ผลงานทั้งหมดที่ลงอยู่ในหน้า Novel เป็นสิทธิส่วนตัวของผู้เขียน หากมีผู้ใดต้องการจะทำการคัดลอกหรือดัดแปลงผลงานบางส่วน หรือทั้งหมดเพื่อนำไปใช้ในการอื่น นอกจากอ่านเพื่อความบันเทิง กรุณาติดต่อเพื่อขออนุญาตจากผู้เขียนตาม e-mail ที่ให้ไว้เสียก่อน ขอบคุณสำหรับความร่วมมือค่ะ อีกประการหนึ่งนักเขียนทุกคนต้องการกำลังใจและคอมเมนท์(แม้ว่าบางคนจะไม่พูดออกมา)ไม่ว่าจะเป็นคำติหรือคำชมนะคะ เพราะฉะนั้นเมื่ออ่านแล้วชอบไม่ชอบยังไงไ ก็เมลไปคอมเมนท์ได้ตามอีเมลที่ให้ไว้ของแต่ละคน หรือไม่ก็โพสต์คำติชมไว้ในบอร์ดก็ได้ค่ะ

 

Black My Heart, Mr. Popular(Part 3)

by...นาถยา

คืนนี้ ตอนสองทุ่มกว่า จู่ ๆ ฐานด้านขวาของที่ว่าการหลังใหม่ก้เกิดขี้เกียจเอาเสียดื้อ ๆ ปล่อยให้ฐานทางด้านซ้ายรับน้ำหลักไว้ด้านเดียว ตึกที่ว่าการที่เพิ่งสร้างได้แค่ 3 ปีเอียงกระเท่เล่ แน่ละนี่เป็นข่าวใหญ่ในเมืองเชียว บริจิท ลินซ์ไม่รอช้า ส่งคนออกไปทำข่าวทันที แต่ผู้หญิงสมองไวอย่างบริจิทไม่หยุดแค่นั้น เธอจำได้ว่าเมื่อปี 90 ตึกของโรงเรียนประถมเมืองข้าง ๆ ก็เกิดทรุดทั้ง ๆ ที่เพิ่งสร้างได้ไม่กี่ปี ตึกนั้นบริษัท A&G เป็นผู้รับเหมา หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น A&G ก็ปิดตัวไป และเปิดตัวใหม่ด้วยชื่อMitch and Michael เพียงไม่กี่ปีก็ปิดตัวไปและเปิดบริษัทด้วยชื่อใหม่หลายครั้ง บริจิทสงสัยว่า Dawning Day ที่รับเหมาตึกที่ว่าการจะเป็นบริษัทเดียวกับA&G

"โจอี้ ลูกกับมาร์ค รีบไปเอาข่าวตั้งแต่ปี 90 ที่บ้านเบลินดามาให้แม่ แม่ให้เธอรวบรวมข้อมูลไว้แล้ว คืนนี้แม่อาจจะมีประชุมที่บ้าน ขากลับซื้อกาแฟกะโดนัทเข้ามาด้วย"

"ให้มาร์คไปคนเดียวก็ได้นี่ฮะ"

"โจอี้ มาร์คไม่รู้จักบ้านเบลินดา"

"งั้นให้ผมไปคนเดียว" โจอี้บอก ถ้ามีแค่สักนาที ขอแค่นาทีเดียวเท่านั้นที่ไม่ต้องทนอยู่กะหมอนี่

"หวานใจ...." มาร์คยิ้ม

"นี่มันสี่ทุ่มกว่าแล้ว ไม่มีรถเมล์ แล้วนายก็ขับรถไม่เป็น"

"เฮอะ...." โจอี้ส่งเสียงในลำคอ "ชั้นนั่งแท็กซี่ก็ได้"

"ตามใจ....แต่ชั้นว่าบริจิทคงไม่ออกค่าแท็กซี่ให้นายแหง จริงไหมฮะ บริจิท?"

"ไม่มีทาง" นางลินซ์บอก

+++++++

"นี่นายเป็นอะไรหา..เหาฉลามรึไง!?" โจอี้โวยทันทีที่ออกรถ

"ให้ตายเหอะโจอี้ ชั้นก็แค่อยากจะช่วยให้แม่นายทำงานได้เร็วขึ้น ตอนนี้ชั้นเป็นลูกจ้างแม่นายนะ" มาร์คขับรถตามทางที่โจอี้บอก สักพักก็ถึงอพาร์ทเมนต์ของเบลินดา ผู้ช่วยบริจิท

"นายรออยู่นี่เดี๋ยวชั้นไปเอาเอง" โจอี้บอกก่อนเดินจ้ำอ้าวขึ้นบันได ไม่ใช่ว่าโจอี้เกิดขยันหรืออะไรหรอก เพียงแต่เขาไม่ชอบให้เบลินดาเรียกมาร์คว่า เพื่อนชายของโจอี้ (ถึงแม่จะบอก คนอื่น ๆ ว่ามาร์คเป็นเพื่อนสนิทก็เหอะ แต่คนขี้เล่นอย่างเบลินดาก็หาเรื่องมาพูดให้โจอี้หัวเสียจนได้)

หนุ่มหล่อคนดังแห่ง Jackson Hight school ออกมายืนคอยที่ข้างรถคันหรู

"เฮ้...มาร์กี้..." เสียงคุ้น ๆ เรียก มีไม่กี่คนหรอกที่เรียกมาร์คว่ามาร์กี้ และหนึ่งในนั้นคือ "เซอร์ไพรส์จังที่เจอเธอแถวนี้"

เด็กสาวผมบลอนด์ในชุดที่เหมือนกระโดดออกมาจากนิตยสารวัยรุ่นทัก เจนิเฟอร์ ฮัดสัน เชียร์ลีดเดอร์ที่เซ็กซี่ที่สุดในโรงเรียน ลูกสาวคนเดียวของคุณพ่อฮัดสัน แฟนคนปัจจุบันของมาร์ค หรือพูดให้ถูก คู่ควงคนล่าสุดของเขา

"นี่............." เจนี่เบียดเข้ามา พร้อมกับนิ้วเรียวสวยแตะริมฝีปากชายหนุ่ม "หมู่นี้ไม่เห็นเธอโทรหาชั้นบ้างเลย"

มาร์คโอบรอบเอวแฟนสาวไว้หลวม ๆ "อืม ช่วงนี้ไม่ค่อยว่างน่ะ"

"ได้ยินว่าเธอถูกไล่ออกจากบ้าน"

" อาฮะ" มาร์ค รับคำ

"โอว...ตายแล้ว มาร์กี้น้อยพเนจรของชั้น" เจนี่โน้มคอมาร์คลงมา "คืนนี้ พ่อกะแม่ชั้นไม่อยู่ อยากให้ชั้นช่วยปลอบใจไหม??"

