รักอลวนคนขี้แพ้
By jasmine


แอร์ส่งเสียงหึ่งเบาๆ ส่งไอเย็นและกลิ่นหอมของน้ำหอมอบอวลทั่วห้องทำงานที่หรูหรา มันให้ความรู้สึกสดชื่นรื่นรมย์อย่างเป็นกลางในสภาวะของความขัดแย้งเฉกเช่นศัตรูของชายหนุ่ม
“ถ้าต่อรองอย่างยุติธรรม ผมก็ไม่เกี่ยง สองแสนห้าเลย”

“คุณชิน!!” ณัทเอ็ดใส่ลากแขนชายหนุ่มออกห่าง “อย่าเล่นแบบนี้นะ คุณจะทำให้ผมแย่ไปด้วย”

“ทำไม ถ้าจะไม่ได้ล่ะ ฉันไม่ชอบให้ใครมา กร่างใส่ฉัน”เขาหมายถึงนัทธ์ ยังโมโหไม่หายที่ชกหน้าเขา

“ขอร้องล่ะ อย่าทำให้ผมเดือดร้อนได้ไหม”

“ฉันเอาจริงนะ ณัท” ชินธิปยืนยันหนักแน่น ณัทถึงกับอึ้งไม่เคยเห็นความจริงจังในตาของหนุ่มขี้เล่นคนนี้เลย ที่ผ่านมาเขาเหมือนพี่ชายที่ปรึกษาได้เสมอ ชายหนุ่มไม่เคยเอาจริงนอกจากหยอกเล่นเท่านั้น

“สามแสน”

จู่ๆก็มีอีกคนเสนอขึ้นมา ทำเอาทุกคนหันไปมองเป็นตาเดียว ณัทรู้สึกเหมือนฟ้ากำลังแกล้งเขาไม่เลิกรา นี่มันอะไรกันอีกล่ะ?? ทัศไนยก้าวเข้ามาร่วมวงการสนทนาด้วย

“ถ้าคุณเปิดโอกาสให้เขาสองคนได้ ผมก็ขอร่วมด้วยคน ว่าไง”

“ไม่ขัดข้องอยู่แล้ว” ธรณ์แทบกลั้นยิ้มไว้ไม่อยู่

“คุณทัศ”

ระหว่างชายหนุ่มทั้งสองมันมีความต้องการเอาชนะแทรกอยู่ทุกอณูความคิด เขาเองก็เหมือนกันเรื่องฐานะเขาก็ไม่ด้อยกว่า ยิ่งมีตัวแปรอย่างณัทเป็นเดิมพนันด้วยล่ะก็

นัทธ์กับชินธิปไม่รู้จักกัน แต่พวกเขาต่างเป็นเพื่อนของทัศไนยและรู้ดีว่าหากชายหนุ่มไม่พอใจใครก็เอาชนะให้ได้ ตกลงว่าเขาไม่พอใจใครกันแน่ ต่างฝ่ายต่างระแวงกันขึ้นมา

“เอาเป็นว่าใครอยากจะเสนอราคาสูงกว่าสามแสนไหมครับ” ธรณ์ว่า สองมือถูกันไปมาด้วยความตื่นเต้น

“สี่แสน” จู่ๆคนที่สี่ก็เสนอขึ้นมาอย่างไม่คาดคิด

“ณัท??” หนุ่มเจ้าของผับทำหน้างง

“ทำไมผมจะประมูลตัวเองไม่ได้ ถ้าผมมีปัญญาจ่าย แล้วพวกคุณ…” เขาหันมาเท้าเอวเอาเรื่องกับชายหนุ่มทั้งสาม

“กล้าดียังไงมาประมูลผมเหมือนไม่ใช่คน ถ้าพวกคุณจะแข่งกันล่ะก็ผมจะสู้ราคา ต่อให้ต้องทำงานอีก10หรือ20ปี รึล้างส้วมผมก็จะทำ อยากจะแข่งเพื่อความสะใจก็เอาเลย พวกคุณเห็นเงินเป็นเศษกระดาษอยู่แล้วนี่”ณัทแดกดันทุกคน ซึ่งเหมือนจะรู้สึกตัว พวกเขาพยายามข่มกันและกันโดยลืมความเป็นคนของใครคนหนึ่งไป มันน่าละอายใจจนไม่กล้าสบตา

“ฉันไม่ได้เห็นเงินเป็นเศษกระดาษนะ มันช่วยเอาเราออกจากที่นี่ได้ ไม่ใช่ให้เราทนทุกข์กับมันต่อไป ให้ฉันพาเราออกไป ณัท” ชายหนุ่มดึงร่างเล็กออกห่างจากคนอื่นๆ

“ผมไม่ต้องการเงินของคุณ ไม่ต้องการอะไรจากคุณทั้งนั้น”

“ณัท อย่าคิดอะไรโง่ๆน่า อย่าอยู่ที่นี่ไปจนวันตายหรือไง”

