ผลงานทั้งหมดที่ลงอยู่ในหน้า
Novel เป็นสิทธิส่วนตัวของผู้เขียน หากมีผู้ใดต้องการจะทำการคัดลอกหรือดัดแปลงผลงานบางส่วน
หรือทั้งหมดเพื่อนำไปใช้ในการอื่น นอกจากอ่านเพื่อความบันเทิง กรุณาติดต่อเพื่อขออนุญาตจากผู้เขียนตาม
e-mail ที่ให้ไว้เสียก่อน ขอบคุณสำหรับความร่วมมือค่ะ อีกประการหนึ่งนักเขียนทุกคนต้องการกำลังใจและคอมเมนท์(แม้ว่าบางคนจะไม่พูดออกมา)ไม่ว่าจะเป็นคำติหรือคำชมนะคะ
เพราะฉะนั้นเมื่ออ่านแล้วชอบไม่ชอบยังไงไ ก็เมลไปคอมเมนท์ได้ตามอีเมลที่ให้ไว้ของแต่ละคน
หรือไม่ก็โพสต์คำติชมไว้ในบอร์ดก็ได้ค่ะ
|
Wolf (2) by...Rai แมทธิวรู้สึกถึงความร้อนและความพลุ่งพล่านของเลือดที่ไหลวนในร่าง
รูปกายมนุษย์กำลังแปรเปลี่ยนไปตามจังหวะการเต้นของหัวใจที่รัวเร็ว ความเจ็บปวดทวีขึ้นจนแทบทนไม่ไหวคล้ายกับร่างกายของตนกำลังจะระเบิดออกมาเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
ท้ายสุดเมื่อการเปลี่ยนแปลงเสร็จสิ้นสมบูรณ์ นัยน์ตาสีเขียวสดก็เปลี่ยนเป็นนัยน์ตาสีเหลืองทอง
อุ้งเท้าทั้งสี่ยืนหยัดอย่างมั่นคงบนพื้นถ้ำ และขนสีทองเป็นมันเลื่อมทอประกายใต้แสงจันทร์นวล "ไม่ยากเลยใช่ไหมสำหรับการเปลี่ยนร่าง?" แมทธิวไม่เอ่ยอะไรออกมาแม้แต่ประโยคเดียว
นัยน์ตาสีอำพันแบบสุนัขป่าฉายแววครุ่นคิดวูบหนึ่ง ก่อนจะก้าวเดินไปยังหน้าถ้ำ
ด้วยสายตาของสุนัขป่า ทำให้เขามองว่าโตรกหินเบื้องล่างนั้นไม่ยากที่จะปีนป่าย
แต่อย่างที่โลธาร์เตือนเขาไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่าถ้าไม่คุ้นเส้นทางก็อาจจะทำให้พลาดหรือหลงทางได้ สุนัขป่าสีทองหยุดชะงักเมื่อสายตาของมันสังเกตเห็นโพรงเล็ก ๆ ลอดไปทางซ้าย เบื้องหน้านั้นสุนัขป่าสีดำตัวมหึมายังคงวิ่งนำไปอย่างช้า ๆ แล้วแมทธิวก็ใช้เวลาตัดสินใจเพียงเสี้ยววินาทีก่อนจะวิ่งเลี้ยวเข้าไปในโพรงหินนั้น หวังว่าปลายทางของมันคงจะทะลุไปยังที่ใดที่หนึ่ง เขากะขนาดแล้วว่าร่างสูงใหญ่ขนาดโลธาร์ไม่มีทางมุดผ่านมันไปได้แน่ เสียงฝีเท้าของโลธาร์ดังอยู่ไม่ไกลนัก แสดงว่าอีกฝ่ายคงจะย้อนกลับมาเมื่อรู้แล้วว่าเขาไม่ได้ตามไป เท้าทั้งสี่ของแมทธิววิ่งตะลุยไปตามทางเล็กแคบเบื้องหน้าอย่างรวดเร็ว โลธาร์หยุดที่หน้าโพรงหินอย่างขุ่นเคือง กลิ่นของแมทธิวหายเข้าไปข้างในนี่เอง แต่เขาไม่สามารถลอดตัวผ่านเข้าไปได้ สุนัขป่าสีดำตะกุยหินที่ปากถ้ำอย่างฉุนเฉียวก่อนจะวิ่งเผ่นทะยานขึ้นบนโตรกผาที่สูงขึ้นเพื่อให้เห็นสภาพทิวทัศน์โดยรอบในรัศมีที่ไกลขึ้น แล้วเขาก็เห็นร่างสีทองของแมทธิววิ่งทะลุออกจากโพรงหินแคบไปทางทิศใต้ หัวหน้าฝูงสุนัขป่าหอนเป็นสัญญาณเรียกลูกฝูงให้ไล่ตามแมทธิว มีเสียงตอบรับจากสุนัขป่าตัวอื่นแว่วดังมาเป็นช่วง ๆ หลังจากนั้นโลธาร์ก็ไม่รอช้า เขาวิ่งตะลุยลงจากเนินด้วยความเร็วสูง เท้าทั้งสี่ตะกุยพื้นดินจนก้อนหินแถวนั้นกระจายตัวเป็นวงกว้าง แสดงถึงความแข็งแรงและความรวดเร็วที่ยากจะมีสัตว์ตัวใดตามได้ทัน และก็ยากที่จะมีสัตว์ตัวใดหนีเขาไปได้ โดยเฉพาะสุนัขป่าสีทองที่เห็นเป็นเป้าหมายอยู่เบื้องหน้า แมทธิวชะงักเมื่อกระสากลิ่นของโลธาร์มาจากที่ไกล ด้วยเหตุที่ตำแหน่งที่เขายืนอยู่เป็นเขตใต้ลมดังนั้นกลิ่นของโลธาร์จึงดูเหมือนจะแจ่มชัดคล้ายกับอีกฝ่ายไล่หลังมาติด ๆ อุ้งเท้าทั้งสี่ของเขาพาร่างปราดเปรียวของสุนัขป่าสีทองวิ่งทะยานไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง ความหวาดกลัวจู่โจมจับขั้วหัวใจเมื่อคิดไปถึงว่าโลธาร์จะทำอย่างไรกับเขาหากไล่ตามทัน แม้จะได้อยู่ด้วยกันเป็นเพียงระยะเวลาสั้น ๆ แต่เขาก็พอจะเข้าใจนิสัยของอีกฝ่ายได้บ้างว่านอกจากจะเป็นคนชนิดคึกคะนองชอบพูดจาด้วยภาษาชนิดสองแง่สามง่ามแล้วอีกฝ่ายยังเป็นคนโมโหร้ายขนาดหนักอีกด้วย สุนัขป่าสีทองวิ่งตะบึงไปอย่างเป็นกังวล
เขารู้แค่ว่าทิศทางเบื้องหน้าเป็นทางที่จะไปสู่ถนนหลัก ได้แต่หวังว่าเมื่อเขาวิ่งถึงไหล่ทางก็อาจจะมีผู้คนสัญจรผ่านไปมา
เมื่อถึงตอนนั้นเขาอาจจะเปลี่ยนกลับเป็นร่างมนุษย์เพื่อขอความช่วยเหลือได้ "โลธาร์" แมทธิวครางอย่างหมดหวัง "ทำไมต้องหนีจากโลธาร์ด้วย?" เสียงนั้นไม่คุ้นหูเลยแม้แต่น้อย และเมื่อลมพัดโชยหวนมาทำให้เขากระสากลิ่นของอีกฝ่ายว่าสุนัขป่าตรงหน้านั้นไม่ใช่โลธาร์ "คุณเป็นใคร?" "จอห์น เป็นหนึ่งในเบต้าของฝูง" สุนัขป่าตัวนั้นเอ่ยแนะนำตัวพร้อมกับก้าวเดินออกมาจากเงามืดของต้นไม้ใหญ่ จากแสงจันทร์ที่ส่องสว่างทำให้แมทธิวเห็นว่าอีกฝ่ายเป็นสุนัขป่าสีน้ำตาลรูปร่างแข็งแรงแม้จะไม่สูงใหญ่เท่าโลธาร์แต่ทีท่านั้นน่าเกรงขามยิ่ง "นายไม่น่าทำแบบนี้ โลธาร์ต้องโกรธมากแน่ ๆ" "ใช่ ฉันโกรธมากจริง ๆ" เสียงหนึ่งดังขึ้นคล้ายเสียงคำราม แล้วร่างของสุนัขป่าหัวหน้าฝูงก็ปรากฏกายขึ้น เบื้องหลังยังมีลูกฝูงสุนัขป่าเดินตามมาอีกจำนวนหนึ่ง "ฉันนึกว่านายทำให้หมอนี่เชื่องได้แล้วเสียอีก" เป็นคำพูดจากสุนัขป่าขนสีเทาตัวใหญ่ไม่แพ้โลธาร์ ยังผลให้หัวหน้าฝูงสุนัขป่าต้องหันกลับไปแยกเขี้ยวคำราม "หุบปากเถอะบาร์ท นายก็ไม่เคยทำให้จอห์นเชื่องได้ทุกครั้งไม่ใช่หรือ?" "แต่อย่างน้อยคู่ของฉันก็ไม่เคยคิดจะวิ่งหนีไปหลังจากการจับคู่แค่วันเดียวอย่างนาย" "เฮ้! พรรคพวก นี่ฉันยังเป็นหัวหน้าฝูงอยู่หรือเปล่านี่ หรือเมื่อวานเราเกิดกบฏแอลฟากันแล้ว" โลธาร์กล่าวคล้ายกับประชด "ขอโทษครับท่าน" น้ำเสียงของบาร์ทคล้ายจะล้อเลียน "ท่านเป็นหัวหน้าฝูงอยู่ขอรับ" "ดี งั้นก็หุบปากของนายได้แล้ว