มาร์คยังไม่ทันได้ตอบ ก็มีเสียงดังโครมจากด้านหลัง โจอี้โยนลังใส่ข้อมูลลังเบ้อเร่อลงที่เบาะหลังรถหน้าตาบอกบุญไม่รับ

ตายห่ะ มาร์ค คิดในใจ ถ้าโจอี้เข้าใจผิด เดี๋ยว...เข้าใจผิดอะไรวะ? เรากะเจนี่เป็นแฟนกัน ...ใช่มั้ย?...ใช่ ถ้าเราจะจูบกะเจนี่มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกใช่ไหม?......ใช่

เราไม่เห็นต้องแคร์โจอี้ใช่ไหม?...ใช่ ตายห่ะ..พระเจ้า .... เราแคร์...

"ไอ้เบื้อกนี่เป็นใคร" เจนี่มองโจอี้ด้วยสายตาไม่พอใจ ใครกันบังอาจมาทำกิริยายังงี้ใส่ผู้ชายและผู้หญิงที่ดังที่สุดในโรงเรียน

โจอี้จุดบุหรี่ขึ้นสูบ "ไอ้เบื๊อกนี่ก็คือหนุ่มน้อยรักความยุติธรรมที่กำลังทุ่มเทแรงกายแรงใจสืบเสาะค้นหาความจริงว่าทำไมอยู่ ๆ ตึกที่ว่าการมันถึงได้เอียงกระเท่เล่ ในขณะที่เพื่อนร่วมงานของเค้ากำลังจะมีเซ็กส์กะลูกสาวท่านสาธุคุณ"

โจอี้ตอบ น้ำเสียงบอกว่ามีอารมณ์ พอ ๆ กัน

"มาร์ค นี่..."

"เอ...เจนี่ นี่โจอี้ เพื่อนผม...โจอี้นี่..."

"เจนิเฟอร์ ฮัดสัน ลูกสาวคุณพ่อฮัดสัน" โจอี้ต่อให้

"ไม่ยักรู้ว่าเธอมีเพื่อนแบบนี้ด้วยนะมาร์ค" เชียร์ลีดเดอร์สาวปรายตาดูถูก

โจอี้สูดบุหรี่เข้าปอด "โอว เจนี่...เราจะคาดหวังอะไรกะสังคมได้ล่ะ ก็ขนาดลูกสาวของท่านสาธุคุณยังมายืนกอดจูบกะผู้ชายข้างถนน" โจอี้อยู่ในอารมณ์หาเรื่องสุดชีวิต ไม่รู้ทำไมถึงอารมณ์บูดได้ขนาดนี้

มาร์คเหงื่อแตกซิกยังกะเพิ่งวิ่ง 4x100 มา "เอ่อ...เจนี่ ชั้นว่าเธอกลับก่อนดีกว่านะ คือ...ตอนนี้ชั้นกำลังวุ่น ๆ น่ะ เอาไว้เดี๋ยวโทรหา"

เจนี่มองโจอี้อย่างไม่พอใจ ส่งเสียง'หึ'ในลำคอเชิงดูถูก ก่อนสะบัดหน้าพรืด

"เฮ้ เจนี่" โจอี้เรียก คู่ควงของมาร์คหันขวับ "ฝากบอกคุณพ่อฮัดสันด้วยนะว่า อาทิตย์ที่แล้วท่านเทศน์เรื่องการมีเซ็กส์ก่อนแต่งงานคือบาปอันใหญ่หลวงได้กินใจชะมัด"

เจนี่ส่งสายตาโกรธแค้น ก่อนเชิดหน้าเดินจากไป

+++++++

ตั้งแต่ออกรถมาไม่ว่ามาร์คจะชวนคุย แหย่ ล้อ ยังไงโจอี้ก็เงียบ กระทั่งคำว่า 'หวานใจ' ที่โจอี้ต้องออกอาการทุกครั้งที่เขาเรียกก็ไม่ได้ผล อะไรกันวะ? มาร์คคิด

จะว่าโกรธที่ไม่ไปช่วยยกของก็ไม่ใช่ โจอี้เป็นคนบอกให้รอข้างล่างนี่หว่า หรือจะโกรธที่ เห็นเราอยู่กะเจนี่วะ เอ้ย แล้วทำไมต้องโกรธ..???

คำถามนี้อย่าว่าแต่มาร์คเลย โจอี้เองก็ยังตอบไม่ได้ ทันทีที่รถจอด โจอี้รีบคว้าลังเดินนำหน้า เป็นอาการบอกว่าเกลียดขี้หน้าคนที่มาด้วยขนาดหนัก

"เฮ้ โจอี้.."มาร์คเรียก "นายเป็นอะไรน่ะ นี่นายรู้ตัวไหมว่านายทำยังกะหึงชั้นเลย"

โจอี้สะอึก เออ เราเป็นไรวะ

"ประสาท!" โจอี้ตะโกนใส่หน้า ในใจท่องแต่คำว่า ไม่ใช่ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ

+++++++

"ไฮ โจอี้ ไฮ มาร์ค" เสียงทักทายเซ็งแซ่จากลุกน้องของนางลินซ์ที่มารอประชุม โจอี้รับพึมพำในลำคอเชิงรับคำทักทาย

"แม่ฮะ ผมไม่ค่อยสบาย ขอตัวฮะ" พูดแล้วก็วางกล่องที่ถือมาลงกับพื้น ออกจากประตูไปเงียบ ๆ

บริจิท ลินซ์มองหน้ามาร์คเหมือนจะถาม

"บริจิทฮะ ผมขอเวลาคุยด้วยแป๊บนึงฮะ"

นางลินซ์เงียบไปสักพักจึงสั่ง "ทุกคนจ๊ะ ชั้นขอเวลา 10 นาที มาร์ค ตามมาที่ห้องทำงาน"

