Marriage Chaos
By คิงเพนกวิน

 

"เสร็จแล้วก็ถอดเสื้อคลุมออกซะ จะได้นอนกันสักที"

"แหม... สั่งได้สั่งดี ใจร้อนจริงนะคุณสามี......"

"จะถอดเองหรือจะให้ฉันถอดให้ ถ้าให้ฉันถอด ฉันจะจับนายมัดเป็นหมอนข้างเลยจะได้กอดง่ายๆ "

"อุ๊ย! กลัวๆๆ " ผมแบะปากทำท่ากลัวซะเต็มประดา แต่ก็เริ่มแกะเชือกที่เอวเสื้อคลุมออก พอเห็นผมเริ่มถอดหมอนั่นก็จัดแจงถอดผ้าขนหนูผืนเดียวที่นุ่งอยู่ออกไปจากตัว แล้วเหวี่ยงไปพาดไว้กับพนักเก้าอี้ข้างเตียง และหันหน้ามาหาผมอย่างไม่มีอายกันเลย... ทำเอาผมคิดค่อนขอดอยู่ในใจว่า... หมอนี่คงลืมไปแล้วว่ายางอายมันเป็นยังไง ก็มันเล่นใช้ไอ้นั่นชี้หน้าผม หรือจงใจจะอวดว่าใหญ่ฟะ(!)

"เอ้า! อ้อยอิ่งอยู่นั่นแหละรีบถอดสักที" ไม่ใช่จะพิรี้พิไรเล่นตัวอะไรหรอกนะ เพียงแต่ไม่อยากงัดไอ้นั่นมาอวดกันมากกว่า เดี๋ยวอาจจะถูกไอ้คนปากบอนนี่วิจารณ์เข้าให้อีก พอถอดเสร็จผมจึงรีบสอดตัวเข้าไปใต้ผ้าห่มทันที ตอนนี้ผิวเริ่มแห้งแล้ว เมื่อลมจากแอร์เป่าโดนก็เริ่มหนาวขึ้นมา ชักอยากได้อะไรอุ่นๆ มากอดเหมือนกันแฮะ ลู่จินคังมองแล้วเห็นว่าพร้อมสักที จึงเปิดผ้าห่มขึ้นแล้วมุดเข้ามาในบ้าง แต่ระหว่างที่หมอนั่นจะดึงผ้าห่มขึ้นนี่สิ ยังอุตส่าห์หันมามองเจ้าหนูของผมเข้าจนได้

"อะไรกันนี่นายยังไม่ขลิบอีกเหรอ ฮ่า ฮ่า ฮ่า" จะขลิบไม่ขลิบมันก็ไม่หนักหัวกะบาลใคร แต่ไอ้บ้านี่ดันหัวเราะดังลั่นห้อง ไม่มีเกรงใจกันบ้างเลย

"กลัวเจ็บล่ะสิ ฮ่า ฮ่า" เจ้าบ้าลู่จินคังขยับตัวกระแซะเข้ามาจนติดแล้วยกมือขึ้นโอบไหล่ผม พลางยกผ้าห่มขึ้นมองสำรวจอีกรอบแบบเอาดูกันจะจะ ให้เห็นถนัดตากันไปเลย ผมทั้งโกรธทั้งอาย ไม่รู้จะด่าไอ้หอกข้างๆ นี่ยังไงดีแล้ว

"นี่รู้ไหม ถ้าไม่ขลิบหนังออกน่ะมันจะอับชื้นง่าย อย่างเวลาอาบน้ำนี่ นายต้องรูดหนังหุ้มปลายลงมาซับๆ ผิวข้างในบ้าง ไม่อย่างนั้นจะเหม็นแย่ แต่แค่หูยังไม่เช็ดเลยนี่หว่า... จะเอาอะไรกับไอ้นี่ล่ะเนอะ" ไม่พูดเปล่า มันเสือกดีดของผมเล่นอีกต่างหาก

"เค... วิน... นายก็รูดดดดดดดดด มันลงมานะ แล้วเช็ดให้ฉันเสียเลยสิ" ได้ผลครับ ลู่จินคังหัวเราะค้างแบบหยุดกึกกลางอากาศทันที แล้วเอียงคอมองหน้าผมแบบเอาเรื่อง

"ไม่น่าเกลียดหรอก... นายเป็นสามีฉันนี่ ฉันไม่ถือ ไหนๆ ก็เช็ดหูให้แล้ว จะเช็ดสะดือหรือไอ้นั่นเพิ่มอีกก็ไม่เป็นไรหรอกนะ"

"ดี… แลน เงียบ! แล้วนอนลงไปเลยนะ"

"ใครเริ่มก่อนล่ะ!" ผมกับลู่จินคังเลยพร้อมใจกันนอนลงเงียบๆ และตัดสินใจไม่แว้งกัดกันอีก ประเดี๋ยวจะไปไม่รอด หม้อข้าวไม่ทันดำเตียงก็หักเสียแล้ว