ก่อนที่ฉันจะอยากได้พรมเช็ดเท้าขนหมาป่าสีเทาเหม็นหืน ๆ ที่จริงฉันควรจะลดตำแหน่งนายลงเป็นโอเมก้าได้แล้ว
เพราะนายไม่เคยทำตัวเป็นมือขวาที่ดีสักครั้งเดียว" "หุบปาก นี่ฉันบอกให้แกหุบปากกี่ครั้งกันแล้ววะนี่ ไม่รู้ว่าจอห์นทนกับคู่บ้า ๆ อย่างแกได้อย่างไรกัน" ตอนท้ายโลธาร์พูดเหมือนจะพึมพำกับตัวเอง "แล้วฉันทนมีลูกน้องอย่างแกมาจนถึงบัดนี้ได้อย่างไรกันวะ" "ที่จริงพวกฉันน่าจะเป็นคนพูดมากกว่าว่าทนมีหัวหน้าฝูงอย่างนายได้ยังไงกัน" บาร์ทพูดพร้อมกลั้วหัวเราะ ขณะเดียวกันก็แยกเขี้ยวหลิ่วตาให้กับแมทธิวที่กำลังยืนมองดูสุนัขป่าสองตัวโต้คารมกันอย่างงุนงง แมทธิวเพิ่งจะรู้ว่าสุนัขป่าก็สามารถหลิ่วตาได้เช่นกัน แถมท่าทางยังน่าดูกว่ามนุษย์เสียด้วยซ้ำ เพราะเวลาทำเช่นนั้น ใบหูข้างหนึ่งของบาร์ทก็ลู่ไปข้างหลังเล็กน้อยด้วย "บาร์ทกำลังทำให้โลธาร์ใจเย็นลง หรืออย่างน้อยแทนที่จะโมโหเรื่องนายคนเดียวก็ต้องหันไปกัดกับบาร์ทด้วย" เสียงสุนัขป่าสีน้ำตาลพูดกระซิบกับแมทธิวคล้ายเป็นการอธิบาย "สองคนนี้เขาเป็นแบบนี้กันตลอดนั่นแหละ งี่เง่าพอกันทั้งคู่" "บาร์ทเขาเป็นคู่ของคุณ?" แมทธิวถามอย่างเกรงใจ "หมอนั่นเป็นฝ่ายเลือกฉัน" จอห์นเอ่ยเนิบนาบ ก่อนจะหันไปมองสุนัขป่าสีเทาที่เป็นคู่ของตน "และฉันก็ต้องการแบบนั้นด้วย" "แต่ผมไม่ได้ต้องการโลธาร์" แมทธิวเอ่ยอย่างเคือง ๆ "แน่ใจหรือว่านายไม่ได้ต้องการโลธาร์?" จอห์นย้อนถาม แมทธิวอึ้งไปครู่ใหญ่ หลังจากที่บิดามารดาของเขาประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต ตอนนี้เขาไม่มีใครสักคนเดียวอยู่ข้างกาย มีแต่โลธาร์ที่ชอบพูดย้ำนักหนาว่าตนเองนั้นเป็นเจ้าของแมทธิวและจะอยู่ด้วยกันกับเขาไปตราบจนกว่าชีวิตจะหาไม่ แต่เขาจะเชื่ออีกฝ่ายได้จริงหรือ เพราะในโลกอันสับสนและวุ่นวายที่เขาเผชิญมานั้น ต่างคนต่างก็พยายามดิ้นรนหาทางรอดเพื่อตัวเองเท่านั้น ไม่มีใครที่จะมีชีวิตอยู่เพื่อปกป้องดูแลคนอื่นได้หรอก "ฉันไม่คิดจะเถียงกับนายแล้ว เพราะตอนนี้ฉันมีธุระอื่นที่สำคัญกว่า" โลธาร์พูดตัดบทการสนทนากับสุนัขป่าสีเทาที่เป็นทั้งเพื่อนและลูกน้องคนสนิท ก่อนจะก้าวสามขุมมาทางสุนัขป่าขนสีทองที่ยืนระวังตัวอยู่ พร้อมทำเสียงคำรามในลำคอ "ใช่ไหมแมท เรามีเรื่องต้องคุยกันยาวล่ะทีนี้" "เฮ้! โลธาร์" บาร์ทส่งเสียงเรียกหัวหน้าฝูงก่อนจะก้าวไปยืนข้างกาย โลธาร์หันไปแยกเขี้ยวคำรามใส่ "มีอะไรอีกล่ะบาร์ท หรือนายอยากลองลับเขี้ยวกับฉัน" "กระผมไม่กล้าครับท่าน" บาร์ทเอ่ยติดหัวเราะ "เพียงแต่นายอาจจะลืมไปแล้วว่าคืนนี้นายต้องแนะนำคู่ของนายให้กับลูกฝูงได้รับรู้ไว้" "ไว้ทีหลังโว้ย เพราะตอนนี้ฉันมีเรื่องต้องทำก่อน หมดวาระการประชุมแล้ว ถ้านายต้องการเบิกเบี้ยประชุมก็ขอบอกว่าเสียใจว่ะ เอาละ พวกนายแยกย้ายกันไปได้แล้ว" ตอนท้ายโลธาร์เอ่ยเสียงดังกับบรรดาลูกฝูง ก่อนจะก้าวตรงไปหวังจะงับต้นคอของแมทธิว แต่สุนัขป่าสีทองตวัดตัวหลบแล้วแยกเขี้ยวขาววาววับคำรามขู่เสียงดัง สุนัขป่าสีดำยืนมองร่างสุนัขป่าตรงหน้าเขม็ง พร้อมทำเสียงขู่ต่ำ ๆ ในลำคอแสดงถึงสัญญาณการเตือนครั้งสุดท้าย ก่อนที่ร่างสูงใหญ่พ่วงพีของมันจะพุ่งตรงเข้าปะทะกับร่างสีทองอย่างรวดเร็ว แมทธิวย่อตัวหลบ ทำให้ร่างมหึมาของโลธาร์ลอยผ่านร่างเขาไป แล้วเขาก็เปลี่ยนจากผู้ตั้งรับเป็นฝ่ายปะทะกลับในทันที หูทั้งสองข้างของเขาชี้ขึ้น ริมฝีปากแสยะไปข้างหลังเผยเขี้ยวคมวาว ก่อนจะอ้าปากงับขาหลังของโลธาร์ แต่อีกฝ่ายก็ว่องไวไม่น้อย เพราะแค่พริบตาเดียว สุนัขป่าสีดำก็สะบัดหลุดแล้วโจมตีกลับ เสียงคำรามดุดันของสุนัขป่าทั้งสองตัวที่ต่อสู้กันดังขรมไปทั่วบริเวณ จอห์นหันไปมองคู่ของตนเป็นเชิงปรึกษา แต่บาร์ทเอ่ยห้ามทันควันเมื่ออ่านสายตานั้นออก "อย่าเข้าไปยุ่งนะจอห์น" "แต่แมทธิว " สุนัขป่าสีน้ำตาลเอ่ยด้วยความกังวล เมื่อเห็นผลการต่อสู้เบื้องหน้าว่าสุนัขป่าตัวสีดำเริ่มเป็นต่อด้วยรูปร่างและพละกำลังที่เหนือกว่า "ถึงโลธาร์จะโมโหขนาดไหน ฉันว่าเขาคงไม่ทำอะไรร้ายแรงกับคู่ของตัวเองแน่ และครั้งนี้แมทธิวเป็นฝ่ายผิดที่คิดจะหนี