“แล้วไง คุณก็เลยอยากเป็นฮีโร่งั้นสิ คิดว่ามันชดเชยความผิดคุณได้รึไง ไม่มีทางหรอก ผมไม่วันยกโทษให้คุณ” สองคนเถียงกันไปมา ทัศไนยและชินธิปก็พอเข้าใจได้เลาๆว่า พวกเขารู้จักกันมาก่อน อาจจะก่อนหน้าพวกเขาก็ได้

“อย่าหัวแข็งหน่อยได้ไหม นี่ชีวิตเราเองนะ!!!”นัทธ์จับไหล่สองมือเขย่าแรงให้เศษขี้เลื่อยหล่นจากหัวบ้างจะได้คิดอะไรที่เป็นประโยชน์กับตัวเองบ้าง เขาหวังดีขนาดนี้ยังต่อต้านด้วยความคิดโง่ๆอีก

“หยุดนะ นัทธ์” ทัศไนยแทรกเข้ามาปัดณัทไปอยู่ข้างหลังตัวเอง “นายทำอะไร”

“อย่ามายุ่งดีกว่า คุณทัศ นี่ไม่เกี่ยวกับคุณ”

“ฉันจะยุ่ง ณัทเป็นเพื่อนของฉัน”

“เขาเป็นของผม” ชายหนุ่มประกาศก้องห้องทำงานกว้าง ด้วยความโมโห “ผมรู้จักเขามาก่อนคุณ เราพยายามตายพร้อมกันด้วยซ้ำ คุณไม่รู้อะไรก็อย่ามาแทรกดีกว่า เขาเป็นของผมได้ยินไหม”

ณัทหลบอยู่ข้างหลังทัศไนยรู้สึกอยากให้แผ่นหลังกว้างนี้กั้นทุกอย่างได้จริงๆ เขาไม่อยากได้ยินอะไรก็ตามที่หลุดจากปากอีกฝ่าย เขาไม่ได้เป็นของใคร ประโยคนั้นทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองผิดและโง่มากแค่ไหน

“เขาขโมยล๊อคตารี่ผมไป” ชายหนุ่มปัดความผิดคืนให้อีกฝ่าย

“ล๊อตตารี่อะไร??” ชินธิปถาม ยิ่งฟังเรื่องราวก็ยิ่งสับสน

“ใช่!! ผมขโมยล๊อตตารี่ของณัท ล๊อตตารี่ที่ถูกรางวัลที่2…. 3ล้าน ผมขโมยจากเขาแล้วทิ้งเขาไว้ในโรงแรม” นัทธ์ยอมรับตรงๆ เขารู้ว่าต้องมีสักวันที่ต้องสารภาพ แต่ไม่คิดว่าจะสารภาพต่อหน้าเพื่อนและเจ้าหนี้เงินกู้ แทนที่จะเป็นพ่อแม่ของณัท

“คุณมัน….ทุเรศจริงๆ” ชินธิปด่าว่า

“ใช่…ทุเรศ แต่มีใครบ้างที่อยากตายล่ะ ผมถึงต้องการชดเชยคืนทุกอย่างให้ณัท พวกคุณไม่รู้อะไร หรือเกี่ยวข้องอะไรด้วย อย่ามาแทรกระหว่างเราได้ไหม”

“คุณจะชดเชยนั้นเป็นเรื่องที่ต้องทำอยู่แล้ว แต่ถ้าเจ้าตัวไม่ต้องการคุณก็ไม่มีสิทธ์บังคับให้เขายอมรับนะ”

“หรือจะให้เขายอมรับเงินของคุณ มันก็ไม่ต่างจากผมหรอกนะ ผมจ่ายค่าตัวเขาล้านหนึ่ง ถ้าคุณจะสู้ราคาก็ว่ามาเลย!!!” นัทธ์ทุบโต๊ะเปรี้ยง สองหนุ่มถึงกับอึ้ง ทัศไนยไม่ชอบวิธีการของชายหนุ่มนัก แต่ในความเป็นจริงเงินล้านมันทำให้เขาคิดหนัก เขามีพันธะอีกหลายอย่างที่ต้องคำนึงถึง ทางบ้านจะว่ายังไงถ้ารู้ว่าเขาซื้อผู้ชาย

ชินธิปก็เช่นกัน ถึงอยากเอาชนะ แต่ก็ต้องทำให้ต้องคิดถี่ถ้วน เงินล้านใช่ว่าเขาไม่กล้าทุ่ม ทว่าสำคัญที่เจ้าตัวไม่เคยพิศวาสหรือมองเขาในแง่อื่นเลยน่ะสิ หากได้ไปอย่างมากเขาก็ได้แค่ความเห็นใจ หรืออาจกดดันณัทในฐานะเจ้าหนี้รายใหม่มากกว่า

ณัทรู้สึกได้ถึงลางแพ้ ความฮึกเหริมของชายหนุ่มทั้งสองลดลงจนรู้สึกได้ เขาไม่อยากถูกขาย ยิ่งกับชายหนุ่มที่สร้างบาดแผลให้เขามากมายไม่มีวันจบ เขาไม่อยากแม้แต่เฉียดใกล้ ตราบใดที่ยังไม่เห็นอีกฝ่ายทุกข์ทรมานใจล่ะก็เขาไม่มีวันยกโทษให้แน่