟที่เทศกาลบูชาไฟ File 02 : อำพรางคดี โคโกโร่ต้องไปให้การที่สถานีตำรวจในฐานะพยานคนหนึ่ง จึงได้พบความแปลกของคดีนี้ว่า ผู้ตายทำประกันชีวิต ไว้ 500 ล้านเยน แต่เงินประกันจำนวนมหาศาลนั้นกลับมีชื่อผู้รับเป็นคุณอาเบะ ยูตากะ เพื่อนผู้ตายและคนที่จ้าง โคโกโร่ให้สะกดรอยตาม อาเบะบอกว่าเมื่อ 3 เดือนที่แล้วเขากับเนกิชิพนันกันว่าใครจะอายุยืนกว่ากัน โดยการทำ ประกันชีวิตคนละ 500 ล้านเยนแล้วใส่ชื่อผู้รับเงินประกันเป็นอีกฝ่ายหนึ่ง ส่วนเรื่องที่จ้างโคโกโร่ให้สะกดรอย ตามนั้น เป็นเพราะว่าเนกิชิมาปรึกษาว่ากำลังถูกคนไล่ล่าอยู่จึงจ้างโคโกโร่ให้สืบดูเพื่อความแน่ใจ ทั้งโคโกโร่และ สารวัตรเมกูเระต่างก็สงสัยอาเบะทั้งคู่ แต่ไม่มีหลักฐานพยานเลย ทำให้โคโกโร่รู้สึกเจ็บใจมาก ที่ตัวเองถูกใช้เป็น พยานปกป้องตัวอาเบะ โคโกโร่พยายามหาหลักฐานให้ได้ว่าอาเบะเป็นฆาตกร แต่เนื่องจากโคโกโร่ตามผู้ตายตั้ง แต่วันจันทร์ถึงวันพุธเย็น ผู้ตายตายคืนวันพฤหัส ฆาตกรจึงน่าจะลงมือภายในช่วงคืนวันพุธจนถึงเย็นวัน พฤหัสเท่านั้น ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง อาเบะก็จะหลุดจากการเป็นผู้ต้องสงสัยทันที เพราะเขาไปเที่ยวคิวชูกับบริษัท ตั้งแต่วันพุธจนถึงคืนวันศุกร์ แถมยังมีรูปถ่ายเป็นหลักฐานตลอดเวลาเที่ยวอีกต่างหาก โคนันรู้สึกสงสัยรูปถ่าย เพราะอาเบะถ่ายรูปกับนาฬิกาตลอดเหมือนจงใจถ่ายเป็นหลักฐาน เขาจึงค้นดูกองรูปถ่าย และพบช่องโหว่จน ได้ File 03 : รูปภาพพูดได้ โคนันรู้สึกสงสัยรูปถ่ายที่โคโกโร่ถ่ายไว้ตอนสะกดรอยตาม โคโกโร่ปักใจเชื่อว่าอาเบะเป็นฆาตกรแน่ เพราะเขามี แรงจูงใจ คือบริษัทของอาเบะเป็นหนี้อยู่ 300 ล้านเยน เขาคิดว่าอาเบะคงเอาเงินประกันไปใช้หนี้ ส่วนที่เหลือก็ เอาไว้ใช้หนีคดีไปอยู่ต่างประเทศ โดยที่อาเบะกำลังจะบินไปคืนนี้ตอน 3 ทุ่ม คืออีก 3 ชั่วโมงข้างหน้าเท่านั้น โคนันเห็นว่าเวลาน้อยเกินกว่าจะหาหลักฐานอื่นอีก จึงต้องใช้วิธีทำให้อาเบะสารภาพออกมาเอง โคนันใช้เครื่อง เปลี่ยนเสียงปลอมเป็นเสียงสารวัตรโทรไปหาโคโกโร่ให้ไปที่สนามบิน และโทรไปหาสารวัตรด้วยเสียงโคโกโร่ให้ ไปที่สนามบินเช่นกัน พอโคโกโร่มาถึงสนามบิน โคนันที่ตามมาด้วยก็ล่อให้อาเบะออกมาโดยการประกาศเรียกตัว