ผลงานทั้งหมดที่ลงอยู่ในหน้า
Novel เป็นสิทธิส่วนตัวของผู้เขียน หากมีผู้ใดต้องการจะทำการคัดลอกหรือดัดแปลงผลงานบางส่วน
หรือทั้งหมดเพื่อนำไปใช้ในการอื่น นอกจากอ่านเพื่อความบันเทิง กรุณาติดต่อเพื่อขออนุญาตจากผู้เขียนตาม
e-mail ที่ให้ไว้เสียก่อน ขอบคุณสำหรับความร่วมมือค่ะ อีกประการหนึ่งนักเขียนทุกคนต้องการกำลังใจและคอมเมนท์(แม้ว่าบางคนจะไม่พูดออกมา)ไม่ว่าจะเป็นคำติหรือคำชมนะคะ
เพราะฉะนั้นเมื่ออ่านแล้วชอบไม่ชอบยังไงไ ก็เมลไปคอมเมนท์ได้ตามอีเมลที่ให้ไว้ของแต่ละคน
หรือไม่ก็โพสต์คำติชมไว้ในบอร์ดก็ได้ค่ะ
|
Another Seasons (Autumn : Falling Leaf's Tale) by...nongrata
วันหนึ่งคุณหนูแอนเจิลชวนกึ่งบังคับให้ไซมอนไปเดินเล่นที่สวนเหมือนเคย เด็กหนุ่มวิ่งบนทางที่ปูลาดด้วยแผ่นหินโบร่ำโบราณจนมีตะไคร่น้ำจับเขียวอยู่อย่างคล่องแคล่ว ในขณะที่เขาทำเพียงค่อยๆเดินช้าๆพลางร้องเตือนอีกฝ่ายไปด้วย ระหว่างทางอันยาวเหยียดนั้นมีรูปแกะสลักต่างๆประดับประดาอยู่เป็นระยะ รูปแกะสลักพวกนี้มีฝีมือปราณีตแต่ก็อยู่ในสภาพชำรุดทรุดโทรมไปเสียทุกตัว เทพอพอลโลแขนขาดยืนวางท่าเป็นสง่าพร้อมพิณคู่มืออยู่ในบ่อน้ำพุเก่าแก่ ตรงข้ามกันนั้นมีเทพีดีมิเตอร์ซึ่งเหลือแต่ตัวนั่งทอดอารมณ์มองการร่ายรำของเทพีเปอร์ซีโฟเน่ที่อยู่เบื้องหน้า ชายหนุ่มละสายตาจากความเสื่อมสูญซึ่งเกิดจากกาลเวลามามองร่างที่ยังสมบูรณ์เปล่งปลั่งด้วยความเยาว์วัย ไซมอนเป็นศิลปิน ดังนั้นสายตาของเขาจึงแสวงหาภาพในอุดมคติอยู่เสมอ เรือนผมสีทองทอประกายงดงามสมกับสีของดวงตาซึ่งเป็นสีเขียวเหมือนใบลอเรล คุณหนูในยามนั้นช่างดูเหมือนทูตสวรรค์ผู้บริสุทธิ์เสียจนเขาอดนึกชมคนที่ตั้งชื่อว่า 'แอนเจิล' ให้แก่เธอไม่ได้ เขาดื่มด่ำกับความงามของคุณหนูเสียจนยามค่ำมาถึงแล้วยังไม่รู้สึกตัว ขณะที่ลุกขึ้นนั้นเขารู้ตัวว่าตนชอบคุณหนู ขากลับ แอนเจิลกึ่งเดินกึ่งวิ่งเหมือนตอนขามา แต่คราวนี้ความมืดทำให้ก้าวพลาดจนเกือบจะหกล้ม ดีที่เขารีบรับไว้ทันจึงไม่มีอะไรเกิดขึ้น จากแสงสลัวเขาเห็นพวงแก้มใสปรากฏสีเลือดฝาดแดงระเรื่อก่อนเจ้าตัวจะหัวเราะแล้วเอ่ยออกมาเป็นบทกวีของนักประพันธ์หญิงผู้เรืองนาม " 'Who ran to help me when