+++++++

โจอี้นั่งมองบุหรี่สิบกว่าตัวกองอยู่ในที่เขี่ย บางตัวยังไม่ได้สูบสักครั้ง บางตัวแค่ครั้งเดียวก็ดับ ในหัวของโจอี้มีแต่คำพูดของมาร์ค เราหึงหมอนั่น บ้า ทำไมต้องเก็บเอาไอ้คำพูดงี่เง่าของมาร์ค วิลสันมาคิดด้วยวะ ถ้าไม่ได้หึงทำไมไม่พอใจที่เห็นมาร์คอยู่กะเจนี่ ไม่รู้ว่ะ แต่ที่แน่ ๆ ไม่ได้หึง ไม่ได้หึง ไม่ได้หึง

โจอี้หยิบกระดากะปากกาขึ้นมาเขียน

"เหตุผลที่ข้าพเจ้าไม่หึงมาร์ค วิลสัน : โจนาธาน แมทธิว ลินซ์"

1.มาร์ควิลสันเป็นคนงี่เง่า
2.มาร์ค วิลสันเป็นไอ้โรคจิตชอบแก้ผ้า
3.มาร์ค วิลสันเป็นผู้ชาย

กำลังคิดจะเขียนข้อที่ 4 ก็ถูกขัดจังหวะด้วยเสียงไขกุญแจ โจอี้เอากระดาษซุกไว้ใต้หมอน

"โจอี้ แม่นายมีอะไรจะพูดด้วยอ่ะ" มาร์คบอก โจอี้รู้สึกว่ามาร์คทำหน้าเครียดผิดปกติ

+++++++

บริจิท ลินซ์มองหน้าลูกชายคนเดียวอยู่เกือบครึ่งนาทีก่อนจะเอ่ยประโยคแรก "โจอี้จ๊ะ มาร์คบอกความจริงแม่ทั้งหมดแล้ว"

ความจริง? หมายความว่ามาร์คบอกเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดแล้ว?

"แม่อะคือฟังผมอธิบายก่อน"

"โอ…โจอี้ แต่นั่นไม่ใช่ความผิดของมาร์คเลยนะลูก"

อะไรนะ? ไม่ใช่ความผิดหมอนั่นเรอะ? แม่เอาอะไรมาพูด หมอนั่นมันบังคับเขาให้ขับรถ หมอนั่นข่มขู่ หมอนั่นจูบเขา อันหลังตัดออกดีกว่าแฮะ

"แม่เข้าใจจะว่ามันทำใจลำบากที่ใครต่อใครก็ทำท่าเหมือนอยากจะมุดเข้าไปในกางเกงของแฟนเรา"

"อะไรนะฮะ?" โจอี้งง "เดี๋ยวฮะแม่มาร์ค บอกอะไรกะแม่?"

"โธ่ โจอี้ ก็เรื่องที่ลูกโกรธมาร์คเพราะเห็นมาร์คอยู่กะลูกสาวท่านสาธุคุณไง ฟังนะลูกเข้าใจผิดทั้งหมดเลย ยัยนั่นน่ะมาตอแยมาร์คเอง มาร์คเค้าเลิกกะหล่อนไปตั้งนานแล้ว ตอนนี้เค้ามีลูกคนเดียว"

"หา !!!" โจอี้โดดผาง

"โจอี้ใจเย็น ๆ นะจ๊ะ แม่ว่าลูกต้องมองมาร์คเสียใหม่ แน่ล่ะเค้าเคยเป็นเพลย์บอย เคยเป็นคนเจ้าชู้ แต่นั่นมันก่อนที่ เค้าจะมาคบกะลูก แม่ว่าลูกไปปรับความเข้าใจกะมาร์คใหม่ ค่อย ๆ พูด ค่อย ๆ คิด อย่าใช้อารมณ์"

"ครับแม่"

โจอี้กัดฟันกรอด ใช้อารมณ์ไม่ได้ขอใช้อาวุธแล้วกัน

+++++++

มาร์คหัวเราะไว้รอท่าตั้งแต่ได้ยินเสียงโจอี้ไขกุญแจ

"มาร์ค วิลสัน" โจอี้ตะคอก "นาย...."

เดี๋ยวโจอี้ใจเย็นไว้ หมอนี่มันชอบยั่วให้นายโกรธ ถ้านายโกรธก็เข้าล็อคสมประสงค์มันสิวะ

"ช่างเหอะ..."โจอี้กัดฟันพูด

"โอ้ใจดีจริงนะหวานใจ ไหนดูสิเก็บจดหมายใครไว้ใต้หมอนเอ่ย"

โจอี้ใจหาย ถลันเข้าแย่งกระดาษจากมาร์ค ไม่มีทางซะละ มาร์คหลบวูบ มืออีกข้างคว้าตัวโจอี้ไว้ กดคนตัวเล็กกว่าคว่ำหน้าลงที่เตียงโถมตัวลงทับไม่ให้อีกฝ่ายขยับได้แล้วอ่านออกเสียงดัง ๆ

"ฮ่า ฮ่า โจอี้ นายไม่หึงชั้นจริง ๆ ด้วย"

โจอี้หน้าแดง ทั้งอายทั้งโกรธ ในใจตะโกนก้อง "พระเจ้า ผมเกลียดมาร์ค วิลสัน"

+++++++

โจอี้ใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กเช็ดผมเปียก ๆ บนหัว มาร์ค วิลสันอยู่บนเตียง ในมือยังถือวรรณกรรมชิ้นเอกของโจอี้ไว้ อ่านออกเสียงซ้ำไปซ้ำมาเป็นร้อยรอบแล้วมั้ง บางครั้งร้องเป็นทำนองเพลงเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ตามแต่จะคิดออก ให้ตายเหอะ ไอ้มาร์คบ้าอยู่อย่างนี้มาตั้งครึ่งชั่วโมงแล้ว ไม่เบื่อบ้างรึไงวะ!?