อาเบะไปที่ลานจอดรถโดยใช้ชื่อ "เนกิชิ" พออาเบะไปที่ลานจอดรถ โคนันก็เริ่มเปิดโปงแผนการของอาเบะว่า อาเบะฆ่าเนกิชิตั้งแต่คืนวันอังคาร แล้วเอาศพไปซ่อนให้เจอพอดีตอนเย็นวันพฤหัส ส่วนคนที่โคโกโร่สะกดรอย ตามตั้งแต่วันพุธเป็นตัวปลอมที่อาเบะจ้างให้มาเดินไปเดินมาตบตาโคโกโร่ ที่จับได้ก็เป็นเพราะตัวปลอมที่อาเบะ จ้างมาถนัดมือซ้ายซึ่งต่างจากตัวจริง พออาเบะเห็นว่าคนที่เปิดโปงเขาได้นั้นเป็นเด็กก็หัวเราะแล้วพูดออกมาว่า "ฉันคือคนฆ่าเนกิชิ มาซากินั่นแหละ อาเบะ ยูตากะคนนี้เอง..." เพราะคำพูดของเด็กไม่มีน้ำหนักพอจะใช้เป็นหลัก ฐานได้ แต่ปรากฏว่าโคนันอัดเทปเสียงตอนที่อาเบะสารภาพไว้หมดแล้ว อาเบะจึงตรงเข้าทำร้ายโคนัน โคนันก็ใช้ รองเท้าเพิ่มพลังเตะเตะยางรถยนต์กระแทกหัวอาเบะจนสลบ และถูกตำรวจจับได้ในที่สุด File 04 : ชายผู้หายไป ดร. อากาสะทำอุปกรณ์ใหม่ให้โคนันอีกแล้ว คราวนี้เป็นแว่นเรดาร์กับเครื่องส่งสัญญาณที่ติดไว้ที่กระดุมเสื้อ โคนัน ซึ่งใช้ได้ในรัศมี 20 กิโลเมตร เย็นวันนั้น มีผู้หญิงชื่อฮิโรตะ มาซามิ มาหาโคโกโร่ที่สำนักงานนักสืบ ขอให้ ช่วยสืบหาพ่อของเธอ ฮิโรตะ เคนโซ ซึ่งจากบ้านที่ยามางาตะมาทำงานที่โตเกียวแล้วหายไปเลย โคนันเห็นว่าเป็น คดีตามคนหายจึงไม่ได้สนใจฟังนัก เขาหันมาเล่นกับอุปกรณ์ใหม่แทน โคนันกะจะเอาเครื่องส่งสัญญาณติดไว้ที่ รันเป็นการทดสอบ แต่สะดุดสายไฟฮีตเตอร์เลยพลาดไปแปะอยู่ที่นาฬิกาของมาซามิแทน โคโกโร่พยายามออก ตามหา แต่เป็นอาทิตย์ผ่านไปแล้วก็ยังไม่เจอตัว พอดีโคนันได้ยินชื่อม้าแข่ง "โกไคเทโอ" ทำให้เขานึกถึงแมว ของฮิโรตะที่มาซามิบอกว่าเลี้ยงไว้ 4 ตัวชื่อ "โก" "ไค" "เท" และ "โอ" พอดีรันมาเห็น เธอจึงบอกพ่อให้ลองไป หาดูที่สนามแข่งม้า ทั้งสามจึงแวะไปที่สนามม้าโตเกียว และเจอตัวฮิโรตะโดยบังเอิญ รันคิดจะตามไปเรียก แต่ โคโกโร่บอกว่าน่าจะตามไปดูว่าบ้านอยู่ไหนดีกว่า มาซามิพอทราบข่าวจากโคโกโร่ก็มาโดยทันที แล้วมาซามิกับ ฮิโรตะก็ได้เจอกันอีกครั้ง โคโกโร่เองก็รู้สึกดีใจที่เสร็จไปอีกงาน แต่เรื่องยังไม่จบแค่นี้ ที่หัวมุมมีชายตัวโตสวม แว่นดำจ้องมองมาทางพวกเขาอย่างน่าสงสัย ตอนดึกของวันนั้น ฮิโรตะก็ถูกฆ่าตายกลางห้องพัก FIle 