เขาก็น่าจะได้รับบทเรียนบ้าง" บาร์ทเอ่ยเสียงหนักแน่นเมื่อเห็นผลสรุปของการต่อสู้ว่าโลธาร์เป็นฝ่ายได้ชัยชนะพร้อมกับงับต้นคอของสุนัขป่าสีทองที่พ่ายแพ้ลากหายเข้าไปในดงไม้ ***** แมทธิวไม่ตอบคำได้แต่ส่งเสียงคำรามเป็นเชิงไม่ยอมแพ้ในลำคอ เขาทำท่าจะยันตัวลุกขึ้นยืน แต่อุ้งเท้ามหึมาของโลธาร์ก็กดทับลำตัวเขาไว้ พร้อมเอ่ยเสียงหนักแน่น "ฉันต้องการให้เธอเชื่อฟังฉัน" "เลิกบังคับกันเสียที ผมบอกแล้วว่าไม่อยากอยู่กับคุณ" สุนัขป่าสีทองแยกเขี้ยวขาววาววับใส่อีกฝ่าย นัยน์ตาสีอำพันที่ฝังอยู่ในศีรษะมหึมาของสุนัขป่าสีดำเป็นประกายวาวแววคล้ายกับเดือดดาลจนถึงที่สุดแล้ว อุ้งเท้าขนาดใหญ่ของโลธาร์กดร่างของสุนัขป่าสีทองแรงขึ้นจนอีกฝ่ายร้องเสียงดังลั่นด้วยความเจ็บปวด แมทธิวพยายามขืนแรงแต่ก็ทำไม่ได้ ร่างสุนัขป่าของเขาหมอบอยู่ใต้อุ้งเท้าของโลธาร์ แล้วเขาก็รู้สึกถึงกลิ่นบางอย่าง สัญชาติญาณทำให้เขารู้ว่าโลธาร์กำลังแปรเปลี่ยนโทสะที่มีอยู่มากมายในตอนนี้ให้กลายเป็นราคะ โลธาร์กำลังมีความต้องการ และอีกฝ่ายคิดจะแสดงอำนาจที่เหนือกว่าด้วยการใช้กำลังบังคับลงโทษเขาโดยไม่คำนึงถึงเวลาและสถานที่ "โลธาร์ นี่ไม่ใช่ถ้ำ" ร่างสุนัขป่าของแมทธิวดิ้นไปมาอยู่ใต้ร่างสุนัขป่าสีดำ ที่ตอนนี้เริ่มขยับร่างมหึมาขึ้นคร่อมเหนือร่างที่ย่อมกว่า "เธอพยายามหนีออกจากถ้ำไม่ใช่หรือ ที่จริงพวกเราน่าจะลองบรรยากาศกลางแจ้งดูบ้าง" น้ำเสียงนั้นประชดประชันอย่างหื่นกระหาย "ไม่นะ โลธาร์" ร่างของสุนัขป่าสีทองพยายามขัดขืนสุดกำลัง อุ้งเท้าทั้งสี่พยายามตะกุยพื้นเบื้องล่างให้หลุดพ้นจากการคร่อมทับ แต่แรงกายของเขาไม่สามารถทัดเทียมกับอีกฝ่ายได้แม้แต่น้อย ความหนักอึ้งของโลธาร์ที่ทาบทับตัวเขาอยู่นั้นทำให้เขาขยับตัวไปไหนไม่ได้ทั้งสิ้น บนลานกว้างกลางดงไม้ เหนือพื้นหญ้าอ่อนนุ่มนั้น สุนัขป่าสีดำกดร่างมหึมาของตนเองลงจมลึกลงไปในร่างที่ตนทาบทับอยู่ มันปลดปล่อยความต้องการกับร่างสุนัขป่าสีทองอย่างไม่หยุดยั้ง ไม่มีการออมกำลังอย่างที่เคยทำมาก่อนในครั้งแรก ในครั้งนี้เขาต้องการให้อีกฝ่ายได้สำนึกในความผิดที่คิดจะหนีเขาไป ทั้งที่เขาปรารถนาจะอยู่ร่วมกับอีกฝ่ายไปตลอดชั่วชีวิตของเขา หวังจะปกป้องและทะนุถนอมอีกฝ่าย แต่ทำไมแมทธิวถึงได้คิดจะหนีจากเขาไปแบบนี้ ดูเหมือนความคิดของโลธาร์ไม่ได้ส่งผ่านไปถึงร่างที่เบื้องล่างแม้แต่น้อย เพราะความรุนแรงและเจ็บปวดที่ได้รับอย่างต่อเนื่องทำให้แมทธิวถึงกับหมดสติไปในที่สุด ***** "โลธาร์ พอได้แล้ว" เขาพยายามดันศีรษะมหึมาของอีกฝ่ายออกห่าง แต่ที่ได้รับก็คือการขู่คำรามในลำคอ ทำให้ชายหนุ่มถึงกับนิ่งขึง แสดงว่าอีกฝ่ายยังมีโทสะกับเขาอยู่ ทั้งที่ทำกับเขาถึงขนาดนี้แล้ว อารมณ์ฉุนเฉียวของโลธาร์นั้นก็ดูเหมือนจะไม่ได้คลายลงเลยแม้แต่น้อย นัยน์ตาสีอำพันของสุนัขป่าตรงหน้าทอประกายประหลาด ทำให้เขานึกไปถึงนัยน์ตาสีน้ำเงินเข้มที่มักจะยั่วเย้าและกลั่นแกล้งเขาตลอดเวลาที่อยู่ร่วมกัน และเขากำลังนึกถึงเรื่องที่อีกฝ่ายเคยพูดไว้ ร่างมนุษย์กับร่างสุนัขป่า "อ๊ะ!" ชายหนุ่มขบริมฝีปากกลั้นเสียงร้องของตนเองเมื่อศีรษะของสุนัขป่าเลื่อนต่ำลง ลิ้นของมันไล่วนไปตามหน้าท้องแบนราบของเขา ก่อนจะลากต่ำลงเพื่อสัมผัสกับส่วนกลางลำตัว แมทธิวตัดสินใจออกแรงกระชากหูทั้งสองข้างของโลธาร์ ก่อนจะดันร่างมหึมาของสุนัขป่าสีดำออกห่างตัวแล้วยันกายขึ้น ความรุนแรงที่ได้รับจากการมีเพศสัมพันธ์ในร่างสุนัขป่าก่อนหน้านี้ทำให้ขาของเขาอ่อนเปลี้ย แต่ชายหนุ่มก็พยายามรวบรวมเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีเพื่อจะวิ่งหนี เขาไม่ต้องการให้อีกฝ่ายทำเรื่องที่น่าอับอายเช่นนั้นกับตนเอง แม้ว่าเขาจะไม่ชอบที่อีกฝ่ายขืนใจเขาทั้งในสภาพของมนุษย์และสุนัขป่า แต่เท่าที่ผ่านมานั้นทั้งเขาและอีกฝ่ายก็ยังอยู่ในร่างแบบเดียวกัน แต่ตอนนี้โลธาร์คิดจะทำเรื่องแบบนี้ด้วยร่างของสุนัขป่ากับร่างของเขาที่เป็นมนุษย์ มันเกินกว่าที่เขาจะยอมรับได้ ร่างสูงใหญ่กำยำของสุนัขป่าสีดำวิ่งมาดักหน้าชายหนุ่มไว้ แล้วโจนกระแทกร่างสูงโปร่งของแมทธิวจนล้มลงกับพื้นหญ้า และคราวนี้มันไม่รอช้าอีกต่อไป ลิ้นชุ่มชื้นแต่สากหนาของมันตวัดเลียส่วนที่อ่อนไหวของแมทธิวอย่างกระหาย "โลธาร์!" แมทธิวครางพร้อมกับแอ่นกายขึ้นรับอย่างลืมตัว มันช่างเป็นความรู้สึกที่ขัดแย้งกันอย่างไม่น่าเชื่อ เขาไม่ต้องการให้โลธาร์ในร่างของสุนัขป่าทำเช่นนี้กับตน แต่เขาก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าตอนนี้เขาก็กำลังเกิดความต้องการเช่นกัน เสียงครางดังลอดจากลำคอของแมทธิวเป็นระยะ มือขาวนวลขยุ้มต้นหญ้าอ่อนนุ่มข้างกายคล้ายต้องการที่ยึดเหนี่ยว ทั้งร่างบิดเกร็งเมื่อความต้องการถูกปลดปล่อย