โจอี้พยายามไม่ตอแยหนุ่มนักกีฬา ใช้เท้าเปิด switch เครื่องคอม โหลดเกม Martin in the Village of Zombie ที่เล่นค้างไว้เกือบชาตินึงแล้วขึ้นมา Martin in the Village of Zombie เป็น adventure/rpg สุดสยอง เรื่องราวเกี่ยวกะเด็กอ้วนขี้แพ้คนนึงที่บังเอิญหลุดไปอยู่ท่ามกลางฝูงซอมบี้ อาวุธที่ใช่ต่อกรมีตั้งแต่ไม้เบสบอล ขวาน เลื่อยไฟฟ้า สับซอมบี้แต่ละทีเลือดพุ่งกระฉูด ตรงนี้แหละที่ถูกใจโจอี้ที่สุด ไอ้เกมนี้เคยเป็นที่โปรดปรานของโจอี้อยู่พักนึง แต่หลังจากเล่นไปถึงchapter ที่ 5 ก็ติดแหง็ก หาทางไปไม่ได้เลย เลิกเล่นเอาซะดื้อ ๆ ตอนนี้โจอี้กำลังอยากจะใช้ขวานจามใครสักคน จินตนาการว่าไอ้ซอมบี้น่าเกลียดพวกนี้เป็นมาร์ค วิลสัน มาร์ค วิลสันตาย มาร์ค วิลสัน หัวหลุด สมน้ำหน้า สะใจชะมัดมาร์ค วิลสันเลือดกระฉูด ไปตายซะไป๊

สงสัยว่ามาร์คตัวจริงจะสัมผัสจิตสังหารของโจอี้ได้แหง ๆ ร่างสูงกระโดดจากเตียงลงมาจ้องที่หน้าจอคอม

"เชยชะมัดเลยว่ะ โจอี้ ไอ้เกมนี้ชั้นเล่นจบไปตั้งนานแล้ว"

โจอี้เบ้ปากดูดูก ขี้โม้ชะมัด ลงว่าคนฉลาด ๆ อย่างโจอี้ยังเล่นไม่ผ่าน ไอ้สมองกลวงอย่างมาร์คไม่มีทางเล่นจนจบแหง ๆ บางทีในโลกนี้อาจจะยังไม่เคยมีใครเล่นจบก็ได้

"ประตูอยู่ไหนวะ" โจอี้บ่น ใจจดจ่อกะเกม

"นายติดตรงนี้เหรอ" มาร์คยื่นหน้าเข้าใกล้จอ "โธ่! โจอี้ ประตูมันซ่อนอยู่หลังก้อนหิน"

"หินก้อนไหนอ่ะ? มันมีตั้งหลายก้อน"

"ก้อนสีน้ำตาล"

"หินทุกก้อนก็สีน้ำตาล"

"ก้อนที่น้ำตาลที่สุด"

"ไม่มีก้อนไหนน้ำตาลที่สุด" โจอี้ตวาด "ทุกก้อนสีน้ำตาลเท่ากัน มาร์ค วิลสัน ไอ้ขี้โม้"

"ก้อนที่สามอ่ะ โจอี้"

"ก้อนที่สามนับจากทางซ้ายหรือทางขวาอ่ะ?"

"โจอี้....."มาร์คหัวเราะ "หินมันมีอยู่ห้าก้อนจะนับจากซ้ายหรือขวามันก็ก้อนเดียวกันแหละ"

โจอี้รู้สึกอายเล็กน้อยที่สมองช้ากว่ามาร์ค วิลสัน บังคับไปหลังไอ้ก้อนหินที่ว่านั่น เย้.....ได้แล้ว

"ได้แล้ว ๆ ๆ"โจอี้ร้องอย่างดีใจ หันหน้ามาบอกอีกคน บังเอิญว่าตอนนั้นหน้ามาร์คกะโจอี้มันก็เกือบจะชิด ๆ กันอยู่แล้ว เมื่อหันหน้ามา จมูกกะปากของโจอี้จึงชนกะแก้มมาร์ค ใจโจอี้เต้นเป็นเพลงร็อค

ใช่ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ มาร์ค วิลสันเคยจูบโจอี้ หมอนี่เคยกอดเค้า แล้วก็ชอบทำสนิทสนมทุกครั้งที่อยู่ต่อหน้าแม่ แค่อุบัติเหตุแค่นี้เทียบได้ว่าจิ๊บจ้อยมาก แต่นี่เป็นครั้งแรกที่โจอี้สัมผัสตัวมาร์คก่อน

"เอาเป็นว่าชั้นจะรับจูบตะกี้ไว้แทนคำขอบคุณนะ"

โจอี้พึมพำต่อว่าตะกุกตะกัก ไม่สมกะเป็นโจอี้ซะเลย ไม่มีกะใจจะเล่นไอ้เกมบ้านี้ต่อแล้ว กว่าจะปิดเครื่องคอมได้ก็กินเวลานานกว่าปกติ มือไม้ดูมันเกะกะไม่รู้จะวางไว้ตรงไหนดี ลุกพรวดวิ่งเข้าห้องน้ำปิด ประตูดังปัง

ใจเย็นไว้โจอี้ แกจะตื่นเต้นอะไรวะกะอีแค่บังเอิญเอาจมูกไปชนแก้มมาร์ค วิลสัน ใจเย็น ใจเย็น...

"ตายห่ะ...." โจอี้เพิ่งนึกได้ ก็ไอ้ท่าทางเมื่อตะกี้นี้น่ะสิ จะให้เรียกว่าอะไร ถ้าไม่ใช่…เขิน

+++++++

มาร์ค วิลสันยังเดินพาเหรดอยู่ในสมองโจอี้ จนกระทั่งเขาผลอยหลับไป คืนนี้ค่อนข้างหนาว...โจอี้รู้สึกถึงลมหายใจอุ่น ๆ บริเวณใบหน้า เด็กหนุ่มค่อยเปิดเปลือกตาขึ้น ใบหน้าของมาร์ค วิลสันลอยอยู่ มาร์ค ยิ้ม ไม่ใช่ยิ้นทะเล้น ขี้เล่นแบบที่เคยเห็น แต่เป็นรอยยิ้มที่แฝงความชั่วร้าย รอยยิ้มที่ทำให้โจอี้พรั่นพรึง ใบหน้าหล่อเหลาโน้มต่ำลงมา โจอี้พยามดิ้นรน แต่แปลก.....ร่างกายเหมือนไม่ใช่ของโจอี้อีกต่อไป เรี่ยวแรงจะขัดขืนหายไปไหนหมด ทำได้แค่เบือนหน้าหนี มีใหญ่จับใบหน้าของเด็กหนุ่มให้หันกลับมา พร้อมกับบีบขากรรไกรให้ปากเผยอ