"กอดฉันสิ!" ลู่จินคังสั่งเสียงแข็งหลังจากเรานอนเคียงคู่กันเรียบร้อยแล้ว

"จะกอดยังไงเล่า ต่างคนต่างนอนหงายแบบนี้น่ะ เอาอย่างนี้ นายหันหน้าไปทางโน้น เดี๋ยวฉันจะกอดนายจากด้านหลังแล้วกัน"

"ไม่มีทาง ฉันไม่มีวันยอมหันก้นให้นายเด็ดขาด! นายนั่นแหละหันหลังมาซะ" ลู่จินคังปฏิเสธเด็ดขาดด้วยสีหน้าจริงจัง

"ไม่!" ขนาดมันยังไม่ไว้ใจผม แล้วผมจะไว้ใจมันได้รึ

"นี่... กรอด... อย่าเรื่องมากสิจ๊ะทูนหัว" แน่ใจนะว่านี่อ้อนแล้วเสียงกัดฟันดังชัดเชียว แถมสายตาเหมือนขู่จะฆ่ากันถ้าไม่ยอมเชื่อฟังหมอนี่แต่โดยดี "ฉันไม่เสียบหลังนายหรอกน่า อย่ามาทำเรื่องมาก"

"มันก็ไม่แน่นี่หว่า! ผู้ชายสมัยนี้ไว้ใจได้ที่ไหนเล่า แล้วยิ่งกับคนเจ้าระเบียบอย่างกับแม่ศรีเรือนอย่างนายนี่ สงสัยแอบ..." ก็ผู้ชายที่ไหนมันจะขี้บ่นขนาดนี้ เจ้าระเบียบก็เท่านั้นแล้วยังชอบของลดราคาอีกต่างหาก นี่มันคุณสมบัติแม่บ้านชัดๆ

"ดีแลน... ถ้าฉันจะปล้ำนายน่ะ ป่านนี้นายป่นปี้ไปแล้ว"

"อ๋อเหรอ! นี่ฉันต้องขอบคุณนายด้วยใช่ไหม ตูดฉันถึงยังบริสุทธิ์อยู่" หลังจากแง่งใส่กันไปอีกสองแง่งแล้ว ต่างคนต่างเริ่มเหนื่อยแถมชักร้อน แก้ผ้าอยู่แท้ๆ ทำไมเหงื่อมันออกได้วะ

"เอาอย่างนี้ ฉันนอนหงาย แล้วนายนอนตะแคงกอดฉัน อย่างนี้ดีไหม " เมื่อเห็นผมยังนิ่งอยู่ หมอนั่นจึงมีข้อเสนอใหม่ขึ้นมาทันที

"หรือนายจะนอนหงายให้ฉันนอนตะแคงแทน"

"เรื่องไร ถ้าอย่างนั้นนายก็นอนทับฉันน่ะสิ ตัวใหญ่อย่างกับควายขืนโดนนายทับฉันหายใจไม่ออกตายพอดี"

"งั้นนายก็รีบๆ นอนลงมาซบอกฉันสักทีสิ พูดมากอยู่ได้ เดี๋ยวพ่อจับขึงพืดทำหมอนข้างเสียหรอก" แน้... มันขู่ครับมันขู่ แต่พอมองตาลู่จินคังแล้วชักกลัวใจ เดี๋ยวเกิดมันเฮี้ยนเอาจริงขึ้นมาล่ะแย่แน่ ผมจึงจำใจยอมทำตามที่หมอนั่นบอก

"นอนดีๆ อย่าดิ้นไปดิ้นมาสิ ผมนายมันจั๊กจี๋นมฉันรู้ไหม"

"เออๆ เดี๋ยวเกานมให้" เซ็งจริงๆ ต้องมาเกานมให้มันอีก

"เกาเฉยๆ อย่าดึงหัวนมเล่นสิเฟ้ย!"

"โอ้ย! ก็เกาให้แล้วมันจะเอายังไงอีกวะ เดี๋ยวก็ไอ้โน่นเดี๋ยวก็ไอ้นี่ นายจะเอาอะไรกันนักหนาฟะ" ลู่จินคังทำท่าจะขยับปากเถียงแต่อยู่ๆ ก็ยอมนอนฟังเงียบๆ เขานิ่งไปครู่หนึ่ง แล้วหันกลับมาจ้องหน้าผมด้วยสีหน้าแปลกๆ

"นอนเฉยๆ... อย่าขยับตัวนักสิดีแลน น้องชายนายมันทิ่มขาฉัน..."

