|
ชื่อฟังดูแล้วเป็นไงกันบ้างเพื่อนๆ
คือเมื่อสมัยตอนเรียนกอ่ะนะ
(เพิ่งผ่านมาไม่นานนิ)
ต้องเรียนวิชาเศรษฐศาสตร์แล้วเค้ามีการสอบกัน
แต่สอบวันวาเลนไทน์พอดิบพอดีเลย
อาจารย์ก็แหมช่างคิดได้น้อ
ให้เราสอบในหัวข้อ "เศรษฐศาสตร์กับความรัก"
มาดูกัน อิอิ เศรษฐศาสตร์กับความรัก
Economics of Love
จงเติมคำลงในช่องว่างต่อไปนี้ให้ถูกต้อง
คำกล่าวของ ลอร์ด ลีออนเนล(Lord Lionel Robbins) ที่ว่า "เศรษฐศาสตร์ คือ ศาสตร์ที่ศึกษาเกี่ยวกับทางเลือกหนทางในการใช้ทรัพยากรอันมีอยู่จำกัด เพื่อตอบสนองสินค้าและบริการเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด" เป็นเรื่องสำคัญต่อชีวิต และเป็นเรื่องที่ใช้ในชีวิตประจำวันอยู่เสมอ...เพราะตั้งแต่ผมรู้จักคุณผมเริ่มสังเกตุเห็นว่า ผมเลือกที่จะรัก และอยากมอบแต่สิ่งดีๆ ให้กับคุณ
1. คุณสอนให้ผมเข้าใจปัจจัยการผลิตทางเศรษฐศาสตร์มากขึ้น....
ที่ดิน คือ ทรัพยากรต่างๆ ที่อยู่บนดิน ที่ผมนำมา...ให้คุณ
แรงงาน คือ กำลังกาย กำลังใจ และความคิด ความรู้สึก ของผม...ที่มีต่อคุณ
ทุน คือ เครื่องจักร และเครื่องมือ ซึ่งสำหรับผมแล้ว..มันได้แก่ ความรักที่มอบให้กับคุณ
ผู้ประกอบการ
คือ คนที่นำปัจจัยต่างๆ มาผลิตความรักให้มีประสิทธิภาพ ซึ่งมันก็คือตัวผม...คนที่รักคุณ
2.
คุณสอนให้ผมรู้จักคำว่า เศรษฐทรัพย์ (สินค้าที่มีราคามากกว่า 0)
โดยไม่ต้องมีตัวอย่าง...
ผมต้องมีต้นทุนความรัก เพื่อจะมอบเป็น ของขวัญ(สินค้าที่มีมูลค่าแต่มอบให้เนื่องจากความห่วงหา)
ให้กับคุณ และ คุณทำให้ผมเข้าใจว่า สำหรับคุณแล้ว ความรักของผมเป็นเพียง สิ่งเล็กน้อย (มันก็ชัดเจนแล้วอ่ะนะ T__T)โดยไม่ต้องอธิบายเพิ่มเติม
3. คุณสอนให้ผมเข้าใจคำว่า เศรษฐศาสตร์วิเคราะห์ และเศรษฐศาสตร์นโยบายมากขึ้น...ผมรักคุณ คือ ความรู้สึกทั้งหมดที่มี(เศรษฐศาสตร์วิเคราะห์)
(ข้อเท็จจริง เรื่องจริง)
คุณน่าจะรักผมบ้างนะ คือ รักคนที่เค้ารักเราดีกว่า (เศรษฐศาสตร์นโยบาย)
(เรื่องที่ควรจะเป็น)
4. คุณสอนให้ผมตอบปัญหาเศรษฐกิจได้ง่ายขึ้น (ปัญหา what, how,
for whom)
what ผลิตอะไร ก็คือ ผลิตสิ่งที่คุณต้องการ คือความรัก ความห่วงใย ผลิตจำนวนเท่าไหร่
เพื่อให้ความรักมีเพียงพอและตรงตามความต้องการของคุณ
how ผลิตอย่างไร
คือผลิตจาก ใจด้วยวิธีที่ทำให้คุณรักสัดส่วนเท่าไหร่ปัจจัยการผลิตเท่าไหร่
ปัจจัยความรัก ความห่วงใยที่เหมาะสม ไม่มากเกินไป ไม่น้อยเกินไป แต่มีให้นิรันดร์
for whom เพื่อใคร คือ เพื่อ กลุ่มเป้าหมายที่หัวใจต้องการ นั่งคือคุณ
5. คุณสอนให้ผมรู้จักกลไกรราคาของตลาด..