"ชั้นรู้..." เสียงแหบพร่าเหมือนไม่ใช่มาร์คกระซิบ "นายต้องการมัน"

ริมฝีปากของมาร์คนาบลงมา ลิ้นอุ่นชำแรกเข้ารุกเร้า คล้ายจูบกับที่เกิดขึ้นในคืนนั้น แต่คราวนี้มันรุนแรง กระหาย กว่า โจอี้พยายามจะลุกขึ้น แต่กลับถูกมือแข็งแรงคู่นั้นกดเอาไว้ กางเกงบอกเซอร็ถูกดึงหลุดออกไป โจอี้พยายามขอร้อง แต่เปล่าประโยชน์ ทั้งริมฝีปากและสองมือยังคงฟอนเฟ้นหาความสำราญจากร่างกายโจอี้ สัมผัสนั้นทั้งดุดันหยาบ กระด้าง หากว่าขณะเดียวกันก็มีอำนาจมากพอที่จะทำให้โจอี้คล้อยตาม

"มาร์ค อย่า...." โจอี้บอกเมื่อหัวเข่าทั้งสองถูกดันแยกออกจากกัน รู้ดีว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไป เพียงแค่คิดถึงขนาดของมาร์คก็ยังรู้สึกเจ็บ

"อย่า...."เด็กหนุ่มน้ำตาซึม มาร์คเริ่มสอดแทรก เพียงแค่นี้ยังเจ็บราวร่างแยกออกเป็นซีก

"มาร์ค...เจ็บ....อย่า" โจอี้คราง

"อย่าเกร็ง ปล่อยตัวตามสบาย อีกเดี๋ยวนายจะชอบ" มาร์คผ่อนจังหวะลง

โจอี้จิกเล็บ ลงที่แผ่นหลัง ฝังเขี้ยวคมลงบนบ่าหวังจะให้มาร์คปล่อย แต่เปล่าประโยชน์ มาร์คยังคงไม่ยอมถอนตัวออกไป จากช้าเปลี่ยนเป็นเร่งรัว ความรู้สึกร้อยพันไหลผ่านหัวของโจอี้ หนึ่งในนั้นคือความสุขสันต์ ที่เคยผลักก็กลับกอดรั้ง ที่เคยขัดขืนก็กลับร่วมมือ

"โจอี้....โจอี้"มาร์คคราง โจอี้ฝังคมเขี้ยวเข้าที่ไหล่กว้างอีกครั้ง แรง ลึก พร้อมกับที่เกลียวความเคร่งเครียดที่ถูกขมวดตึงขาดผึง

"อ๊าก ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ" มาร์ค วิลสันร้อง กระโดดจากเตียงเปิดสวิตไฟ "โจอี้นายแค้นอะไรชั้นนักหนา หา.."

ที่ข้อมือข้างนึงยังเห็นรอยฟันเลือดไหลซิบ รสชาติเค็มปร่าของเลือดยังติดอยู่ที่ลิ้นโจอี้ และแน่นอน ความชื้นที่ส่วนกลางก็ยังคงอยู่ โจอี้จ้องหน้ามาร์ค คิดถึงความฝันเมื่อครู่ ใบหน้าค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีแดง

"เพราะนายนั่นแหละ นายผิด"

โจอี้ตะโกน ก่อนคว้าผ้าห่มมาคลุมโปง มาร์คปิดไฟทิ้งตัวลงนอนอีกครั้ง

"ทำตัวแปลกขึ้นทุกวัน" มาร์คบ่น

+++++++

บริจิท โจอี้ และมาร์ค นั่งดูทีวีอยู่บนพื้น สาเหตุที่ต้องระเห็จมานั่งข้างล่างเพราะโซฟาถูกกองหนังสือ และข้อมูลต่าง ๆ ของบริจิทยึดพื้นที่ไว้หมดแล้ว กับพื้นข้างล่างยังมีทั้งหนังสือ เอกสาร บทความ กองระเกะระกะรอการจัดแยกอยู่ ข่าวที่ว่าการครั้งนี้เป็นงานหนักไม่เบา บริจิท โจอี้ มาร์ค ช่วยกันแยกข้อมูลต่าง ๆ ออกตามปี เพื่อความสะดวกในการใช้ และแน่นอนว่าคืนนี้ที่บ้านใหญ่ต้องมีการประชุมยาวกันอีกหน เพียงแค่จัดแยกข้อมูลก็ใช้เวลาตั้งแต่เช้ายันบ่ายกว่าจะเสร็จ ความจริงไม่มีใครสนใจทีวีนัก ทั้งสามต่างแค่ต้องการ นั่งนิ่ง ๆ ไม่ต้องจับโน่นมาปะนี่ก็เท่านั้น

ทันใดนั้นมือถือของมาร์คก็แหกบ้างร้องขึ้น หนุ่มหล่อคนดังรีบรับทันที ".....อ้อ ใช่...ใช่จ้ะ..เอ่อ เจนี่ เธอได้เบอร์นี้มาได้ไง?"
โจอี้หันขวับทันทีที่ได้ยินชื่อเจนี่

" อ้อ....พีทบอกเธอเหรอ เปล่า ๆ ไม่ได้ปิดหรอก คือช่วงนี้เครื่องมันไม่ค่อยดีน่ะ ยังไม่ได้เอาไปซ่อม"

" โอ๊ะ....ๆ" มาร์คยืดแขนถอยโทรศัพท์ออกจากหู ทำเสียงก้อง "ฮาโหล เจนี่...เจนี่ สงสัยโทรศัพท์เสียอีกแล้ว แค่นี้นะ"

มาร์คปิดมือถือทันที บริจิทเลิกคิ้วเหมือนจะถามว่าเกิดอะไรขึ้น มาร์คส่งยิ้มแหย ๆ เป็นคำตอบว่า 'เอาไว้จะอธิบายทีหลัง'

'ให้ตายเหอะ' โจอี้คิด เดี๋ยวนี้มาร์คซี้กะแม่เขาถึงขนาดมีรหัสลับกันแล้วเรอะ

"ฮู่...." มาร์คถอนหายใจทำท่าเซ็งเต็มที่ "เจนี่น่ะ ไอ้เวรพีทคนเดียว เดี๋ยวเจอหน้าจะเตะตูดมันซักป๊าบ"

ก่อนที่โจอี้จะรู้ตัวมาร์คก็ทิ้งหัวลงนอนบนตัก "ไม่โกรธนะ?"