แมทธิวไม่รู้ว่าในร่างของสุนัขป่านั้น โลธาร์สามารถทำเรื่องแบบนี้ได้อย่างไรโดยที่เขี้ยวขาวคมภายในปากของอีกฝ่ายไม่ได้ทำร้ายหรือสร้างบาดแผลให้กับร่างกายของเขาแม้แต่น้อย ความสุขที่เพิ่งได้รับยังไม่ทันจางหาย ชายหนุ่มก็ต้องสะดุ้งเฮือกเมื่อลิ้นสุนัขป่าของโลธาร์เลื่อนลงต่ำแตะสัมผัสปากช่องทางของเขาอย่างยั่วเย้า มันยังมีร่องรอยที่เพิ่งได้รับจากการบังคับขืนใจก่อนหน้านั้น ลิ้นชุ่มชื้นและสากหนาของโลธาร์ค่อย ๆ ดันผ่านช่องทางเข้าไปทีละน้อย แล้วตวัดลิ้นควานลึกเข้าไปในร่างของชายหนุ่มให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ "ไม่นะ โลธาร์ ผมไม่ได้ต้องการแบบนี้---อย่า---อย่าทำแบบนี้นะโลธาร์" ร่างขาวนวลหอบหายใจ เรียวขาของแมทธิวเสียดสีกับขนอ่อนนุ่มคล้ายกำมะหยี่สีดำของสุนัขป่าโลธาร์เป็นระยะ ลิ้นของโลธาร์ที่เคลื่อนไหวอยู่ในร่างกายเขากำลังทำให้เขาสับสน แม้ปากของเขาจะร่ำร้องให้อีกฝ่ายถอยห่างออกไป แต่ร่างกายที่ดิ้นเร่าอยู่ในตอนนี้ดูช่างขัดกับคำพูดของเขาอย่างเห็นได้ชัด เมื่อโลธาร์ถอนลิ้นออก แมทธิวถึงกับตัวเย็นวาบ เขากำลังคิดถึงสิ่งที่โลธาร์จะทำกับเขา ลงโทษเขาด้วยการทำเรื่องที่น่าอายที่สุดเท่าที่เขาจะนึกได้ในตอนนี้ การสมสู่ระหว่างมนุษย์กับสัตว์??? ร่างสูงใหญ่ของสุนัขป่าสีดำยืนคร่อมร่างของแมทธิวไว้ นัยน์ตาสีเหลืองสดนั้นทอประกายวาวแววคล้ายจะเยาะเย้ย แมทธิวรู้สึกเจ็บใจที่ไม่ตัวเองไม่มีสามารถแม้แต่จะดิ้นหนีให้พ้นจากร่างของอีกฝ่าย ความหวาดกลัวและโกรธแค้นทำให้น้ำตาหล่อรื้นกลบท่วมนัยน์ตาจนเห็นภาพตรงหน้าพร่าเลือน แต่เขาก็ยังเห็นศีรษะมโหฬารของสุนัขป่าเคลื่อนต่ำลงมา หน้าท้องเขาสัมผัสความร้อนผ่าวจากอวัยวะส่วนหนึ่งของร่างสุนัขป่า แมทธิวรู้ดีว่ามันคืออะไร เพราะตอนนี้มันค่อย ๆ เลื่อนเสียดสีกับอวัยวะส่วนกลางลำตัวของเขา ทั้งเร่งเร้าและกระตุ้นให้เขารู้สึกถึงความต้องการที่อีกฝ่ายมีต่อเขา ก่อนจะลากต่ำลงสัมผัสกับช่องทางที่อีกฝ่ายเตรียมการไว้ก่อนหน้านี้ แมทธิวหลับตา ปล่อยให้น้ำตาไหลจากหางตาสู่พื้นหญ้า เขาไม่ต้องการรับรู้เหตุการณ์หลังจากนี้อีกแล้ว "ผมขอโทษ แม้คุณจะไม่ยอมรับฟังผม แต่อย่าทำแบบนี้กับผมนะโลธาร์ ผมขอร้อง ผมจะไม่หนีคุณอีกแล้ว ผมจะเชื่อฟังคุณ ต่อไปถ้าคุณพูดอะไรผมจะทำตามทุกอย่าง ผมขอโทษ" "จริงหรือ?" เสียงของโลธาร์ดังอยู่ข้างหู แมทธิวลืมตาทันที แล้วเขาก็เห็นใบหน้าคร้ามคมของโลธาร์อยู่ใกล้ชิดกับใบหน้าของตน นัยน์ตาสีน้ำเงินเข้มนั้นทอประกายยั่วเย้า "คุณหลอกผม" แมทธิวตวาดใส่หน้าอีกฝ่าย ลืมไปหมดสิ้นว่าเมื่อครู่นั้นเขากลัวอีกฝ่ายมากขนาดไหน "ใครว่าหลอกกันเล่า ถ้าเธอไม่ขอโทษฉันอย่างเมื่อครู่ ฉันก็อาจจะทำอย่างที่คิดไว้ก็ได้" โลธาร์เอ่ยพร้อมหัวเราะในลำคอ นิ้วใหญ่เทอะทะนั้นเกลี่ยคราบน้ำตาบนหางตาของแมทธิวอย่างอ่อนโยน "คุณนี่วิปริต" "แต่ฉันก็ได้พิสูจน์แล้วว่าสามารถทำให้เธอมีความสุขได้ไม่ว่าในร่างของคนหรือหมาป่า" โลธาร์พูดพร้อมแลบลิ้นเลียริมฝีปาก แมทธิวหน้าร้อนผ่าวนึกไปถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านพ้น "ห้ามคุณทำแบบนี้อีกนะ" "ทำไมล่ะ ฉันคิดว่าเธอชอบเสียอีก
หรือกลัวว่าถ้าทำบ่อย ๆ แล้วจะติดใจ ที่จริงถ้าลองอีกแบบนะ เธอเป็นหมาป่าแล้วฉันเป็นมนุษย์
ก็น่าจะใช้ได้ ขนนุ่ม ๆ นี่เขาว่าเร้าอารมณ์เหมือนกัน" โลธาร์หัวเราะในลำคอก่อนจะจูบมือของอีกฝ่ายไล่ลงไปตามลำแขน "ฉันจะเป็นแอลฟาประเภทไหนก็ช่างมันเถอะ แต่เธอสัญญาแล้วนะว่าจะไม่หนีฉันไปอีก" คำพูดของอีกฝ่ายทำให้แมทธิวเงียบงัน โลธาร์ชะงักแล้วมองหน้าอีกฝ่ายอย่างขุ่นเคือง "เธอคิดจะหนีฉันไปไหน?" อารมณ์ที่แปรเปลี่ยนอย่างรวดเร็วทำให้แมทธิวตามอีกฝ่ายไม่ทัน "ผม---ผมแค่คิดจะกลับบ้าน" "บ้าน? ที่นั่นมีใคร? คนรัก?" คำถามแทบจะเป็นการกระชากเสียง "ไม่ใช่ มีธุรกิจของครอบครัวที่ผมต้องไปจัดการ" แมทธิวสารภาพตามความจริง "ถ้าผมไม่กลับไป บริษัทของพ่อผมต้องล้มละลายแน่" "บริษัทอะไร?" "โอเดซซีคอมพานี" "อ้อ" โลธาร์ทำเสียงรับรู้ "แล้วเธอไปจะช่วยอะไรได้ ในเมื่อหุ้นของบริษัทนี้มันแทบไม่มีค่าอะไรแล้ว ถึงมีเธออยู่ บริษัทก็ถูกฟ้องล้มละลายอยู่ดี อยู่กับฉันที่นี่ไม่ดีกว่าหรือ?" แมทธิวผลักอกอีกฝ่ายอย่างมีโทสะ "คุณไม่เข้าใจอะไรหรอก พ่ออุตส่าห์ก่อตั้งบริษัทนี้ไว้ให้ผมสืบทอด แต่ผมกลับไม่สามารถสืบต่อเจตนารมย์ของท่านได้ แล้วยังจะทำตัวขี้ขลาดมาหลบหน้าอยู่ในป่าแบบนี้อีก" "ใช่ ฉันไม่เข้าใจอะไรทั้งนั้น" โลธาร์เอ่ยเสียงดังคล้ายจะประชด "โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับเธอ" น้ำเสียงที่แสดงถึงความฉุนเฉียวนั้นทำให้แมทธิวต้องกลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น เขาทำให้อีกฝ่ายโกรธอีกแล้วหรือนี่ ทำไมโลธาร์ถึงได้เป็นแอลฟาที่ขี้โมโหเสียจริง "ขอโทษครับ ผมไม่ได้มีเจตนาจะพูดแบบนั้น แค่รู้สึกผิดที่ไม่สามารถทำให้บริษัทของพ่อดำเนินกิจการต่อไปได้" แมทธิวเอ่ยเสียงอ่อย "ถ้ามีบริษัทใหญ่จะช่วยให้บริษัทของเธอดำเนินต่อไปได้ แต่ก็ต้องเข้ามาเป็นบริษัทลูก เธอจะว่ายังไง?" น้ำเสียงของโลธาร์คล้ายจะชวนคุยไปเรื่อย ๆ ทำให้แมทธิวรู้สึกสบายใจคล้ายกับมีที่ปรึกษาทางธุรกิจ "คงไม่มีทางหรอกครับ เพราะก่อนหน้านี้เราติดต่อกับหลายบริษัทยักษ์ใหญ่ แต่ไม่มีใครยอมตกลงรับซื้อกิจการที่ไม่มีกำไรแบบนี้" "ถ้ามีคนยอมซื้อ เธอจะทำให้บริษัทมีกำไรได้ไหม?" "ผมคิดว่าได้ครับ ที่บริษัทย่ำแย่หนักหนาแบบนี้เพราะผมเชื่อใจใครบางคนมากเกินไป
แต่ถ้าผมได้เป็นผู้บริหารอีกหน รับรองว่าจะไม่ให้พลาดอย่างแต่ก่อนแน่ แต่มันก็คงจะเป็นไม่ได้แล้วนี่ครับ
ผมนี่บ้าจริง ๆ ที่ฝันในเรื่องที่เป็นไปไม่ได้แบบนี้" แมทธิวทำเสียงปลงได้ในที่สุด
ที่จริงเมื่อรู้คำตอบของปัญหาแบบนี้แล้ว การอยู่ร่วมกับโลธาร์ที่นี่ย่อมจะดีกว่าการไปพบกับปัญหายุ่งเหยิงในเมือง แมทธิวส่ายศีรษะ เขารู้สึกเหนื่อยเกินกว่าจะรับความเจ็บปวดจากการเปลี่ยนร่างอีกครั้ง การเปลี่ยนเป็นสุนัขป่านั้นแค่คืนละครั้งก็มากพอแล้ว โลธาร์ลูบศีรษะที่ปกคลุมด้วยเส้นผมสีทองอย่างอ่อนโยน "งั้นก็ขี่หลังฉันไป" แมทธิวมองหน้าอีกฝ่ายด้วยความสงสัย "คุณจะแบกผมปีนขึ้นภูเขาอย่างนั้นหรือ?" "ถึงฉันเป็นแอลฟาแต่ก็ไม่ใช่ยอดมนุษย์หมาป่านะ ฉันไม่อยากเสี่ยงพาคู่ของตัวเองไปคอหักตายบนเขาหรอก" ชายหนุ่มพูดกลั้วหัวเราะ "แล้วนี่คุณจะพาผมไปไหน?" "หาเตียงนุ่ม ๆ นอนสักหน่อย ตอนนี้ฉันอยากนอนเต็มทนแล้ว" "คุณง่วง?" นัยน์ตาสีน้ำเงินเข้มเป็นประกายพราวระยับ "ไม่เชิง ถ้าฉันไม่คิดจะนอนหลับ ก็คงจะหลับนอนนั่นแหละ ถ้าเป็นประการหลังก็ลำบากเธอหน่อย" ใบหน้าของแมทธิวร้อนผ่าว ก่อนจะปรับสีหน้าให้เป็นปกติ เขาคงจะต้องพยายามทำตัวให้ชินกับคำพูดทำนองนี้ของอีกฝ่ายให้เร็วขึ้น ร่างมนุษย์ของโลธาร์เปลี่ยนเป็นร่างสุนัขป่าอย่างรวดเร็ว ก่อนจะย่อตัวให้แมทธิวปีนขึ้นไปเกาะบนหลัง แมทธิวแนบร่างตนเองกับหลังของสุนัขป่าสีดำตัวมหึมา ยามเมื่ออีกฝ่ายเริ่มออกเดิน เขารู้สึกเหมือนกับว่าสายลมนั้นพัดผ่านผิวหน้าด้วยความอ่อนโยน เพราะอีกฝ่ายเพียงแค่เหยาะเท้าไปเรื่อย ๆ ท่ามกลางแสงจันทร์ยามค่ำคืนบนหลังของโลธาร์
ท่วงทำนองของป่าแว่วผ่านเสียงเสียดสีของใบไม้ แทรกประสานด้วยเสียงแมลงในป่าที่ร่ำร้องระงม
แสงจันทร์ที่ลูบไล้ทิวไม้และยอดหญ้าคล้ายคนเทราดหมึกสีทองกระจายไปทั่ว ไม่เว้นแม้แต่บนร่างของเขาและสุนัขป่าซึ่งเป็นสิ่งเดียวที่กำลังเคลื่อนที่บนภาพทิวทัศน์ยามค่ำที่กำลังเคลื่อนไหว
ขนสีดำสนิทคล้ายกำมะหยี่ของโลธาร์ทำให้เขานึกไปถึงเตียงนอนที่หรูหรานุ่มสบาย
แมทธิวคล้ายกับว่าตนเองกำลังหลับแล้วฝันไป แมทธิวเหลียวมองรอบกายก็พบว่าที่นี่คือบ้านพักของเขานั่นเอง สภาพของบ้านยังยุ่งเหยิงจากการบุกรุกของฝูงสุนัขป่าเมื่อคืนก่อน "คืนนี้เราจะนอนที่นี่" โลธาร์เอ่ยขึ้นพร้อมวางร่างของแมทธิวลงบนฟูกหนาที่ปูบนเตียงไม้หยาบ ๆ ก่อนจะโน้มตัวตามลงไปติด ๆ แมทธิวเอนตัวลงบนเตียงนอนตามแรงของโลธาร์โดยไม่ขัดขืน เจ้าของร่างสีคร้ามเข้มก้มลงจูบริมฝีปากสีอ่อนของแมทธิวอย่างกระหาย สองมือก็เลื่อนสำรวจไปทั่วร่าง เสียงครางต่ำ ๆ ในลำคอของแมทธิวแสดงถึงความพึงพอใจในสัมผัสจากมือใหญ่ เจ้าของร่างขาวนวลพยายามแอ่นตัวเสียดสีส่วนสำคัญของร่างกายเข้าหามืออีกฝ่าย "ใจเย็น ๆ ที่รัก" โลธาร์กระซิบบอกคนรัก พร้อมกับกระชับมือกับส่วนกลางลำตัวอีกฝ่ายแล้วขยับขึ้นลงช้า ๆ ยังผลให้ร่างของแมทธิวบิดเกร็งด้วยอารมณ์ที่พลุ่งพล่าน "โลธาร์" แมทธิวครางเสียงเบาพร้อมกับพยายามเร่งอีกฝ่ายด้วยการขยับตัวตามจังหวะมือที่เกาะกุมเขาอยู่ โลธาร์พลิกจับร่างอีกฝ่ายลงคว่ำหน้ากับฟูกนุ่มโดยยังไม่ละมือจากร่างของอีกฝ่าย
มือข้างที่ยังว่างอยู่ก็บีบเคล้นบั้นท้ายกลมกลึงอย่างหนักมือก่อนจะเลื่อนนิ้วควานลึกเข้าไปในร่างของคนรัก
มันยังคงมีความชุ่มชื้นหลงเหลือจากสิ่งที่เขาทำไว้ก่อนหน้านี้ จากหนึ่งก็เพิ่มจำนวนขึ้นเป็นสองและสาม