05 : สาวน้อยผู้น่าสงสาร รันกังวลใจเรื่องของมาซามิ จึงโทรไปหาเธอ แต่เบอร์ที่มาซามิให้มานั้นใช้ไม่ได้ รันจึงไปดูที่อพาร์ทเมนต์ของ ฮิโรตะ ก็ได้ทราบข่าวจากผู้ดูแลว่าฮิโรตะตายแล้ว ผู้ดูแลบอกว่าฮิโรตะจ่ายค่าเช่าล่วงหน้า 1 ปีด้วยแบงค์ใหม่ หมด แถมยังบอกว่าตำรวจคิดว่าเป็นคดีฆาตกรรมเสียด้วย โคโกโร่ โคนัน และรันจึงไปหาสารวัตรเมกูเระที่สถานี ตำรวจ สารวัตรเดาว่าฆาตกรน่าจะเป็นผู้ชายตัวโต และพบแว่นของมาซามิตกอยู่ใกล้ๆ ที่เกิดเหตุ แต่ไม่พบตัว มาซามิจังที่ไหนเลย ขณะที่กำลังเดินกลับบ้าน โคนันก็ฉุกคิดถึงเครื่องส่งสัญญาณที่ไปเผลอติดไว้กับนาฬิกาข้อ มือของมาซามิ เขาจึงใช้แว่นเรดาร์ตามสัญญาณไปจนถึงร้านปาจิงโกะ โชคร้ายที่ถ่านหมดพอดี จึงยังไม่ได้เจอ ตัวมาซามิ กลับมาที่สำนักงานนักสืบ รันจ้องออกไปข้างนอก และนึกสงสัยชายตัวโตที่จ้องมาทางสำนักงาน นักสืบ จึงเรียกโคโกโร่มาดู โคโกโร่ก็จำได้ว่าเคยเจอที่หน้าอพาร์ทเมนต์ของฮิโรตะ รันจึงกระโดดลงไปจากชั้น สอง พุ่งตรงเข้าไปจับตัวไว้ทันที ปรากฏว่าชายคนนี้ไม่ใช่คนร้าย แต่เป็นนักสืบที่มีคนจ้างให้ตามหาคุณฮิโรตะ เช่นกัน และคนที่จ้างเขาก็คือชายคนที่โคนันวิ่งชนในร้านปาจิงโกะนั่นเอง File 06 : ไล่ตามผู้ชายคนนั้นไป! พอโคโกโร่ได้คุยกับนักสืบคนนั้นก็ปรากฏว่าทั้งคู่ได้ข้อมูลเกี่ยวกับฮิโรตะจากผู้ว่าจ้างไม่ตรงกัน นักสืบคนนั้นบอ กว่าอากิระ คนที่จ้างบอกให้เขาตามหาฮิโรตะซึ่งเป็นพี่ชายคนเดียวของเขาจากคิวชู ซึ่งขัดกับข้อมูลที่โคโกโร่ได้ จากมาซามิ เขายังบอกอีกว่าฮิโรตะชอบขับรถวิ่งตามเส้นทางเดิมทุกๆ เย็นทั้งๆ ที่ไม่มีผู้โดยสาร แถมยังขับอย่า งเร็วเสียด้วย นอกจากนั้นก็บอกว่าอากิระเป็นคนตัวใหญ่มาก โคโกโร่จึงคิดว่าอากิระเป็นคนฆ่าฮิโรตะแล้วจับตัว มาซามิไป โคนันคิดจะออกตามคนร้ายด้วยแว่นเรดาร์ แต่ลืมไปว่าถ่านหมดแล้ว เขาจึงแวะไปหาดร. อากาสะให้ ช่วยชาร์จแบตเตอรี่ให้ ดร. อากาสะเตือนโคนันให้รอบคอบให้มาก แล้วยกตัวอย่างคดีปล้นเงินพันล้านที่ตำรวจ ไม่วางแผนจับตัวให้ดี จึงทำให้เจ้าหน้าที่ตายไป 1 คน แล้วแนะนำให้พาโคโกโร่ไปด้วย "สุขุม เยือกเย็น รอบคอบ และถี่ถ้วน.....นั่นคือเชอร์ล็อก โฮล์มส์ที่เธอชอบไม่ใช่รึ?"