ผม..คนที่เลือกที่จะรักคุณ มีแต่จะมอบความรักให้คุณมากขึ้นทุกๆ วันในขณะที่คุณจะต้องการมันน้อยลงทุกวันตรงกับทฤษฎีใดในเศรษฐศาสตร์ ทฤษฎีอรรถประโยชน์ กฎการลดน้อยถอยลงของอรรถประโยชน์หน่วยสุดท้าย
6. คุณสอนให้ผมรู้ว่าจุดดุลภาพระหว่างเราหายากเพียงใด...
เพราะเหตุใด แม้ว่าฉันจะให้ความรักกับคุณมากเท่าใด หากคุณไม่ต้องการมันก็ไร้ค่า
รักของฉันที่ให้ไปกลับกลายเป็นแค่ส่วนเกินในหัวใจของคุณ
แต่จำไว้ว่าไม่ว่าคุณต้องการความรักจากฉันมากแค่ไหน
ฉันจะพยายามมีให้มากเท่าที่คุณต้องการ
เพื่อให้รักของเรามีจุดดุลยภาพที่สมดุลกันตลอดไป
7. คุณสอนให้ผมเข้าใจ ความหมายของเส้น PPC (เส้นความเป็นไปได้ในการผลิต)
การมีอยู่อย่างจำกัด การเลือก และ ค่าเสียโอกาส ได้อย่างชัดจน..
เพราะ...ความรักจากหัวใจของผมมี จำกัด
เพราะฉะนั้นผมจะต้อง เลือก
มอบความรักให้กับใครแค่คนเดียว และผมจะ ไม่คิดว่ามันเป็นการเสียโอกาส
ในการที่จะรักใครคนอื่นอีก แต่ ค่าเสียโอกาส แค่นี้มันน้อยเกินไป เมื่อเทียบกับการได้รักคุณ
8. คุณสอนให้ผมเข้าใจความหมายของอุปสงค์ อุปทานและความยืดหยุ่นดีขึ้น
อุปสงค์ คือ
ความรัก ความห่วงใย ความเข้าใจ ที่ผมต้องการจากคุณ
และ ความยืดหยุ่นของมันจะมีค่าเป็นศูนย์ตลอดไป
หมายความว่า ไม่ว่าคุณจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร จะปฏิบัติกับฉันเหมือนเดิมหรือไม่ ฉันก็ยังคงต้องการความรักจากคุณตลอดไป
เพราะคุณคือสิ่งจำเป็นสำหรับการมีชิวิตอยู่ของผม
อุปทาน คือ
ปริมาณความรักของฉันที่มีให้คุณ มันจะอยู่คงที่เช่นนั้นอยู่เสมอ มีความยืดหยุ่นมีค่าเป็นศูนย์ คือ ผมฉันจะรักคุณหมดหัวใจ (คือหมดหัวใจ)
ไม่ว่าเวลา จะเปลี่ยนไปนานแค่ไหน
และ สุดท้ายคุณสอนให้ผมเข้าใจถึงหัวใจของวิชาเศรษฐศาสตร์มากขึ้นทุกครั้งที่คิดถึงคุณ
(หัวใจของวิชาเศรษฐศาสตร์ คือ การสมมติ)
สมมติ......ว่าคุณรักผม
สมมติ......ว่าเรารักกัน
สมมติ......ว่ามันเป็นเรื่องจริง
อิอิ ...เก็บตกจากเน็ท ...ขอบคุณคนแต่งขอให้ได้ H วิชานี้ทุกคน
น้องจอยเป็นเด็กเรียบร้อยจากต่างจังหวัดเข้ามาอยู่กับน้าชายเพื่อมาเรียนหนังสือ ทุกคนคิดว่าทั้งคู่เป็นน้าหลานกันธรรมดา จนกระทั่งวันหนึ่ง
น้องจอยพูดด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวว่า "น้าถอดเสื้อของจอยได้ไหม" น้าชายก็ถอดเสื้อของน้องจอยออกอย่างว่าง่าย
"น้าถอดกางเกงจอยด้วย" น้าชายรีบถอดกางเกงหลานสาวโดยทันที
น้องจอยพูดด้วยอาการอายต่อไปว่า "ยกทรงหนูด้วย" น้าชายปลดตะขอยกทรงน้องจอยออก จากนั้น
น้องจอยก็พูดด้วยอาการหน้าแดงว่า "กางเกงในหนูก็ถอดด้วยสิ" น้าชายถอดเสื้อผ้าของน้องจอยออกหมดจากนั้น
น้องจอยก็กล่าวว่า -------------------------------------------------------------------- "คราวหน้าน้าอย่ามาเอาเสื้อผ้าของจอยไปใส่อีกนะ"
ใครคิดลามกเขกหัว 1 ที ...(คัดลอกจากเน็ต)