ทุกครั้งที่เขาเพิ่มนิ้วก็ยังผลให้ เมื่อเห็นว่าแมทธิวพร้อมสำหรับตนแล้ว โลธาร์จึงค่อย ๆ เลื่อนกายขยับเข้าหาร่างตรงหน้าอย่างไม่รีบร้อน แมทธิวตอบสนองด้วยการผลักร่างของตนเข้าหาร่างใหญ่ที่อยู่ทางด้านหลัง โลธาร์จูบต้นคออีกฝ่ายเบา ๆ เป็นสัญญาณก่อนจะเริ่มดันร่างของตนเข้าไปในตัวของอีกฝ่าย เสียงครางของแมทธิวที่แสดงถึงความเจ็บปวดทำให้เขาต้องผ่อนแรงลงแล้วพรมจูบไปทั่วหัวไหล่และหลังขาวเนียนพักใหญ่ และเริ่มต้นสอดแทรกกายเข้าไปอีกครั้งเมื่อเห็นอีกฝ่ายผ่อนคลายลงแล้ว และครั้งนี้ด้วยความอดทนที่จะไม่รีบร้อนรุนแรงกับอีกฝ่าย เขาก็สามารถเข้าไปอยู่ในร่างของแมทธิวได้ ความอบอุ่นที่ได้รับจากภายในร่างกายของคนรัก ทำให้ชายร่างใหญ่เร่งขยับเคลื่อนกายเข้าไปภายในรวดเร็วขึ้น ส่วนหนึ่งของร่างกายที่เสียดสีกับผนังภายในของแมทธิวสร้างความรู้สึกที่ยากจะทนข่มใจไหว แม้คิดจะอ่อนโยนกับร่างโปร่งบางของคนรัก แต่ทว่าในทางปฏิบัตินั้นเขาไม่สามารถอดกลั้นที่จะทำเช่นนั้นได้ เมื่อความต้องการทวีขึ้นเกินกว่าจะมีสติใด ๆ มารั้งไว้ ร่างโปร่งบางของแมทธิวก็แทบจะแหลกสลายไปกับมือของเขา การขยับเคลื่อนตัวเข้าออกเป็นไปอย่างรุนแรงและกระแทกกระทั้นจนแทบจะได้ยินเสียงเนื้อกระทบเนื้อแทรกประสานกับเสียงหอบครางของคนทั้งคู่ แมทธิวก้มหน้าเกลือกกับฟูกด้วยความรู้สึกที่เกินระงับไว้ได้ ร่างกายของเขาถูกครอบครองด้วยร่างของโลธาร์ทั้งภายนอกและภายใน มือของโลธาร์เคลื่อนไหวเกาะกุมคล้ายจะปลุกกระแสคลื่นแห่งความสุขให้ถาโถมเข้ามา ส่วนความแข็งแกร่งของโลธาร์ที่เคลื่อนไหวอยู่ภายในร่างกายของเขานั้นเหมือนกับพายุร้ายที่โหมกระหน่ำเขาด้วยความรุนแรงไม่หยุดยั้ง เสียงเตียงดังออดแอดคล้ายกับจะทรุดตัวลงไปได้ทุกขณะ และมันคงไม่แปลกหากว่าเตียงเก่าคร่ำคร่าตัวนี้จะมีอายุการใช้งานเพียงแค่นี้ "โลธาร์" แมทธิวร้องเรียกชื่อคนรักเพื่อให้รู้ว่าตนเองใกล้จะปลดปล่อยแล้ว เสียงดังกล่าวทำให้จังหวะมือของโลธาร์เร่งเร็วขึ้น ร่างโปร่งบางของแมทธิวกระตุกเฮือกเมื่อหยาดน้ำของตนฉีดพุ่งลงสู่ฟูก จากระลอกแรกเป็นสองและสามจนแมทธิวรู้สึกเหมือนกับว่าน้ำในร่างของตนนั้นแทบจะแห้งเหือดไปแล้ว มือของโลธาร์ผละออกจากสิ่งที่เกาะกุมอยู่ ต่อจากนั้นชายหนุ่มก็ใช้มือใหญ่ทั้งสองข้างก็ประคองสะโพกเล็กไว้อย่างมั่นคง ก่อนจะเริ่มต้นเสือกกายเข้าหาความอบอุ่นจากร่างขาวนวลตรงหน้า ร่างของแมทธิวก็รู้สึกคล้ายกับจะถลาไปข้างหน้าหากไม่มีสองมือของโลธาร์ช่วยยึดจับสะโพกไว้ ความรุนแรงที่ได้รับจากคนตัวใหญ่ทำให้ร่างที่เล็กกว่ารู้สึกเหมือนกับว่าร่างกายของตนแทบจะฉีกขาดออกเป็นสองซีกแล้วในตอนนี้ เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดของแมทธิวผสานกับเสียงครางในลำคอของคนรักเมื่อหยาดน้ำรักจากกายของโลธาร์พุ่งเข้าสู่ร่างของแมทธิว แมทธิวนอนหอบเหนื่อยโดยมีร่างของโลธาร์กอดก่ายอยู่เบื้องหลัง ความรู้สึกอบอุ่นและตึงแน่นยังไม่หายไปเพราะอีกฝ่ายยังคงไม่ถอนกายออกจากร่างของเขา แต่เขาก็เหนื่อยเกินจะต่อว่าอีกฝ่ายหรือทำอย่างอื่นได้ ท้ายสุดแมทธิวก็หลับผล็อยไปในอ้อมแขนแข็งแรงนั่นเอง ***** แมทธิวถูกปลุกด้วยความรู้สึกตึงแน่นที่เบื้องล่างลำตัว จมูกของโลธาร์กำลังเคลียกับแก้มของเขา ส่วนมือนั้นก็เลื่อนไปจัดการกับส่วนที่อ่อนไหวของเขาเพื่อปลุกเร้า "กี่โมงแล้วนี่?" แมทธิวงัวเงีย "ตีสี่" เสียงโลธาร์งึมงำเพราะตอนนี้จมูกของชายหนุ่มฝังอยู่กับต้นคอขาวผ่อง "โลธาร์ นี่มันยังไม่เช้าเลยนะ" "เดี๋ยวทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ก็จะเช้าเอง" ชายหนุ่มหัวเราะก่อนจะขยับดันร่างของตนเข้าหาอีกฝ่ายคล้ายกับจะบดขยี้ส่วนล้ำลึกภายในร่างกายของคนรักให้แหลกไปด้วยเรี่ยวแรงอันมหาศาลของตน "อ๊ะ โลธาร์ คุณนี่มัน " แมทธิวร้องอุทานพร้อมกับหันศีรษะไปต่อว่าอีกฝ่าย ก่อนจะถูกปิดปากด้วยริมฝีปากของโลธาร์ ลิ้นของคนทั้งคู่ตวัดเข้าหากันอย่างกระหาย ก่อนจะถอนริมฝีปากผละจากกันช้า ๆ โลธาร์ค่อย ๆ ขยับตัวเคลื่อนออกจากร่างของคนรัก ความร้อนผ่าวและคับแน่นที่เคยมีอยู่หลายชั่วโมงก่อนหน้านั้น เมื่อมันหายไปทำให้แมทธิวรู้สึกโหวงในร่างกาย แต่ความรู้สึกดังกล่าวนั้นเป็นเพียงชั่วขณะหนึ่งเท่านั้น เพราะเมื่อร่างสูงใหญ่ของโลธาร์ก้มลงจูบแมทธิวซ้ำอีกครั้ง ชายหนุ่มก็ตวัดเรียวขานั้นแยกออกจากกัน แล้วค่อย ๆ ดันร่างกายของตนเข้าไปอีกครั้ง ความแข็งขึงของเขาประกอบกับความชุ่มชื้นของช่องทางทำให้การแทรกกายในครั้งนี้ไม่ลำบากมากนัก แมทธิวจิกนิ้วที่ไหล่กว้างขณะที่ขาของเขากระหวัดรอบเอวคนรัก เพื่อเร่งการสอดแทรกภายในกายของตน ความร้อนผ่าวและความแข็งแรงจากร่างของโลธาร์ที่ขยับเคลื่อนลึกอยู่ภายในร่างกายทำให้แมทธิวต้องส่งเสียงครางดังลอดริมฝีปากเป็นระยะ แม้จะเจ็บปวดแต่ความต้องการกลับมีมากกว่า เขาต้องการให้โลธาร์เข้ามาอยู่ในตัวของเขา เป็นส่วนหนึ่งของร่างกายเขา ยามเมื่อโลธาร์ดันกายไปจนสุดในร่างของแมทธิว ชายหนุ่มหยุดการเคลื่อนไหวชั่วขณะเพื่อให้อีกฝ่ายได้เตรียมพร้อมสำหรับสิ่งที่จะตามมา แมทธิวครางเรียกชื่อคนรักเบา ๆ เมื่ออีกฝ่ายเริ่มขยับเคลื่อนตัว การเสียดสีระหว่างความแข็งขึงของโลธาร์กับผนังภายในที่เล็กแคบของเขาทำให้ความเจ็บอันทวีขึ้นผสานกับความสุขที่บังเกิดในเวลาเดียวกัน