โคนันจึงกลับไปที่สำนักงานนักสืบ แล้วพาโคโกโร่ รัน กับนักสืบคนนั้นตามไปด้วย จนไปถึงโรงแรมที่ได้สัญญาณจากเครื่องส่ง ทุกคนตรงไปที่ลิฟต์ แต่ก็ชนกับ ผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งขนสัมภาระรุงรัง ทำให้ต้องเสียเวลามากขึ้นอีก พอขึ้นไปถึงห้อง 802 ก็ปรากฏว่าห้องไม่ได้ ล็อก และอากิระก็ตายแล้วเพราะกินไซยาไนด์เข้าไป โคนันพบนาฬิกาของมาซามิที่ข้อมือของอากิระ และกระเป๋า เดินทางเปล่าๆ จำนวนมาก ในขณะเดียวกัน โคโกโร่ก็โทรไปหาสารวัตรเมกูเระ แต่ก็ได้ข้อมูลจากสารวัตรว่า ฮิโรตะเป็นโสด ไม่มีญาติ แถมยังเกิดในโตเกียวอีกด้วย เรื่องทั้งหมดทำให้โคโกโร่งุนงง แต่โคนันเข้าใจคดีนี้แล้ว FIle 07 : ผู้หญิงที่เหมือนปิศาจ โคนันสรุปได้ว่าอากิระ มาซามิ และฮิโรตะ ไม่ได้เป็นญาติกัน แต่เป็นโจรที่รวมหัวกันปล้นเงินในคดีปล้นเงินพัน ล้านนั่นเอง ซึ่งที่ฮิโรตะชอบขับรถตามเส้นทางเดิมทุกวันก็คงเป็นการซ้อมหลบหนี และวันนั้นฮิโรตะคงจะหัก หลัง 2 คนที่เหลือเอาเงินไปคนเดียว อากิระกับมาซามิจึงรีบร้อนจ้างนักสืบหาตัวฮิโรตะ แต่ในเมื่ออากิระกับ ฮิโรตะตายแล้ว จึงสรุปได้ว่าตัวการใหญ่ของคดีนี้ก็คือมาซามินั่นเอง โคนันฉุกคิดถึงผู้หญิงที่พวกเขาเดินชน หน้าลิฟต์ได้ว่า สัมภาระมากขนาดนั้นน่าจะเป็นเงินพันล้านแน่ๆ เขาจึงรีบวิ่งตามลงไป พอรันถามว่าจะไปไหน เขาก็ตอบว่า "เจอมาซามิจังแล้ว" รันจึงวิ่งตามโคนันไปทันที พอลงไปก็ปรากฏว่ามาซามิเพิ่งนั่งแท็กซี่ออกไป โคนันกับรันจึงรีบแซงคิวแท็กซี่ตามมาซามิไปทันทีจนถึงที่ท่าเรือมาซามิ ซึ่งจริงๆ แล้วก็คือมิยาโนะ อาเคมิ ไป พบกับชายชุดดำที่นั่น อาเคมิคุยกับชายชุดดำ ชายชุดดำบอกให้อาเคมิส่งเงินมา แต่อาเคมิไม่ตกลง เธอบอกให้ ส่งตัวน้องสาวของเธอมาก่อนตามสัญญาว่าถ้าเสร็จงานนี้จะให้น้องสาวของเธอออกจากองค์กร ชายชุดดำไม่ ตกลงตามนั้น แล้วชายชุดดำก็เล็งปืนมาทางอาเคมิ โคนันกับรันวิ่งไปตามซอกตู้คอนเทนเนอร์ จนเจอตัวอาเคมิ แต่ปรากฏว่าเธอล้มลง ข้างๆ มีปืนกระบอกหนึ่งตกอยู่ โคนันเรียกให้รันไปตามโคโกโร่กับรถพยาบาล อาเคมิเล่า เรื่องของเธอว่าเธอเป็นแค่ลิ่วล้อหางแถวขององค์กรที่มีสีสัญลักษณ์เป็นสีดำสนิทเหมือนอีกา โคนันจึงนึกถึง พวกชายชุดดำที่กรอกยาเขาทันที