โจอี้ไม่ตอบ บรรยากาศชักตรึงเครียด

"หนุ่ม ๆ จ๊ะ พวกเธอคงหิว เดี๋ยวชั้นไปหาอะไรมาให้กิน" นางลินซ์ ลุกออกไปทันที เข้าใจตัดช่องน้อยแต่พอตัว

"แม่ไปแล้ว ลุกซะทีสิ ไม่ต้องมาเสแสร้ง"

โจอี้บอก มาร์คยังนอนอยู่ สาบานได้ว่าตะกี้นี้เขากลัวโจอี้โกรธจริง ๆ ไม่ได้จงใจจะแสดงละครเลยสักนิด

"ไม่เอาน่า...." มาร์คว่า ยกมือขี้น ปลายนิ้วเขี่ยแก้มโจอี้เล่น "นายงอนป่องเลยนะโจอี้"

โจอี้ยังคงเงียบ ตามองทีวีทั้ง ๆ ที่ไม่รู้เลยว่าไอ้ภาพบนจอนั่นมันเล่นอะไรอยู่ ในใจโจอี้สับสน บ้า บ้าชะมัด ใครจะโทรมาหามาร์ค วิลสันก็ช่างแม่งปะไร

"เดี๋ยวชั้นจะเลิกใช้เบอร์นี้"มาร์คบอก งงตัวเองเหมือนกันว่าทำไมลงทุนขนาดนี้

"ช่างหัวนาย ใครสน"

"จริงอ่ะ?" มาร์คแหย่

"จะเจนี่ ฟีบี้ เคธี่ แมรี่ จูดี้ โทรมาก็ช่างชั้นไม่สนเลยสักนิดโว้ย" โจอี้บอก

"อืม....โอเค" มาร์คบอก "ชั้นโคตรเชื่อเลยว่ะ" ก่อนทะลึ่งตัวขึ้นหอมแก้มคนที่หนุนตักอยู่ โจอี้คว้าไม้เบสบอลที่อยู่ใกล้มือได้

"บริจิท คร๊าบหิวแล้ว....ขออะไรกินหน่อย....." มาร์คเปิดแน่บอย่างนกรู้

+++++++

ข่าวตึกที่ว่าการล้มทำให้ นสพ.และบริจิท ลินซ์เป็นที่รู้จักขึ้นมาทันที ทั้งข่าวและข้อมูลตลอด 2 สัปดาห์ที่บริจิทเสนอ ล้วนเป็นประโยชน์ต่อทางรัฐที่จะฟ้องร้องค่าเสียหายจากผู้รับเหมา ทุกคนเหนื่อยแทบขาดใจ รวมทั้งมาร์คและโจอี้ด้วย เมื่องานชิ้นใหญ่ลุล่วงไปด้วยดี ก็ถึงเวลาของ…

ปาร์ตี้......!!!!!!

"เอาล่ะทุกคน..." บริจิทประกาศกลางวงอาหารเช้า ที่มื้อนี้ทีมงานของเธอมากันพร้อมหน้า "คืนนี้ 6 โมงเราจะมีปาร์ตี้นะจ๊ะ"

เสียงวี๊ดวิ้ว เป่าปากแสดงความดีใจดังเซ็งแซ่

"ปาร์ตี้ชายหาดที่ โรงแรม 7seas"

เงียบไปอึดใจ

"เอพริลฟูล" เบลินดาร้องขึ้น ทุกคนหัวเราะ โธ่! ก็ไอ้โรงแรมนั้นน่ะมันระดับ 5 ดาวเชียวนา แค่ปาร์ตี้ธรรมดาก็ราก เลือดแล้ว นี่ยังเป็นปาร์ตี้บริเวณชายหาดของโรงแรมอีก บริจิท ลินซ์จะเอาปัญญาที่ไหนไปจัด

"ไม่ใช่เรื่องตลกจ้ะ เบล" บริจิทบอกเบลินดา

"ไม่เอาน่าแม่" โจอี้ท้วง "แม่จะเอาตังค์มาจากไหนอ่ะ? ให้พวกเราล้างจานที่โรงแรมนั่นสัก10ปียังใช้หนี้ไม่หมด เลยมั้ง"

"ใครบอกว่าแม่จัด" บริจิทยิ้ม "ท่านเทศมนตรีไรท์จ้ะ แม่ได้รับโทรศัพท์จากท่านเมื่อวานนี้ ท่านอยากจะเลี้ยงขอบคุณพวกเราที่มีส่วนให้ข้อมูลกับทางรัฐ แม่อยากให้ทุกคนแปลกใจ"

"ตายล่ะ" เบลินดาร้อง "บริจ เธอน่าจะบอกชั้นก่อน แล้วชั้นจะไปหาชุดราตรีจากไหนอ่ะเนี่ย"

"ถ้าเธออยากจะใส่ชุดราตรียาว ลากแกรก ๆ บนชายหาดก็เชิญ เบล"

ลงว่านายไรท์เป็นเจ้ามือล่ะก็คงไม่มีปัญหาแน่ ก็อีโรงแรมมหาโหดนั่นน่ะ นายไรท์นี่ล่ะเป็นเจ้าของ

"ผมขอตัวนะฮะ" โจอี้บอก แน่ล่ะปาร์ตี้ที่โรงแรมห้าดาว ชายหาดเชียวนา แต่ดูคนที่ไปสิ อายุเกิน 30 กันแล้วทั้งนั้น ยังกะงานสังสรรค์บ้านพักคนชรา

"ไมล่ะโจอี้ ปาร์ตี้ชายหาด เจ๋งจะตาย" มาร์คร้อง

"ถ้านายจะไปล่ะก็ ชั้นจะขอบคุณมาก" โจอี้ตอบ

"ไม่เอาน่าโจอี้ นายน่าจะออกไปเที่ยวบ้าง ทำความรู้จักกะคนใหม่ ๆ มีเพื่อนใหม่ ๆ"

"แม่เห็นด้วยกับมาร์คนะจ๊ะ โจอี้ ลูกน่าจะไป" บริจิทออกความเห็น

"โธ่แม่..."