ทำให้ชายหนุ่มไม่รู้ตัวว่าตนเองต้องการอะไรกันแน่ระหว่างการร้องให้อีกฝ่ายหยุดสิ่งที่กำลังกระทำเพื่อระงับความเจ็บปวด หรือเร่งให้อีกฝ่ายบันดาลความสุขให้กับตนมากขึ้นกว่าเดิม ผิวเนื้อสีขาวนวลที่ต้นขาเบียดกับแผ่นอกหนาสีคร้ามเป็นจังหวะ มือใหญ่สีเข้มช้อนสะโพกเล็กเพื่ออำนวยสะดวกแก่การเข้าถึงส่วนลึกล้ำภายในร่างของคนที่เบื้องล่าง ยามเมื่อขยับเรือนกายเข้าออกนั้น เสียงครวญครางของแมทธิวทำให้ชายหนุ่มยิ่งเร่งความเร็วมากขึ้นตามความใคร่ที่พุ่งทวี ร่างขาวนวลแอ่นกายเพื่อให้ส่วนสำคัญของร่างกายเสียดสีกับหน้าท้องแข็งแรงตรงหน้าเพื่อช่วยเพิ่มอารมณ์ปรารถนาของตนให้มากขึ้น โลธาร์กดร่างของตนตอบสนองอีกฝ่ายในทันที ร่างกายของแมทธิวบิดเกร็งเมื่อเรียวขาตวัดรั้งเอวอีกฝ่ายไว้แน่น พร้อมกับบดเบียดส่วนกลางลำตัวของตนกับร่างแข็งแกร่งเบื้องบน การเสียดสีไปมาระหว่างผิวเนื้อจุดที่ไวต่อการสัมผัสของตนกับผิวเนื้อที่แข็งแรงของอีกฝ่ายทำให้ความรุ่มร้อนของแมทธิวระเบิดออกมาเป็นหยาดน้ำที่เปรอะเปื้อนรดคนทั้งคู่ในที่สุด แมทธิวค่อย ๆ ลดท่อนขาของตนลงด้วยอาการเหน็ดเหนื่อย แต่โลธาร์กลับตวัดมันแยกออกจากกัน มือใหญ่กระชับแน่นที่ต้นขายาวเรียวแล้วเริ่มต้นแทรกตัวเข้าออกอย่างรุนแรง ความเจ็บปวดและตึงแน่นจากอวัยวะที่แข็งขึงและมีขนาดใหญ่ทำให้แมทธิวต้องส่งเสียงร้องเป็นระยะตามจังหวะการกระแทกกระทั้นของอีกฝ่าย การโถมแรงของโลธาร์ในตอนนี้ทำให้แมทธิวต้องหาที่ยึดร่างของตน ข้อนิ้วที่คว้าจับหัวเตียงเกร็งแน่นด้วยแรงกระทำของคนเบื้องบน แม้เขาจะเคยมีอะไรกับโลธาร์หลายครั้งหลายหน แต่เขาก็ยังไม่ชินกับความรุนแรงที่ได้รับสักครั้ง โชคดีที่ครั้งนี้อีกฝ่ายไม่ได้ทำด้วยความโมโหหรือฉุนเฉียว เพราะถ้าเป็นเช่นนั้นเขาคงจะรับมือไม่ได้แน่ ในที่สุดพายุอารมณ์ของโลธาร์ที่ถาโถมเข้ามาหาเขาก็สงบลงด้วยความรู้สึกร้อนผ่าวจากหยาดน้ำของอีกฝ่ายที่ท่วมท้นอยู่ภายในร่างของเขา มือใหญ่ค่อย ๆ ปล่อยต้นขาขาวเนียนลงวางราบหลังจากถ่ายถอนกายออก แมทธิวนอนหลับตาหอบด้วยความเหนื่อยอ่อน เหงื่อเม็ดเล็กซึมทั่วร่าง "แมท" เสียงทุ้มของโลธาร์ฟังดูนุ่มนวลยามเมื่อกระซิบอยู่ข้างหู "หือม์" แมทธิวขานรับแต่ยังไม่เปิดเปลือกตา โลธาร์หัวเราะในลำคอเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายคล้ายจะหลับในทันที เรื่องที่จะพูดจึงระงับไว้ก่อน ชายหนุ่มโอบกระชับร่างของแมทธิวไว้กับตัว แล้วจูบแก้มที่เปียกชื้นไปด้วยเหงื่อของอีกฝ่ายเบา ๆ "หลับเถอะนะ" แมทธิวตอบรับอีกฝ่ายในลำคอก่อนจะหลับไปอีกครั้งในตอนใกล้รุ่งสางนั่นเอง ***** เสียงบางอย่างดังขึ้นข้างหูคล้ายกับการต่อสู้ แมทธิวลืมตาตื่นด้วยความพิศวงเมื่อใครบางคนพรวดพราดเข้ามาในห้อง แล้วจ่อวัตถุเย็นเยียบที่ขมับของเขาทั้งที่ยังนอนอยู่ "สวัสดีคนสวย ถ้าไม่อยากให้สมองกระจายก็ช่วยอยู่นิ่ง ๆ" แมทธิวหรี่ตามองเจ้าของวัตถุมรณะ แต่เพราะอีกฝ่ายยืนอยู่ในตำแหน่งย้อนแสง ทำให้เห็นเพียงเงาร่างสูงใหญ่ที่กำลังล้วงโซ่เส้นใหญ่ขนาดนิ้วก้อยออกจากถุง ปลายข้างหนึ่งมีปลอกคอหนังอย่างที่ใช้ล่ามสุนัขขนาดเขื่อง ผู้จู่โจมเข้ามาเยือนยามเช้าได้สวมมันที่ลำคอของเขา "ขอโทษด้วยที่ต้องล่ามโซ่ เพราะฉันไม่แน่ใจว่านายจะเปลี่ยนร่างเมื่อไหร่" คำพูดของอีกฝ่ายทำให้แมทธิวตระหนกมากขึ้น แสดงว่าอีกฝ่ายรู้เรื่องที่เขาเป็นมนุษย์หมาป่าด้วย "นายต้องการอะไร?" แมทธิวเอ่ยกับอีกฝ่ายเป็นประโยคแรก "อย่าเพิ่งถาม เราต้องออกไปจากที่นี่ก่อนที่โลธาร์จะกลับมา สวมเสื้อผ้าซะ" ตอนท้ายอีกฝ่ายก็ส่งเสื้อผ้าให้ชายหนุ่ม "โลธาร์อยู่ที่ไหน?" "บอกแล้วว่าอย่าเพิ่งถามอะไรทั้งนั้น อีกเดี๋ยวเราจะได้เจอตัวหมอนั่นแน่" หมอนั่นพูดพร้อมกระชากปลายโซ่จนแมทธิวรู้สึกเจ็บหนึบที่ลำคอ และตอนนั้นเขาก็ได้เห็นหน้าชายแปลกหน้าชัดเจน คนตรงหน้าของเขานั้นเป็นเด็กหนุ่มอายุไม่เกินยี่สิบปี รูปร่างสูงใหญ่เกือบเท่าโลธาร์ ใบหน้านั้นเคร่งขรึมดุดันอย่างเห็นได้ชัด แม้อีกฝ่ายจะไม่มีกลิ่นของสุนัขป่า แต่มีบางอย่างในร่างที่เขาแน่ใจว่าอีกฝ่ายคงจะคลุกคลีกับพวกมนุษย์หมาป่ามามากพอสมควร เพราะมันเป็นกลิ่นที่คุ้นเคยมาก ***** "ไม่ต้องรีบร้อนขนาดนั้นหรอกน่า" ชายร่างใหญ่ร้องเรียกคนที่เดินจ้ำพรวด ๆ อยู่เบื้องหน้า ก่อนจะวิ่งไปเดินเคียง "นี่เรามาสายมากเกินไปแล้วนะบาร์ท" น้ำเสียงนั้นคล้ายจะมีโทสะ พร้อมกับพยายามเดินให้เร็วขึ้น "เราจะมาเร็วกว่านี้ถ้านายจะตื่นในครั้งแรกที่ฉันปลุก" "ฉันผิดเองที่ขี้เซา" "ช่างมันเถอะ หวังว่าเจ้าเด็กนั่นคงจะไม่ก่อเรื่องอะไร" "คงไม่มีอะไรร้ายแรงหรอกน่า จอห์น" "แต่ฉันไม่คิดอย่างนั้น เพราะเจ้าเมาคลีมันบ้าพอ ๆ กับนายและโลธาร์นั่นแหละ และเพื่อเฟรดแล้วมันทำได้ทุกอย่าง" จอห์นชะงักเมื่อเข้าใกล้บ้านพักแล้วกระสากลิ่นบางอย่าง "ให้ตายสิ เรามาช้าไปแล้ว" บาร์ทวิ่งเข้าไปหาชายหนุ่มที่นอนสลบอยู่หน้าบ้านพัก เขาแก้ไขให้อีกฝ่ายฟื้นขึ้น ขณะที่จอห์นผลักประตูเข้าไปในบ้าน "แมทธิวไม่อยู่แล้ว มีกลิ่นเจ้าเมาคลีอยู่ด้วย แสดงว่าเป็นมันแน่" จอห์นเดินกลับออกมาบอกคนรัก "ถ้าฉันเดาไม่ผิด มันคงใช้แมทธิวต่อรองกับโลธาร์" บาร์ทเอ่ยอย่างมั่นใจ ***** "นายเป็นตัวเมียของโลธาร์?" เด็กหนุ่มร่างสูงใหญ่เอ่ยปากถามขณะขับรถ ปลายโซ่ที่ล่ามแมทธิวยังอยู่ในมือของเขา แมทธิวขมวดคิ้วด้วยไม่เข้าใจในคำถามของอีกฝ่าย "นายหมายความว่าอะไร?" เด็กหนุ่มหัวเราะในลำคอ "แสดงว่าโลธาร์ไม่ได้บอกอะไรกับนายเลยล่ะสิ ก็การจับคู่นั่นน่ะ นายสู้แพ้โลธาร์ใช่ไหม? หลักการง่าย ๆ ถ้าชนะก็เป็นตัวผู้ ถ้าแพ้ก็เป็นตัวเมีย และฉันก็รับรองได้เลยว่าคนอย่างโลธาร์จะไม่ยอมเป็นตัวเมียของใครแน่นอน" แมทธิวเขม้นมองอีกฝ่ายอย่างสงสัย "ทำไมนายถึงได้รู้เรื่องพวกนี้" "อ้อ ฉันลืมแนะนำตัวเองไป ฉันชื่อวินซ์ หรืออีกชื่อหนึ่งที่พวกนั้นเรียกฉันก็คือ เมาคลี" "เมาคลี?" เด็กหนุ่มยิ้มกวน ๆ ก่อนตอบคำถาม "เด็กที่ถูกเลี้ยงดูจากหมาป่า ชื่อนี้เข้ากับฉันที่สุด ฉันเป็นมนุษย์คนเดียวในฝูงมนุษย์หมาป่าของโลธาร์" "แล้วนายต้องการอะไรกันแน่" แมทธิวเอ่ยถาม "ฉันมีเรื่องจะเจรจากับโลธาร์นิดหน่อย" วินซ์ยักไหล่คล้ายกับพูดเรื่องทั่ว ๆ ไป "ฉันต้องการเปลี่ยนตัวเองเป็นมนุษย์หมาป่า" "นายเป็นบ้าไปแล้วหรือไงกัน?" ชายหนุ่มอุทาน แม้เขาจะเพิ่งเข้าฝูงและไม่ค่อยรู้เรื่องของมนุษย์สุนัขป่าเท่าใดนัก แต่เรื่องการเปลี่ยนร่างเป็นสุนัขป่านั้นเขารู้ดีว่ามันมีอันตรายมากขนาดไหน เพราะโลธาร์เคยบอกกับเขาว่าที่จำนวนของมนุษย์สุนัขป่ามีน้อยนิดนั้นเป็นเพราะการเปลี่ยนแปลงนั้นจะใช้ได้ผลกับคนบางคนเท่านั้น หากมนุษย์คนใดไม่เหมาะสมกับเลือดของเผ่าพันธุ์สุนัขป่าแล้ว จะไม่มีมนุษย์สุนัขป่าตัวใหม่แต่จะมีเพียงศพที่ถูกสุนัขป่ากัดเท่านั้น "ไม่บ้าหรอกน่า ฉันรู้ดีว่ามันเสี่ยงอยู่บ้างในการเปลี่ยนแปลง แต่ฉันคิดว่าฉันทำได้แน่ เพราะฉันเคยถูกกัดมาครั้งหนึ่งตอนสมัยเป็นเด็ก แล้วฉันก็ไม่ตาย แต่เสียดายที่ฉันเองก็ไม่ได้เปลี่ยนเป็นหมาป่า ไม่อย่างนั้นเรื่องของฉันกับเฟรดก็จะง่ายขึ้นกว่านี้" "เฟรด?" "นายคงจะยังไม่ได้เจอเขา หนึ่งในเบต้าของฝูง เป็นหมาป่าขนสีเงิน สวยมาก" วินซ์อธิบายด้วยสีหน้าชื่นชมอย่างเห็นได้ชัด ก่อนจะเปลี่ยนสีหน้าเมื่อเห็นร่างของสุนัขป่าสีเทาตัวมหึมายืนขวางบนถนนข้างหน้า เด็กหนุ่มครางอย่างขัดใจ "บาร์ทอย่างนั้นหรือ เร็วจริง ๆ หมอนี่" เด็กหนุ่มหักพวงมาลัยเข้าหลบข้างทาง ก่อนจะหันไปกระตุกโซ่ที่ล่ามแมทธิวคล้ายกับจะเตือน "อย่าคิดทำอะไรโง่ ๆ ล่ะ ฉันจะเป็นฝ่ายเจรจา ส่วนนายนั่งเฉย ๆ" แต่ยังไม่ทันทำอะไร รถยนต์ขับเคลื่อนสี่ล้อคันหนึ่งก็วิ่งเข้ามาจอดประชิด จอห์นก้าวลงจากรถด้วยสีหน้าฉุนเฉียว "เมาคลี นายกำลังทำให้โลธาร์โมโห" "โลธาร์เขาโมโหตลอดเวลานั่นแหละ" วินซ์เอ่ยอย่างไม่แยแส "ปล่อยแมทธิวซะ แล้วฉันจะไม่บอกโลธาร์" จอห์นต่อรอง "ไม่ คุณก็รู้นี่นาว่าผมต้องการอะไร" "วินซ์ นายยังเด็ก" จอห์นเรียกชื่ออีกฝ่ายแทนจะเป็นฉายาที่พวกคนในฝูงใช้เรียก เขาทำเช่นนี้ต่อเมื่อรู้สึกโกรธขึ้นมาจริง ๆ "และฉันก็ไม่อยากเสียนายไปเพราะการเปลี่ยนแปลงนั่น" "คุณแน่ใจได้อย่างไรว่าผมจะตายเพราะการเปลี่ยนแปลง บางทีผมอาจจะเป็นลูกฝูงตัวใหม่ก็ได้" "วินซ์" จอห์นครางอย่างอ่อนใจ "ผมจะจับคู่กับเฟรด" น้ำเสียงนั้นมั่นคงและแน่วแน่ยิ่งนัก "ไม่ได้" เสียงของบาร์ทดังขึ้น ตอนนี้ชายหนุ่มอยู่ในร่างของมนุษย์แล้ว "คุณมีจอห์นอยู่แล้วไม่ใช่หรือ ยังต้องการเฟรดไปทำไมอีก" เด็กหนุ่มหรี่ตามองอีกฝ่ายคล้ายจะเยาะเย้ย ก่อนจะหันไปทางจอห์น "มันจะตัดปัญหาไม่ใช่หรือ ถ้าเฟรดจับคู่กับผมเพราะบาร์ทจะได้มีคุณคนเดียว" "ฉันก็มีแต่จอห์นคนเดียวเท่านั้น" บาร์ทตวาดลั่นเมื่อเห็นสีหน้าของคนรักเปลี่ยนไป "นายอย่ามาทำให้พวกเรามีปัญหานักเลย" "งั้นก็ไม่น่ากีดกันผมกับเฟรด ที่จริงผมก็ช่วยคุณด้วยนะแมทธิว" เด็กหนุ่มหันไปทางแมทธิวที่นั่งฟังเรื่องต่าง ๆ ด้วยสีหน้าแสดงถึงความสงสัยเต็มเปี่ยม "อะไร?" "อย่าไปฟังเขา" บาร์ทตวาดลั่น วินซ์หัวเราะในลำคอ ก่อนจะเอ่ยเสียงดัง "ก่อนที่โลธาร์กับบาร์ทจะจับคู่กับนายและจอห์น ทั้งคู่คิดจะจับคู่กับเฟรดกันทั้งนั้น ไม่เชื่อก็ถามลูกฝูงคนอื่นก็ได้" ตอนนี้แมทธิวนึกอยากเห็นหน้าของเฟรดขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล คนประเภทไหนกันนะที่ทำให้ทั้งโลธาร์และบาร์ทชอบได้ถึงขนาดนั้น จอห์นเงียบงันไม่พูดอะไร เขารู้เรื่องความสัมพันธ์ของทั้งสามคนเป็นอย่างดี แม้จะเป็นเรื่องก่อนที่เขาจะเข้าฝูงก็ตาม *****
|