ก่อนจะตาย อาเคมิบอกให้โคนันไปเอาเงินพันล้านที่เธอฝากเคาน์เตอร์โรงแรม ไว้ก่อนที่พวกชายชุดดำจะเอาไป แล้วอาเคมิก็สิ้นใจตรงนั้นก่อนที่ตำรวจและพยาบาลจะมาถึง คดีโจรปล้นเงิน พันล้านจึงปิดลงโดยว่าเธอฆ่าตัวตายเพราะสำนึกบาป แต่โคนันรู้ว่าตัวการที่แท้จริงยังคงลอยนวลอยู่ในความ มืด... File 08 : บ้านผีสิง อายูมิ เพื่อนร่วมชั้นของโคนัน มาชวนโคนันไปล่าผีที่บ้านร้างในเขต 4 กับเธอ เก็นตะ และมิสึฮิโกะซึ่งถูกเก็นตะ ลากตัวไปด้วย อายูมิเล่าเรื่องบ้านนั้นให้ฟังว่า 5 ปีก่อนเจ้าของบ้านถูกฆ่าตายโดยที่จับตัวคนร้ายไม่ได้ ภรรยา กับลูกก็ย้ายไปอยู่ที่อื่น แล้วจากนั้นคนแถวนั้นก็จะได้ยินเสียงร้องน่ากลัวกลางดึก เล่ากันว่าหมาที่หลงเข้าไปใน บ้านนั้นรุ่งเช้าจะเหลือแต่กระดูก และอายูมิเองเมื่อวันก่อนก็เห็นดวงไฟลอยในบ้านจากทางหน้าต่างด้วย เย็นวันนั้นทั้ง 4 ก็มาอยู่ตรงหน้าบ้านร้าง ถึงแม้รั้วหน้าบ้านจะล็อก แต่ตรงกำแพงหินข้างๆ บ้านมีทางลับอยู่ ด้วย ประกอบกับประตูบ้านไม่ได้ล็อก ทั้งสี่จึงเข้ามาในบ้านได้ มิสึฮิโกะแยกออกมาเข้าห้องน้ำ แต่ขณะที่กำลังจะ เดินกลับ เขาก็ได้ยินเสียงแปลกๆ จึงตัดสินใจไปดูให้รู้ว่าเสียงอะไร เขาพบบันไดลงไปใต้ดินซึ่งเป็นแหล่งที่มา ของเสียง มิสึฮิโกะจึงตัดสินใจเดินลงไป เขาเจอห้องที่สุดบันได แต่สิ่งที่อยู่ในห้อง ทำให้เขาตกใจร้องลั่น เพื่อนๆ พอได้ยินเสียงของเขาก็รีบวิ่งออกตามหาตัวเขาทันที File 09 : เด็กๆ ที่หายไป โคนัน อายูมิ และเก็นตะออกตามหาตัวมิสึฮิโกะ แต่ก็ไม่เจอ โคนันที่รู้สึกสงสัยบ้านนี้ว่า ทำไมบ้านร้างไม่มีคนอยู่ถึง 5 ปีถึงมีประตูลับ ยังมีน้ำประปาไหล และมีหน้าต่างที่เปิดทิ้งไว้แต่กลับไม่มีร่องรอยฝนหรือลมที่พื้นห้องเลย จึงบอกให้อายูมิกับเก็นตะไปหลบที่ห้องข้างๆ ส่วนตัวเองก็ออกตามหามิสึฮิโกะ เก็นตะกับอายูมิที่นั่งรออยู่ได้ กลิ่นอาหารจากด้านในคฤหาสน์ เก็นตะจึงออกไปดู แล้วจู่ๆ เขาก็ร้องลั่น อายูมิจึงเดินออกมาดูและพอดีเจอกับ โคนัน ทั้งสองซ่อนอยู่ในซอกกำแพง และแล้วก็มีคนเดินมา เป็นผู้หญิงกำลังขนอะไรซักอย่างอยู่ พอเธอเดินไป พ้นแล้ว ทั้งสองก็วิ่งตามไปดู แต่ผู้หญิงคนนั้นก็หายตัวไปในทางตัน โคนันจึงลองดูรอบๆ ก็พบประตูทางลับ ลงไปห้องใต้ดิน โคนันใช้เชือกยืดหดได้ที่ได้จากดร. อากาสะดึงประตูลับขึ้น แล้วทั้งสองก็เดินลงไปจนสุด ที่ ห้องใต้ดินนั้นมีกรงขัง ข้างในมีคนอยู่ แต่ก่อนที่ทั้งสองจะได้ตกใจ ก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น มีใครกำลังลงมาที่นี่ นั่นเอง File 10 : ฝันร้ายในห้องใต้ดิน โคนันกับอายูมิรีบวิ่งไปหลบหลังตู้ล็อกเกอร์ คนที่ลงมาก็คือผู้หญิงที่โคนันกับอายูมิตามมานั่นเอง เธอถือถาด อาหารมาให้ชายที่อยู่ในกรงขัง จากคำพูดของหญิงคนนั้น ทำให้โคนันเริ่มเข้าใจความลับในบ้านหลังนี้กับคดี ฆาตกรรมเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ทันใดนั้น ไม้ถูพื้นที่พิงอยู่ข้างๆ ก็เริ่มล้มลงมา โคนันเอาเท้ายันไว้ไม่ให้มันล้มได้ทัน แต่แล้วถังโลหะที่ตั้งอยู่บนล็อกเกอร์ก็ตกลงมาแทน เสียงถังกระทบพื้นดึงความสนใจของหญิงคนนั้น เธอจึง เดินตรงมาทางตู้ล็อกเกอร์พร้อมมีดในมือ โคนันจึงตัดสินใจเปิดเผยความลับทั้งหมดที่เขาพบในบ้านนี้คดีฆาต กรรมเมื่อ 5 ปีที่แล้วนั้น โคนันสรุปได้ว่าฆาตกรคือลูกชายเจ้าของบ้าน คนที่นั่งอยู่ในกรงขังนั่นเอง ส่วนหญิง คนนั้นก็คือภรรยาซึ่งพยายามปกป้องลูกชายจากเงื้อมมือของกฎหมาย โดยการขังลูกชายไว้ในบ้านจนกว่าคดีจะ หมดอายุความ หญิงคนนั้นพอได้ฟังโคนันก็โมโหหมายจะฆ่าโคนัน แต่ลูกชายบอกให้แม่หยุด แล้วตัวเขาเองก็สาร ภาพว่าฆ่าพ่อเพราะพ่อดูถูกเขาที่เอ็นท์ไม่ติดมา 3 ปีแล้ว พอแม่มาพบแม่จึงพยายามปกป้องเขาโดยการอำพราง คดีให้ดูเหมือนถูกปล้นแล้วซ่อนตัวลูกชายไว้ใต้ดิน แต่บัดนี้เขากำลังรู้สึกทุกข์ทรมานใจกับบาปที่ตัวเองทำลงไป และต้องการชดใช้บาปนั้น หญิงคนนั้นได้ฟังก็ร้องไห้ แล้ววันรุ่งขึ้นทั้งสองก็เข้ามอบตัวกับตำรวจ ปิดคดีลงได้ในที่สุด ส่วนเก็นตะและมิสึฮิโกะนั้น ถูกจับกรอกยานอนหลับแล้วอุ้มมาไว้กลางสนามนอกบ้าน เด็กๆ ทั้งสี่ หลังผ่านคืนสยองขวัญมาแล้วก็ถูก ผู้ปกครองดุด่าเป็นการใหญ่ โทษฐานที่หนีไปเล่นซนทั้งคืน ถึงกระนั้น อายูมิก็ยังไม่เข็ด เธอชวนโคนันไปล่าผีที่บ้าน "เอโต้" ที่เขต 2 ซึ่งมี เด็กผู้ชายอยู่คนเดียวกับหนังสือเก่าๆ เยอะแยะ อายูมิอ่านคำว่า "เอโต้" ผิด จริงๆ แล้วมันต้องอ่านว่า "คุโด้" ใช่แล้ว บ้านชินอิจินั่นเอง