"เอาเป็นว่าแม่ขอร้อง โอเคนะจ๊ะ เอาล่ะทุกคน แยกย้ายกันพักผ่อนตามอัธยาศัย 6 โมงเย็นเจอกันจ๊ะ"

บริจิท ตัดบท ความจริงที่ให้ลูกชายเธอไปงานเพราะ อยากจะให้โจอี้กันท่าแม่สาว ๆ ที่จะคอยมาตอมมาร์คต่างหาก ใครจะรู้ว่าแขกของท่านเทศมนตรีอาจจะพาลูกสาว หลานสาว รุ่นราวคราวเดียวกะมาร์คไปก็ได้

+++++++

บริจิท ลินซ์ สวมเสื้อสายเดี่ยว กะโสร่งสีแสบตา เดินนวยนาดมาขึ้นรถมาร์ค โจอี้หน้าบอกบุญไม่รับกะเสื้อฮาวายสีสีส้มแป๊ด และกางเกงขาสั้น มาร์คก็ใส่ไอ้ชุดบ้า ๆ นี่เหมือนกัน หวังว่าทุกคนคงไม่คิดว่าพวกเค้ากำลังจะไปออกรายการตลกหรอกนะ

"มาร์คจ๊ะ.." บริจิทรียกเมื่อรถจอดถึงที่หมาย "คืนนี้เดี๋ยวชั้นจะกลับกะเบล ถ้าเธอกะโจอี้อยากจะกลับตอนไหนก็กลับเลย ไม่ต้องรอ"

เธอเข้าใจดีว่าโจอี้คงไม่อยากอยู่ในงานนานนักหรอก

"โอเคฮะ"หนุ่มหล่อรับคำ

เมื่อถึงบริเวณชายหาด โจอี้โล่งอกที่ทุกคนต่างก็ใส่โสร่งกะไอ้เสื้อสีแสบ ๆ กันทั้งนั้น สิ่งที่ทำให้ทุกคนดูงี่เง่ายิ่งขึ้นใน สายตาโจอี้คือไอ้พวงมาลัยดอกบ้าอะไรไม่รู้ที่พนักงานโรงแรงสวมให้ก่อนเข้างาน ที่ว่าแขกของท่านเทศมนตรีแค่ 2-3 คนนั้นเห็นทีจะไม่ใช่ กลุ่มใหญ่เลยเชียวละ ตอนนี้ใคร ๆ ก็อยากจะรู้จัก บริจิท ลินซ์กันทั้งนั้น บริจิทแยกออกไปทักทายท่านเทศมนตรี ปล่อยให้มาร์ค กะโจอี้อยู่กันสองคน

"พระจันทร์สวยแฮะ" มาร์คว่า

"ประสาท..." โจอี้แหงนหน้ามองไอ้เจ้าลูกกลม ๆ เหลือง ๆ ที่เหลือเพียงครึ่งเสี้ยว

"โรแมนติคหน่อยดิ๊ โจอี้"

ยังไม่ทันที่โจอี้จะตอบ เสียงแหลม ๆ ก็ดังขึ้น

"มาร์กี้..."

ตายห่ะ มาร์คอยากจะโดดทะเลตาย ทำไมเจนี่ถึงโผล่มาที่นี่ได้หว่า?

มาร์คหันไปตามเสียงเรียก เจนิเฟอร์ ฮัดสันอยู่ในชุดโสร่งสีแดงพิมพ์ตราโรงแรม อันเป็นเครื่องแบบของเด็กเสิร์ฟทุกคนในงาน สิ่งเดียวที่ทำให้เธอแตกต่างคือเครื่องสำอางค์บนใบหน้าที่ประโคมเสียราวกะว่าชาตินี้เธอจะไม่ได้มีโอกาสเจอพวกมันอีก

"งานพิเศษ... เซอร์ไพรส์จังที่เจอเธอ" เจนี่ยิ้มหวาน
มาร์คหันไปมองโจอี้ว่าอีกฝ่ายจะมีปฏิกิริยายังไง แต่ปรากฎว่าโจอี้แว่บหายไปไหนแล้วไม่รู้หาได้ยืนคอยแสดงอิทธิฤทธิ์อย่างวันนั้นไม่

"แล้วเธอมางานนี้ได้ไงอ่ะ?"

"อืม...ชั้นเป็นพนักงานของหนังสือพิมพ์เนี่ย เหมือนเธอไง งานพิเศษ"

"โอว...มาร์กี้" เจนี่โอบรอบคอ "เท่จังเลย ทีนี้ชั้นก็จะได้ไปบอกใครต่อใครว่าเธอมีส่วนการหาข่าวใหญ่เนี่ย ฮึยัย วิคกี้ต้องอิจฉาแน่ ๆ แฟนหล่อน่ะไม่มีวันทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันแบบเธอแน่มาร์กี้"

ชายหนุ่มพยายามแกะมือกาวของเจนี่ออก สายตาสอดส่ายหาร่างโจอี้

"เฮ้ มาร์กี้รู้อะไรไหม วันนี้ชั้นใส่ชั้นในลูกไม้ที่เธอเคยชมด้วยล่ะ"

"เหรอ ๆ" มาร์คยังคงมองหาโจอี้อยู่

"มาร์กี้" เจนี่เสียงแข็งเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่สนใจ "เธอมองหาใครน่ะ เพื่อนตัวเล็ก ๆ ที่มากะเธอรึไง? ให้ตายเหอะ เธอเป็นอะไรไป"

นั่นสิเราเป็นอะไร? ทำไมต้องแคร์โจอี้ด้วย?

"เปล่า"มาร์คตอบ

"งั้นไปที่ห้องแต่งตัวมั้ย"

"จะดีเหรองงานเธอ"

"ช่างปะไร" เจนี่ไม่สน กึ่งลากกึ่งจูงแฟนหนุ่มไปห้องแต่งตัว

+++++++

เกลียดมาร์ค วิลสัน ไปตายซะไป ขอให้นมยัยเจนี่นั่นอุดปากจนหายใจไม่ออกตายไปเลย ยัยลูกสาวสาธุคุณนั่นอีกคน ไปตายด้วยกันเลยไป๊!