"...!" ฟังคำตอบของหมอนี่แล้วผมต้องอึ้งไปครู่ใหญ่ๆ พอหลุดจากอาการนะจังงังได้แล้ว ผมก็แหกปากทันที

"ว้ากกกกกกกกกกกกก! ทนไม่ไหวแล้วเว้ย!" ผมตะโกนสุดเสียงโดยไม่คิดจะไม่เกรงใจคนข้างบ้านเลยแม้แต่น้อย ถึงแม้ว่านี่มันตีสามกว่าแล้วก็ตาม

"เฮ้ยๆ! เป็นอะไร ผีเข้าหรือไง!" ลู่จินคังผุดลุกขึ้นมาทันที ตามหลังผมที่กระเด้งตัวขึ้นมาก่อนหน้านี้แค่ไม่กี่วินาที

"ผีนายน่ะสิเควิน! รำคาญจริง เชิญนายนอนไปคนเดียวเถอะฉันไม่เอาด้วยแล้ว" ว่าแล้วผมก็ตะกายลงจากเตียงทันที แต่ยังไม่เร็วเท่ามือลู่จินคังที่เอื้อมมาคว้าข้อเท้าผมไว้ได้ก่อน แล้วพยายามลากตัวผมกลับขึ้นมาบนเตียงอีกครั้งอย่างทุลักทุเลที่สุด เพราะมือสองข้างของผมยึดขอบไม้ปลายเตียงไว้แน่

"โธ่ทูนหัว อย่าเพิ่งใจน้อยสิ! กลับมานี่ก๊อนนนนน...น" ไม่ใช่แค่ลากเท่านั้นนะ มันกระชากเอาดื้อๆ เลยด้วยซ้ำ พอดึงผมกลับขึ้นเตียงได้แล้ว ลู่จินคังยังใช้แรงบักอึดเหมือนตอนฟัดกับผู้ร้ายพยายามจับตัวผมกดลงกับที่นอนสำเร็จจนได้

"ไม่ๆๆ พอกันที ฉันเบื่อนายแล้ว" ถึงผมจะสู้แรงบ้าไม่ได้แต่ก็ออกปากขับไล่ไสส่งมันเต็มที่ แต่ยิ่งหมอนั่นเห็นผมโวยวายดิ้นดุ๊กดิ๊กไปมาไม่ยอมเลิกทั้งที่โดนกดอยู่นี่แหละ ลู่จินคังจึงหันมาสวมบทผู้ร้ายบ้ากามลุกขึ้นมาปลุกปล้ำผมทันที

"หยุดร้องซะ ยังไงคืนนี้นายก็ต้องนอนกับฉัน!" หมอนั่นปีนขึ้นมาบนตัวผมแล้วนั่งทับ พลางล็อกไม้ล็อกมือผมเสียแน่น ผมอยากจะร้องไห้... ทำไมแต่งงานทั้งทีต้องมาเจอสามีอย่างหมอนี่ด้วยว้าาาาาาา

"ฉันไม่ทำอะไรนายหรอกน่า อยู่เฉยๆ สมยอมซะคืนนึงแล้วจะดีเอง แต่ถ้าขืนงี่เง่าไม่เชื่อฟังอีก เดี๋ยวพ่อปล้ำจริงๆนะเว้ย!" ลู่จินคังตวาดใส่หน้าผมด้วยท่าทางเดือดดาลเต็มที่

"นี่นายเป็นเกย์ตั้งแต่เมื่อไรฟะ! แหกตาดูให้ดี ฉันเป็นผู้ชายเหมือนนายนะเว้ย!"

"เป็นไม่เป็นเดี๋ยวนายก็รู้เอง นายเป็นผู้ชายแล้วไง นายก็ยังเป็นเมียฉันอยู่ดี ถามชาวบ้านสิใครเขาก็รู้ทั้งนั้นแหละ แล้วถ้าฉันจะปล้ำเมียตัวเองมันก็ไม่ผิดตรงไหนนี่หว่า"

"เควินนนนนนนนน อย่าเพิ่งบ้าาาาาาาาาา เด้!"

สรุปว่ากว่าจะตกลงกันได้ก็ล่อไปตีห้าแล้ว เหลือเวลาอีกแค่ชั่วโมงเดียวฟ้าจะสางอยู่มะรอมมะร่อ ลู่จินคังเลยคลั่งหนัก เขาล็อกตัวผมไว้แล้วดึงเข้ามาซุกในอ้อมอกไม่ยอมปล่อย ผมเองก็เหนื่อยล้าเต็มทีจึงหมดแรงโวยวายแล้ว เอาก็เอาวะ ทนๆ ไปหน่อย ผมปลอบตัวเอง ขืนไม่ยอม พรุ่งนี้มีหวังต้องมาเข้าหอกันอีกรอบ เซ็งปี๊ดกว่านี้แน่ เรื่องเลยกลายเป็นว่า ผมนอนแนบหน้าอิงแอบกับแผ่นอกกว้างของลู่จินคังในขณะที่เขาซบหน้าลงกับไหล่ผม เรากอดกันกลมและค่อยๆ ม่อยหลับไปในที่สุด แล้วก็เผลอหลับสนิทไปในอ้อมแขนของกันและกันตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ เชื่อไหมว่าตอนนี้ถึงเอาช้างมาฉุด ก็ไม่มีทางแยกเราสองคนที่รวมร่างกันเป็นก้อนเดียวให้หลุดออกจากกันได้!