I fell "แต่ผมไม่ใช่แม่ของคุณหนูนะครับ" เขาพูด กึ่งหัวเราะนิดๆ รู้สึกหัวใจพองโตเมื่อได้ประคองร่างน้อยๆนั้นไว้แนบอก "My Simon!" แอนเจิลว่าพลางหัวเราะก่อนสีหน้าจะเปลี่ยนไปเป็นครุ่นคิดกึ่งเศร้าสร้อย "เป็นอะไรไปครับ? คุณหนู" "ไม่มีอะไรหรอกครับครู" ริมฝีปากบางเม้มน้อยๆ แต่แล้วก็พูดขึ้นมาจนได้ "ผมมีอาอยู่คนหนึ่ง คุณอาคนนี้เป็นน้องชายคนเดียวของคุณพ่อ เป็นคนใจดีมาก เมื่อก่อนผมมักจะหกล้มเสมอแล้วคุณอาก็จะคอยรับ.." แอนเจิลมองเหม่อ นัยน์ตามีแววโศก "แต่ตั้งแต่อายุ 5 ขวบคุณอาก็ไม่มาหาอีกเลย.." ไซมอนลูบเรือนผมสีทองอย่างเบามือ ออกแปลกใจที่เพิ่งเคยได้ยินเรื่องนี้เป็นครั้งแรก น่าแปลกที่ไม่มีใครเคยบอกเขาว่าคุณหนูยังมีอาแท้ๆอยู่อีกคน ราวกับทุกคนไม่ต้องการรื้อฟื้นอะไรก็ตามที่เกี่ยวกับชายผู้นี้เอาเสียเลย คืนนั้นเขานอนคิดถึงเรื่องที่ได้ยินมากว่าจะข่มตาหลับลงได้ก็ปาเข้าไปค่อนคืน ก่อนที่สำนึกสุดท้ายจะดับลง เหมือนเขาจะได้ยินเสียงฝีเท้าของคนเดินเหยียบใบไม้แห้งที่กำลังร่วงบนทางเดินจนหลับไป วันรุ่งขึ้น ระหว่างมื้ออาหารกลางวันเขาก็ได้ยินเสียงกรอบแกรบนั้นอีกครั้ง เขายิ้มพลางพูดอย่างติดตลกเกี่ยวกับความขยันขันแข็งของคนกวาดถนน แต่ท่าทางคุณผู้หญิงออกจะกระอักกระอ่วนและไม่อยากจะเอ่ยถึงเรื่องนี้เอาเลย การรับประทานอาหารจบลงอย่างรวดเร็ว หลังมื้ออาหารคุณผู้หญิงขอร้องให้เขาเล่นเปียโนให้ฟัง ท่าทางเธอไม่อยากจะได้ยินเสียงแกรกกรากเบื้องล่างเอาเสียเลย ชายหนุ่มจึงเลือกเล่นเพลงที่ดังอยู่สักหน่อย อยู่ๆเธอก็พูดขึ้นว่า "ฉันเกลียดฤดูใบไม้ร่วงจริงๆนะคะครู" เขายิ้ม แม้จะออกประหลาดใจอยู่บ้างเล็กน้อยก็ตาม "บางมุมมองมันก็ดูจะหดหู่อยู่บ้างครับ" "ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกค่ะ ครู ฉันเพียงแต่รู้ตัวว่าฉันต้องตายในฤดูใบไม้ร่วงนี่แหละ ไม่ปีนี้ก็ปีหน้า หรือไม่ก็ปีต่อๆไป แต่ฉันต้องตายในฤดูใบไม้ร่วงแน่ๆ" "คุณยังสาวและยังสวย ทำไมมาพูดถึงความตายแล้วล่ะครับ" "มันมีเหตุผลค่ะครู" เธอทำท่าเหมือนเพิ่งนึกอะไรออก "ฉันต้องขอความกรุณาครูอย่าพาแอนเจิลออกไปเดินเล่นที่สวนได้ไหมคะ แกจะไม่เซ้าซี้คุณเรื่องนี้หรอกค่ะ นะคะ" เธอขอร้องอย่างน่าสงสาร "ได้สิครับ" เขารีบรับคำทั้งที่งุนงงเต็มที แต่ท่าทางของเธอดูน่าสงสารเสียจนไม่อยากเซ้าซี้ คืนนั้นไซมอนนอนไม่หลับเป็นคืนที่2 เขาออกมาหาหนังสืออ่านในห้องสมุดพลางเดินไปรอบๆขณะที่ในมือมีหนังสือเกี่ยวกับความแตกต่างระหว่างไวโอลินของสตราดิวาเรียสกับอาร์มาตี เขามองออกไปนอกหน้าต่างก่อนจะนึกขึ้นมาได้ว่าจากห้องของคุณหนูแอนเจิลไม่สามารถเห็นสวนซึ่งมีทางเดินยาวเหยียดสุดลูกหูลูกตานั้นได้ ชายหนุ่มนึกครุ่นคิดเกี่ยวกับคุณผู้หญิงซึ่งมีความเชื่ออย่างไร้ข้อกังขาว่าตนจะต้องตายในฤดูใบไม้ร่วง คุณหนูซึ่งมีความผูกพันอย่างแน่นแฟ้นกับ 'คุณอา' ซึ่งไม่ได้พบกันมาถึง 10 ปี บัดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงแกรกกรากเช่นเมื่อคืนอีก ไซมอนลองโผล่หน้าออกไปดู ผู้ชายคนที่กำลังเดินเข้ามาเรื่อยๆเป็นภาพที่ก่อให้เกิดความรู้สึกหลายหลากขึ้นในเวลาเดียวกัน เขาเป็นคนร่างสูง ดูสง่าแต่ไม่เทอะทะ เสื้อผ้าของเขาเป็นสูทตัดเย็บประณีตแต่ก็เป็นแบบที่นิยมกันเมื่อ 10 ปีมาเเล้ว เหมือนชายคนนั้นจะรู้ว่าถูกไซมอนมองอยู่ เขาเงยหน้าขึ้นช้าๆ ชายหนุ่มจึงได้เห็นหน้าผู้มาเยือนในยามวิกาลอย่างชัดเจน ใบหน้าของเขาดูคมคายและหวานเศร้าไปพร้อมกัน ดวงตาสีเขียวมีแววหมายมาดจนน่าขนลุก ไม่รู้ว่าเขาคิดไปเองหรือเปล่า.. แต่เหมือนนัยน์ตาคู่นั้นจะบ่งบอกถึงความไม่พอใจเขาอยู่ด้วย แก้มและริมฝีปากที่บอบบางเหมือนผู้หญิงดูซีดเซียวและอ่อนล้าจนเหมือนไม่ใช่คน แต่ก็คงจะเป็น.. ไซมอนกัดริมฝีปากตัวเองเมื่อนึกถึงคำนั้นขึ้นมา ชายหนุ่มเพิ่งสังเกตเห็นสิ่งที่ผิดไปจากธรรมชาติของมนุษย์จากชายคนนั้น เขาไม่มีเงา! และแม้ร่างกายของเขาจะยังคงกระจ่างชัดแต่ก็ค่อยๆเลือนหายไปทุกที จนในที่สุดก็เหลือไว้เพียงใบไม้แห้งที่ถูกลมพัดปลิวไปครูดกับพื้นหินเท่านั้น! ไซมอนมือไม้อ่อน หนังสือในมือหล่นโครมขณะที่เขาทำได้เพียงยืนตัวเเข็ง จวนเจียนจะล้มพับไปอยู่แล้ว ดีที่มิสซิมป์สันซึ่งเป็นแม่บ้านที่ทำงานอยู่ที่นี่มานานมากแล้วนึกเอะใจที่เห็นแสงไฟในห้องสมุด จึงขึ้นมาพบเขาที่ยืนหน้าซีดหน้าเซียว เธอรีบเทบรั่นดีที่มีอยู่ในห้องมาให้เขาดื่มพลางประคองมานั่งบนโซฟา "สงบใจไว้นะคะครู เขาไม่สนใจจะมาเอาตัวคุณไปหรอกค่ะ คุณผู้หญิงเท่านั้นล่ะที่เขาต้องการ" "หมายความว่าป้ารู้จักเขางั้นหรือ?" ชายหนุ่มถามขึ้นเมื่อเริ่มสงบจิตสงบใจได้แล้ว หญิงแม่บ้านพยักหน้า ท่าทางไม่ค่อยอยากพูดถึงเรื่องนี้เอาเสียเลย "ช่วยเล่าให้ฉันฟังที ฉันทนอยู่ที่นี่โดยไม่รู้เรื่องอะไรเลยแบบนี้ไม่ได้หรอก" มิสซิมป์สันถอนใจ "ก็ได้ค่ะ ดิฉันจะเล่าให้คุณฟัง แต่คุณอาจไม่เชื่อก็ได้นะคะ เรื่องมันออกแปลกประปลาดเหลือเกิน" ไซมอนหมดแรงจะเถียง แม้อยากจะพูดเหลือเกินว่าให้อย่างไรเขาก็ต้องเชื่อเมื่อได้ประจันหน้ากับ 'เขา' คนนั้นอย่างถนัดถนี่ "เขาชื่อเออเนสต์ค่ะ เป็นคุณอาของคุณหนูแอนเจิล เขาเป็นจิตรกร ชอบวาดรูปแกะสลักอะไรไปเรื่อย พวกที่อยู่ในสวนน่ะฝีมือเขาทั้งนั้นแหละค่ะ ปกติแล้วเขามักจะอยู่ที่ปารีส แต่พอคุณหนูเกิดเขาก็กลับมาอยู่ที่นี่ ดิฉันยังจำได้ดี เขารักคุณหนูเหลือเกินนะคะ ไม่เคยเห็นใครจะรักจะเอ็นดูกันได้มากไปกว่านั้นเลย เมื่อก่อนเขาจะชอบอุ้มคุณหนูที่ยังเล็กอยู่เดินไปรอบๆบ้าน เรียกคุณหนูว่า มาย แอนเจิลทุกคำ" "เมื่อก่อนคุณผู้หญิงไม่ได้ใจดีกับคุณหนูขนาดนี้หรอกค่ะ ตอนที่เธอแต่งงานกับคุณผู้ชายเธอยังสาวอยู่มาก ก็เลยไม่ค่อยชอบเด็กเล็กๆอย่างคุณหนู ตรงกันข้ามกับคุณเออเนสต์ที่รักคุณหนูเหลือเกิน สองคนนี้เลยไม่ค่อยจะถูกกันสักเท่าไร แต่ทุกอย่างก็ดำเนินไปด้วยดี จนกระทั่งคุณผู้ชายตายไปนั่นแหละค่ะถึงได้เกิดเรื่อง" "เรื่องอะไร..?" ชายหนุ่มถามเสียงแผ่ว "ก็เรื่องมรดกน่ะสิคะ คุณผู้ชายยกสมบัติทั้งหมดให้คุณหนูแต่ไม่ได้ระบุผู้จัดการให้ ทีนี้คุณผู้หญิงก็เริ่มอยากได้ตัวคุณหนูขึ้นมา แต่คุณเออเนสต์ก็ไม่ยอมเพราะอยากจะเลี้ยงคุณหนูเอง ระหว่างนั้นคุณหนูก็อยู่ที่นี่กับคุณผู้หญิง เย็นวันหนึ่งช่วงที่ใบไม้กำลังร่วงพวกคนงานกวาดถนนก็พาคุณเออเนสต์มาส่งถึงบ้าน สภาพอิดโรยแถมมีไข้สูงเชียวค่ะ พวกคนงานบอกว่าพบเขาที่ต้นทางเดินเข้าบ้าน ดูท่ารถจะเสีย แต่ก็ยังดันทุรังจะเดินเข้ามาเลยสลบอยู่ตรงนั้นเอง" "ทีนี้พอคุณผู้หญิงเข้ามาเจอก็โวยวายใหญ่ บอกให้พาคุณเออเนสต์ไปไว้ที่เดิม ตอนนั้นเธอพูดว่า 'ถ้าอยากจะได้เด็กนักก็เดินมาเองให้ได้สิ ถ้าทำได้ฉันจะยอมยกให้' ตอนนั้นดิฉันเองก็เกือบจะค้านอยู่แล้ว เพราะสภาพคุณเออเนสต์ดูแย่จนไม่น่าจะเดินไหว แต่เขาเองก็หยิ่งเหมือนกันนี่คะ เลยบอกพวกคนงานให้พาเขากลับไปที่เดิม แล้วเขาจะเดินมาให้ดู" "คุณนายเองก็ตามไปดูด้วย กลัวว่าเขาจะโกงมังคะ ดิฉันเองก็ไป เผื่อขาดเผื่อเหลือยังไงจะได้ช่วยทัน ดิฉันไม่คิดหรอกค่ะว่าเขาจะเดินไกลขนาดนั้นได้ สภาพตอนนั้นแค่ยืนก็ดูยังจะไม่ไหวเสียด้วยซ้ำ คุณเขาก็เดินจริงๆค่ะ แต่ได้แค่ไม่กี่ก้าวก็ล้มอยู่ตรงต้นทางนั่นแหละ เขาเงยหน้าขึ้นมองคุณผู้หญิง พูดด้วยเสียงแหบๆน่ากลัวว่า 'เตรียมตัวไว้ให้ดีเถอะ คุณพี่ ผมจะกลับมาเดินอย่างนี้ทุกปี พอผมไปถึงเมื่อไหร่ผมจะพาแอนเจิลไปด้วย ส่วนคุณพี่ผมก็จะมารับไปเหมือนกัน' " "แล้วเขาก็มาจริงๆค่ะ เดินใกล้เข้ามาเรื่อยๆอย่างนี้ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงอย่างนี้ทุกปี เรื่องนี้ทำเอาคุณผู้หญิงผวาไปเลย ตั้งแต่นั้นเธอก็ใจดีกับคุณหนูแอนเจิลอย่างกับคนละคน แต่เขาก็ยังกลับมาอยู่ดี เมื่อกี๊คุณครูเห็นเขาเดินมาถึงไหนแล้วคะ?" "ตรงคอกม้าเกือบสุดทางเดิน จวนจะเข้าประตูบ้านแล้ว" "งั้นก็ใกล้แล้วล่ะค่ะ โถ.. น่าสงสารคุณผู้หญิง" เขานิ่ง พูดอะไรไม่ออกสักคำ 5 วันต่อมา ขณะที่ไซมอนกำลังเล่นเปียโนในให้แอนเจิลฟังในห้องดนตรี เขาเห็นคุณหนูยืนอยู่ที่หน้าต่าง มองออกไปด้วยดวงตาทอประกายหวานเชื่อม ริมฝีปากสีชมพูเผยอน้อยๆดูยั่วยวน เขายิ้มให้กับภาพที่เห็นก่อนเดินไปหาพลางชะโงกหน้าออกไปดูบ้าง 'เขา' เดินมาจนถึงจุดหมายปลายทางแล้ว! ชายหนุ่มรู้สึกเหมือนได้ยินเสียงกรีดร้องจากห้องนั่งเล่น เขารีบวิ่งไปดูก่อนจะพบว่าคุณผู้หญิงเสียชีวิตเสียแล้ว มิสซิมป์สันส่ายศีรษะเสมือนจะบอกว่าช่วยไม่ได้พลางว่า "นี่ถ้าคุณผู้หญิงยอมยกคุณหนูให้เสียตั้งแต่แรก.." "แบบนี้มันเหมือนกับว่าเขาอยากจะได้คุณหนูแอนเจิลไปอยู่ด้วยมากกว่านะ" ไซมอนกล่าวก่อนจะนึกขึ้นมาได้ เขารีบวิ่งไปหาแอนเจิลที่อยู่ในห้องดนตรี วิ่งไปตะโกนไปเหมือนคนบ้า "อย่าเอาแอนเจิลไป! กลับมา! คุณหนู กลับมา!" ชายหนุ่มกระชากประตูออกสุดแรงจนแทบจะหลุดติดมือมา ห้องทั้งห้องว่างเปล่า ไม่มีวี่แววของใครสักคนเดียว เขาหน้ามืด เดินโซซัดโซเซเข้ามาเหมือนคนสติไม่ดี ชายหนุ่มพบอะไรบางอย่างที่ตกอยู่ข้างหน้าต่าง ไซมอนหยิบขึ้นมาดูก่อนจะรีบปล่อยทิ้งลงพื้นด้วยอารมณ์ที่ประดังเข้ามาจนยากจะแยกออก ใบไม้แห้งสีน้ำตาลอมทองร่วงลงบนพื้นอย่างแผ่วเบา หลังจากที่ถูกเหยียบย่ำโดยผู้ที่เดินมาจากทางไกลครั้งแล้วครั้งเล่าจนช้ำชอก ++++++ End |