โจอี้นั่งเอกเขนกอยู่บนเก้าอี้ชายหาดในมุมเงียบ ๆ ของงาน ท่าทางน่าสบายแต่ภายในใจกลับว้าวุ่น ควักบุหรี่ออกมากะว่าจะสูบคลายเครียดเสียหน่อย แต่พอจะจุดไฟกลับไม่ติดเสียนี่

แย่ชะมัด.....ไปตายให้หมดเลยไป ทั้งมาร์ค เจนี่ รวมทั้งแกด้วยไอ้ไฟแช็คบ้า

มือหนึ่งเอื้อมมาต่อบุหรี่ให้จากทางด่านหลัง โจอี้ลิงโลด ขยับปากจะเรียก "มาร์..."

แต่กลับไม่ใช่ เจ้าของไฟแช็คเป็นเด็กหนุ่มหน้าคม ท่าทางคงแก่กว่าโจอี้สัก 2-3 ปี

"ไม่นึกแฮะว่าจะมีเด็กหลงมาในงานเลี้ยงคนชรา"

"ไม่นึกแฮะว่าคนแก่ที่นี่จะหน้าอ่อนกว่าที่คิด"โจอี้สวน

อีกฝ่ายหัวเราะ ทิ้งตัวลงนั่งกับพื้นข้าง ๆ ยื่นมือมาให้ "ลูอิส ไรท์"

โจอี้ตาโต ก็อีนามสกุลนี้น่ะธรรมดาที่ไหน

"โจอี้...." โจอี้บอกชื่อ "ไม่เคยได้ยินแฮะว่าท่านเทศมนตรีมีลูกชาย"

"อือฮึ พ่อกะแม่ชั้นแยกกันน่ะ ชั้นอยู่กะแม่ ที่ฟลอริดาส่วนเรช พี่สาวชั้นอยู่กะพ่อ บังเอิญว่าปีนี้ชั้นจะมาเรียนต่อ มหาลัยที่นี่น่ะ"

"เรียนไร?"

"เคมี" โจอี้ทำหน้าเบ้ลงว่าเลือกเรียนเคมีคงต้องเป็นคนน่าเบื่อแหง ๆ

ลูอิสเห็นสีหน้าเด็กรุ่นน้องก็พอจะเดาออกว่า เคมีคงป็นยาขมของโจอี้แน่ ๆ

"นายหน้าตาไม่เหมือนพ่อเลยแฮะ" โจอี้ทัก "อืม ชั้นเหมือนแม่น่ะ แม่เป็นสเปนิช"

มิน่าล่ะถึงได้คมเข้มแบบมาธาร์ดอร์ยังงี้ โจอี้คิด แต่ถ้าเทียบกะมาร์คล่ะ สูสีแฮะ แต่พนันได้ว่าหมอนี่ต้องนิสัยดี กว่ามาร์ค

โจนาธาน แมทธิว ลินซ์! โจอี้ตะโกนในใจ นี่แกเป็นอะไรวะ? เจ้าหญิงเลือกคู่รึไง น่าสสะอิดสะเอียนจะตายชัก และที่สำคัญเลิกคิดถึงคนเฮงซวยแบบมาร์ค วิล สันได้แล้ว

"นายเล่นฟุตบอลรีป่าวอ่ะ?"

"ไม่..ชั้นเล่นเบสบอล" กะแล้ว หน้ายังงี้ หุ่นยังงี้ก็หนีไม่พ้นพวกนักกีฬาคนดัง โจอี้ถอนหายใจเมื่อคิดเปรียบเทียบกะตัวเอง

"เป็นอะไร?" ลูอิสถาม

"นี่ชั้นถามอะไรหน่อยได้ป่ะ? แบบว่าไอ้ความรู้สึกที่ว่า เด่น มีเสน่ห์ เป็นคนดังของโรงเรียน ใคร ๆ ก็สนใจน่ะมันเป็นไงเหรอ?"

"งี่เง่าจะตาย" อีกฝ่ายบอก "ใคร ๆ ก็อยากให้นายเป็นแบบที่เค้าคิด บางคนไม่ได้อยากรู้จักนายเลยด้วยซ้ำ เค้าอยากรู้จักกะไอ้หนุ่มที่ตีโฮมรัมเมื่อครู่ตะหาก ถามทำไม"

"ก็..." โจอี้อ้ำอึ้ง "ก็ชั้นมันตัวเตี้ย เล่นอะไรไม่เป็นสักอย่าง หน้าตาก็แย่"

"เฮ้ โจอี้.."หนุ่มรุ่นพี่ร้อง "ใครกันบอกว่านายหน้าตาแย่?"

"กระจกมั้ง"

"นี่ฟังนะ"อีกฝ่ายมองตา "นายเป็นคนมีเสน่ห์ ......มาก ๆ ด้วย"

ให้ตายเหอะ ไอ้สายตาที่ลูอิส มองมาน่ะมันเอาไว้ใช้ตอนที่จีบสาวชัด ๆ

+++++++

เจนี่ ฮัดสัน ดันตัวหนุ่มนักกีฬาติดผนัง เขย่งตัวขึ้นจูบ

ว้าว! รู้สึกหน้าอกเจนี่จะใหญ่ขึ้นแฮะ โจอี้ไปอยู่ไหนหว่า?

เจนี่สวมชั้นในลูกไม้สีดำเซ็กซี่ชะมัด โจอี้ต้องโกรธแหง ๆ ทำไงดีวะ?

อื้อ นุ่มชะมัด เจนี่ร้อนแรงเป็นบ้า ครั้งก่อนกว่าโจอี้จะยอมพูดด้วยก็ตั้งเกือบอาทิตย์

มาร์ค วิลสัน หยุดคิดถึงโจอี้ได้แล้ว ที่นายควรจะทำตอนนี้คือ แก้ผ้าแล้วก็มีเซ็กส์กะเจนี่ซะ

ชายหนุ่มจับต้นแขนทั้งสองข้างของเจนี่อย่างนุ่มนวล แล้วดันออก "โทษทีนะเจนี่คือ ชั้นมีธุระ"

กว่ามาร์คจะหลุดมาจากเจนี่ได้ก็ทำเอาเหงื่อตก โชคดีที่หัวหน้าพนักงานช่วยไว้ หาไม่มาร์คคงตกเป็นเหยื่อสวาทของเจนี่แน่ ๆ ตอนนี้สิ่งที่ต้องทำคือตามหาโจอี้ เพื่ออะไร ทำไม มาร์คเองก็ยังไม่รู้

+++++++

*****
End of Part 3

comment